วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก
แมนฯ ซิตี้ (1) -vs- ลิเวอร์พูล (10) ... (00.30)
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ราคาบอล : แมนฯ ซิตี้ ต่อ ครึ่งควบ
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
01/03/15 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
26/08/14 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
31/07/14 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (สนามกลาง-อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
13/04/14 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2
27/12/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
03/02/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
26/08/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2
26/01/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (ลีก คัพ)
12/01/12 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (ลีก คัพ)
04/01/12 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ซิตี้
08/11/15 เสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 (เยือน) / ต่อ 1.25 ... เสีย
04/11/15 ชนะ เซบีญ่า 3-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / เสมอ ... บวก
31/10/15 ชนะ นอริช ซิตี้ 2-1 (เหย้า) / ต่อ 1.75 ... เสีย
29/10/15 ชนะ คริสตัล พาเลซ 5-1 (เหย้า) ลีก คัพ /ต่อ 1.25 ... บวก
25/10/15 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน) / เสมอ ... เจ๊า
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 6 ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 19 เสีย 5 มี 15 แต้ม
ลิเวอร์พูล
08/11/15 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 (เหย้า) / ต่อ 0.75 ... เสีย
06/11/15 ชนะ รูบิน คาซาน 1-0 (เยือน) ยูโรป้า ลีก / ต่อ 0.5 ... บวก
31/10/15 ชนะ เชลซี 3-1 (เยือน) / รอง 0.5 ... บวก
29/10/15 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เหย้า-ลีก คัพ) / ต่อ 0.75 ... บวกครึ่ง
26/10/15 เสมอ เซาท์แฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า) / ต่อ 0.5 ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 6 ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 5 มี 9 แต้ม
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
แมนฯ ซิตี้
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 13 เสีย 3 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 1 เสีย 4 มี 2 แต้ม
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 5 มี 4 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 4 เสีย 2 มี 5 แต้ม
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ ของผู้จัดการทีม มานูเอล เปเญกรินี่ ยังคงมีปัญหากับการจัดทัพพอสมควร ถึงแม้จะมีกำลังสำคัญบางรายหายเจ็บกลับมาซ้อม แต่ก็ไม่แน่ว่าจะผ่านความฟิตลงช่วยทีมได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, วิลเฟร็ด โบนี่ และ ฟาเบียน เดล์ฟ โดยเฉพาะรายหลังเจ็บเพิ่มเติมมาจากเกมทีมชาติ เช่นเดียวกับปราการหลังกัปตันทีม แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่เดี้ยงมาจากการเล่นให้ทีมชาติเบลเยียม ทั้งนี้มีความเป้นไปได้สูงที่ ราฮีม สเตอร์ลิง จะถูกจับไปยืนหน้าเป้าหาก กุน และ โบนี่ ไม่พร้อมลงล่าตาข่าย ขณะเดียวกัน เฆซุส นาบาส จะถูกส่งลงฃากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งขวา ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ อยู่ทางซ้าย ตามเดิม
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ :
กองกลาง - ดาบิด ซิลบา (5 นัด 1 ประตู), ซามีร์ นาสรี (7 นัด 1 ประตู)
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือมาดเท่ ได้รับข่าวดีเมื่อแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงขวัญใจ "เดอะ ค็อป" ลงซ้อมได้อย่างเต็มรูปแบบ จึงมีลุ้นออกตัวอยู่บนม้านั่งข้างสนามเป็นอย่างน้อย รวมถึงอีกสองแกนหลักอย่างจอร์ดอน ไอบ์ กับ เจมส์ มิลเนอร์ ก็สลัดคราบเดี้ยงพร้อมออกสตาร์ท อย่างไรก็ตาม แดนนี่ อิงส์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์แดน รอสซิเตอร์, จอน เฟลนาแกน, โจ โกเมซ และ โคโล่ ตูเร่ ยังต้องพักอีกยาว ซ้ำร้าย มามาดู ซาโก้ อีกหนึ่งแนวรับกำลังสำคัญ เจ็บหนักเพิ่มเติมเข้ามา และต้องพัก 2 เดือนเป็นอย่างน้อย ส่งผลให้ คล็อปป์ ไม่มางเลือกต้องส่ง เดยัน ลอฟเรน ลงไปจับคู่กับ มาร์ติน สเคร์เทล ตรงตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ :
กองหลัง - จอน เฟลนาแกน (-), โจ โกเมซ (5 นัด), โคโล่ ตูเร่ (-), มามาดู ซาโก้ (7 นัด)
กองกลาง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (2 นัด), จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด)
กองหน้า - แดนนี่ อิงส์ (5 นัด2 ประตู)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท ; บาการี่ ซาญ่า, แว็งซ็อง ก็อมปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ; แฟร์นานโด, แฟร์นานดินโญ่ ; เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, เควิน เดอ บรอยน์ ; ราฮีม สเตอร์ลิง
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ ; เนธาเนี่ยล ไคลน์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ; เอ็มเร่ ชาน, ลูคัส เลว่า ; โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ ; คริสติย็อง เบนเตเก้
police ติดโต๊ะ
ลิเวอร์พูล ยุค คล็อป เล่นกับทีมใหญ่ได้ดี เช่นเดียวกับเกมเยือนซึ่งรูปเกมหวือหวากว่าเล่นในแอนฟิลด์ โดยแสดงให้เห็นในแมตช์บุกเจ๊าสเปอร์ส และชนะเชลซี ประกอบกับแมนฯ ซิตี้ มีปัญหาตรงแนวรุกที่ขาดตัวจัดจ้านอย่างซิลบา รวมถึง อเกวโร่ ก็ไม่ฟิต ครั้นจะหวังพึ่ง สเตอร์ลิง ในการยิงประตูก็ไม่ง่ายนักกับฟอร์มขึ้นๆลงๆของเจ้าตัว อีกทั้งนักเตะ "หงส์แดง" น่าจะจับทางดาวเตะผิวหมึกได้ไม่ยากเนื่องจากรู้ใส้รู้พุงกันดี นอกจากนี้สถิติการยิงประตู "เรือใบสีฟ้า" ช่วงหลังฝืดไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเจาะตาข่ายได้เพียงเกมเดียวตลอด 3 นัดหลังสุดในลีก ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ลิเวอร์พูล จะฉวยโอกาสแชร์แต้มถือว่าเปิดกว้างพอสมควร และวัดจากสถานการณ์ชั่วโมงนี้ ไม่เชื่อว่าเจ้าถิ่นจะยิงอาคันตุกะขาดเกินหนึ่งลูก เรท "ครึ่งควบ" กัดฟันรอง ซื้อฟอร์มนอกบ้านของผู้มาเยือน บวกซิตี้ อยู่ในช่วงปืนฝืดพอดี
ผลบอลที่คาด : เสมอ 1-1
อัตราความมั่นใจ : 8/10