สถิติน่าสนใจ แชมเปี้ยนส์ ลีก : มาริบอร์ -vs- ชาลเก้
ชาลเก้ ของกุนซือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ้ ต้องการสามแต้มในเกมนี้เป็นอย่างมากเพื่อโอกาสเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายต่อไป และต้องลุ้นให้ เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ให้ได้ ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน มาริบอร์ ยังหวังว่าจะเปิดรังทุบ ชาลเก้ ให้ได้ เพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย หลังจากที่เสมอกันมาในการพบกันหนแรก 1-1 ที่สนาม เฟลตินส์ อารีน่า
ประวัติการพบกัน
• การเผชิญหน้ากันในเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม จบลงด้วยการเสมอ 1-1 ที่บ้านของ ชาลเก้ ซึ่งเจ้าถิ่นได้ประตูจาก คลาส แยน ฮุนเตล่าร์ ส่วนทางทีมเยือน มาริบอร์ ได้ประตูจาก ดัมยาน โบฮาร์
สถิติน่าสนใจของทั้งสองทีม
มาริบอร์
• ยอดทีมจากประเทศสโลวีเนีย ยังไม่เคยเอาชนะทีมจากเยอรมันได้เลย 5 เกมหลังสุดในรายการระดับยุโรป
• มาริบอร์ สามารถเอาชนะ 2 เกมและเสมอ 1 ครั้งจากสามเกมเหย้าในรอบคัดเลือก แถมยังเสมอในเกมที่พบกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เชลซี ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่มได้อีกด้วย
• แชมป์ลีกสโลวีเนีย ยังไม่พ่ายใครในบ้านติดต่อกัน 7 เกมแล้ว นับตั้งแต่ที่แพ้ให้กับ ซูลเต้ วาเรเก็ม 0-1 ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเดือน ธันวาคม 2013 ซึ่งสถิติในบ้าน 7 นัด ชนะ 3 และเสมอ 4 ครั้ง
• ในการเล่นรอบแบ่งกลุ่มหนล่าสุดของพวกเขา จบลงด้วยการเป็นอันดับ 4 มีอยู่ 4 แต้ม จากเกมที่บุกเอาชนะ ดินาโม เคียฟ 1-0 และเสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น 0-0 ที่สนาม ไบ อารีน่า
• มาริบอร์ ต้องชนะเท่านั้น เพื่อโอกาสในการไปเล่นในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย
ชาลเก้
• สองเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ๆ จี จบลงด้วยการเสมอ 1-1 กับ เชลซี และ มาริบอร์ ด้วยประตูตีเสมอของ คลาส แยน ฮุนเตล่าร์ ทั้งสองเกม
• ในเกมที่พ่ายให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-4 ในนัดที่สี่ของรอบแบ่งกลุ่ม นั่นหมายความว่า ชาลเก้ ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยในเกมเยือน 5 นัดหลังสุด และทำให้สถิติ 5 นัดที่ผ่านมา เสมอ 2 และแพ้ 3 ครั้ง
• "ราชันสีน้ำเงิน" ต้องชนะในเกมสุดท้ายให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป และต้องลุ้นให้ เชลซี ช่วยยิงเอาชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เพื่อแย่งตำแหน่งรองแชมป์ของกลุ่ม จี