วิเคราะห์บอล กระชับมิตร : ไอร์แลนด์ -vs- อังกฤษ
สนาม : อวิว่า สเตเดี้ยม
เวลา : 19.00 น.
ราคา : อังกฤษ ต่อ ครึ่งลูกลบห้า
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
30/05/13 อังกฤษ เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1 (กระชับมิตร)
15/02/95 ไอร์แลนด์ ชนะ อังกฤษ 1-0 (กระชับมิตร)
28/03/91 อังกฤษ เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1 (ยูโร รอบคัดเลือก)
14/11/90 ไอร์แลนด์ เสมอ อังกฤษ 1-1 (ยูโร รอบคัดเลือก)
12/06/90 อังกฤษ เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
12/06/88 อังกฤษ แพ้ ไอร์แลนด์ 0-1 (ยูโร 1988)
26/03/85 อังกฤษ ชนะ ไอร์แลนด์ 2-1 (กระชับมิตร)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมกระชับมิตรของ ไอร์แลนด์
19/11/14 ชนะ สหรัฐอเมริกา 4-1 (เหย้า)
04/09/14 ชนะ โอมาน 2-0 (เหย้า)
11/06/14 แพ้ โปรตุเกส 1-5 (สนามกลาง)
07/06/14 เสมอ คาสตาริก้า 1-1 (สนามกลาง)
01/06/14 เสมอ อิตาลี 0-0 (สนามกลาง)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมกระชับมิตรของ อังกฤษ
01/04/15 เสมอ อิตาลี 1-1 (เยือน)
19/11/14 ชนะ สกอตแลนด์ 3-1 (เยือน)
04/09/14 ชนะ นอร์เวย์ 1-0 (เหย้า)
08/06/14 เสมอ ฮอนดูรัส 0-0 (สนามกลาง)
05/06/14 เสมอ เอกวาดอร์ 2-2 (สนามกลาง)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ไอร์แลนด์
30/03/15 เสมอ โปแลนด์ 1-1 (เหย้า-ยูโร รอบคัดเลือก) เสมอ ... เจ๊า
19/11/14 ชนะ สหรัฐอเมริกา 4-1 (เหย้า-กระชับมิตร) ต่อ ปป ... ได้
15/11/14 แพ้ สกอตแลนด์ 0-1 (เยือน-ยูโร รอบคัดเลือก) รอง ปป ... เสีย
15/10/14 เสมอ เยอรมัน 1-0 (เยือน-ยูโร รอบคัดเลือก) รอง 2.0 ... ได้
11/10/14 ชนะ ยิปรัลต้าร์ 7-0 (เหย้า-ยูโร รอบคัดเลือก) ต่อ 4.5 ... ได้
อังกฤษ
01/04/15 เสมอ อิตาลี 1-1 (เยือน-กระชับมิตร) รอง ปป ... ได้ครึ่ง
28/03/15 ชนะ ลิธัวเนีย 4-0 (เหย้า-ยูโร รอบคัดเลือก) ต่อ 2.5 ... ได้
19/11/14 ชนะ สกอตแลนด์ 3-1 (เยือน-กระชับมิตร) ต่อ 0.5 ... ได้
16/11/14 ชนะ สโลวีเนีย 3-1 (เหย้า-ยูโร รอบคัดเลือก) ต่อ 1.25 ... ได้
12/10/14 ชนะ เอสโตเนีย 1-0 (เยือน-ยูโร รอบคัดเลือก) ต่อ 1.5 ... เจ๊า
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ทีมชาติ ไอร์แลนด์ ของผู้จัดการทีม มาร์ติน โอ'นีลล์ จะไม่สามารถใช้งาน พอล แม็คเชน (ฮัลล์ ซิตี้) นักเตะเพียงรายเดียวที่เจ็บจาก 27 รายชื่อที่เรียกมาครั้งนี้ ในขณะที่ ร็อบบี้ คีน (แอลเอ กาแล็กซี่) ที่บินมาสมทบจากประเทศสหรัฐอเมริกาล่าช้า แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับการลงสนามเป็นศูนย์หน้าคู่กับ โจนาธาน วอลเตอร์ส (สโต๊ค ซิตี้) ส่วนแดนกลางจะใช้ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ กับ ไอเด็น แม็คกีดี้ สองแข้งจากเอฟเวอร์ตันประสานงานร่วมกับ เกล็น วีแลน (สโต๊ค ซิตี้) และ เวส ฮูลาแฮน (นอริช ซิตี้) ในขณะที่ผู้รักษาประตูมือหนึ่งเป็นหน้าที่ของ เชย์ กิฟเว่น (แอสตัน วิลล่า) ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีในพรีเมียร์ลีกช่วงท้ายฤดูกาล
ส่วนบรรดาแข้งสำรองยังมี เชน ลอง (เซาท์แฮมป์ตัน) ดาวยิงตัวเก่ง, สตีเฟ่น ควินน์ (ฮัลล์ ซิตี้) ปีกตัวจี๊ด, เดวิด เมย์เลอร์ (ฮัลล์ ซิตี้) จอมทัพร่างยักษ์, สตีเฟ่น วอร์ด (เบิร์นลี่ย์) กองหลังตัวแกร่งและ คีแรน เวสต์วู้ด (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์) มือกาวฝีมือดี ที่เป็นกำลังเสริมชั้นเยี่ยมของ โอ'นีลล์ ในศึกนี้
