สำหรับสถานการณ์ในกลุ่ม จี ซึ่งมีลุ้นเข้ารอบต่อไปถึง 3 ทีม และผู้แพ้ในเกมนี้อาจทำให้ทีมหมดสิทธิ์ได้ไปต่อทันที ซึ่งเจ้าบ้าน เชลซี ภายใต้การทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ถือหมากได้เปรียบกว่าทีมอื่นเล็กน้อย โดยขอเพียงแค่เสมอก็จะการันตีเข้ารอบแน่นอน ในขณะที่ผู้มาเยือน ปอร์โต้ ต้องเก็บสามแต้มเท่านั้นจึงจะตีตั๋วเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ เพราะหากเก็บได้เพียงคะแนนเดียว ต้องลุ้นให้ ดินาโม เคียฟ ไม่ชนะในคืนนี้เช่นกัน
ประวัติการพบกัน
• การพบกันหนล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นทางด้าน ปอร์โต้ ที่เปิดรังเอาชนะ เชลซี ไปได้ 2-1 จากประตูของ อันเดร อันเดร และ ไมค่อน ในขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ลูกเดียวจาก วิลเลี่ยน
• สถิติการพบกันทั้งหมด 7 ครั้ง เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่เอาชนะไปได้ 4 ครั้ง, เสมอ 1 และแพ้เพียง 2 ครั้ง
สถิติน่าสนใจของทั้งสองทีม
เชลซี
• ยอดทีมจากเมืองลอนดอน เก็บ 10 แต้มในรอบแบ่งกลุ่มครั้งที่ 14 ด้วยการเปิดบ้านถล่ม มัคคาบี้ เทล อาวีฟ 4-0 ก่อนจะบุกไปแพ้ ปอร์โต้ 1-2 และเสมอ ดินาโม เคียฟ 0-0 ในเกมเยือน หลังจากนั้นสองเกมพวกเขาสามารถเอาชนะรวดกับ เคียฟ และ อาวีฟ (ชนะ 3, เสมอ 1, แพ้ 1)
• ฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เก็บ 7 แต้มจาก 3 เกมเหย้าในรอบแบ่งกลุ่ม และเก็บชัยทั้งหมด 8 ครั้งจาก 11 เกมในบ้านหลังสุดรายการนี้
• "สิงห์บลูส์" มีสถิติพบกับทีมจากแดนฝอยทองทั้งหมด 12 ครั้ง เป็นการชนะ 9 เสมอ 1 และแพ้ 2 ครั้ง
• โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพา ปอร์โต้ เป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ในฤดูกาล 2004 และ อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 2010 และเขาจะเป็นคนแรกทันทีที่คุมทีมได้แชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปใน 3 สโมสร หากทำสำเร็จ
ปอร์โต้
• ตัวแทนจากลีกโปรตุเกส เริ่มต้นรอบแบ่งกลุ่มหนที่ 20 ด้วยการเจ๊า ดินาโม เคียฟ 2-2 ก่อนจะเก็บชัยรวด 3 นัดซ้อนกับ เชลซี 2-1 และสองนัดกับ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ (เหย้า, 2-0), (เยือน, 3-1) แต่สุดท้ายต้องมาแพ้คาบ้านให้กับ เคียฟ 0-2
• ปอร์โต้ ไม่แพ้ใครในเกมเยือนรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2014/2015 แถมยังเก็บได้ถึง 7 แต้มด้วยการชนะ 2 และเสมอ 1 ครั้ง
• พวกเขาเผชิญหน้ากับทีมจากลีกอังกฤษทั้งหมด 31 เกม (ชนะ 7, เสมอ 8, แพ้ 16) และเป็นการลงเตะในบ้าน 16 ครั้ง (ชนะ 7, เสมอ 6, แพ้ 3)