ส่วนทางฝั่งคู่แข่งอย่าง อังกฤษ ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน เพิ่งจะเรียกตัว ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) เข้ามาเสริมทัพเป็นรายล่าสุดเสียบแทน ไรอัน เมสัน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในรายของ อดัม ลัลลานา พลาดการซ้อมร่วมกับทีมเพราะต้องไปเฝ้าภรรยาที่ต้องครรภ์ ซึ่งการเรียกตัวครั้งนี้ยังมีชื่อของ ชาร์ลี ออสติน (ควีนส์ ปาร์ค แรนเจอร์ส), เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้) และ ทอม ฮีตัน (เบิร์นลี่ย์) สามแข้งฟอร์มดีกับต้นสังกัดติดทีมมาด้วย แต่น่าเสียดายที่ แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) หัวหอกตัวเก่งไม่สามารถเรียกมาใช้งานได้ เนื่องจากเจ้าตัวต้องรับใช้ชาติในชุดยู-21 ที่ประเทศเช็กแทน
คาดว่าเกมนี้ เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพ "สิงโตคำราม" ลงทำศึก โดยมี ธีโอ วัลคอตต์ (อาร์เซน่อล) และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (ลิเวอร์พูล) สองตัวจี๊ดช่วยบู๊เกมรุก ส่วนแผงกลางน่าจะเป็นโอกาสของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล), ฟาเบียน เดลฟ์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) และ แจ็ค วิลเชียร์ (อาร์เซน่อล) คุมเกมแดนกลาง
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไอร์แลนด์ (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น - เชมุส โคลแมน, จอห์น โอ'เช, มาร์ก วิลสัน, ร็อบบี้ เบรดี้ - เวส ฮูลาแฮน, เกล็น วีแลน, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, ไอเด็น แม็คกีดี้ - ร็อบบี้ คีน, โจนาธาน วอลเตอร์ส
อังกฤษ (4-3-3) : โจ ฮาร์ท - นาธาเนี่ยล ไคล์น, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาเบียน เดลฟ์, แจ็ค วิลเชียร์ - ธีโอ วัลคอตต์, เวย์น รูนี่ย์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ทรรศนะ Deathphobia11
ต้องบอกเลยว่าฟอร์มในช่วงหลังของทีมชาติ อังกฤษ ไม่ธรรมดาจริง ๆ แม้ว่าเกมล่าสุดจะเสมอ อิตาลี ในเกมอุ่นเครื่องมาก็ตาม แต่ย้อนกลับไปอีก 7 เกมก่อนหน้านั้นในทุกรายการ พวกเขา ชนะรวดและยังยิงประตูเป็นกอบเป็นกำถึง 19 ลูกเลยทีเดียว นอกจากนี้เกมรับของ "สิงโตคำราม" ก็ยังเด็ดดวงด้วยการเสียเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้นตลอด 8 เกมหลังสุดในทุกรายการ ส่วนทางฝั่งเจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ กับผลงาน 4 เกมหลังสุดในทุกรายการไม่ค่อยดีนัก โดยชนะเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเจ้าบ้านจะจัดผู้เล่นระดับพรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) ลงสนามอย่างคับคั่ง แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็มาจากทีมกลางตารางแทบทั้งสิ้น ถ้าเปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้วทีมชาติ อังกฤษ ดูดีมีภาษีกว่าเยอะ เชื่อว่าเรทแค่ครึ่งเม็ดไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของทีมเยือนแน่นอน และคงจะบุกไปเอาชนะได้ไม่ยาก ฟันธง! จัดหนักทีมต่อรอรับตังค์...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมต่อ
ฟันธง : "อังกฤษ ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10