


ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล (9) -vs- เลสเตอร์ ซิตี้ (1) ... (22.00 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งลูกลบสิบ
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
01/01/15 ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ 2 - 2
03/12/14 เลสเตอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1 - 3
28/03/04 เลสเตอร์ เสมอ ลิเวอร์พูล 0 - 0
20/09/03 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 2 - 1
30/01/02 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 1 - 0
20/10/01 เลสเตอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1 - 4
03/03/01 เลสเตอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล 2 - 0
21/10/00 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ 1 - 0
03/05/00 ลิเวอร์พูล แพ้ เลสเตอร์ 0 - 2
18/09/99 เลสเตอร์ เสมอ ลิเวอร์พูล 2 - 2
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
ลิเวอร์พูล
20/12/15 แพ้ วัตฟอร์ด 0-3 (เยือน) ต่อ 0.5 ... เสีย
13/12/15 เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2 (เหย้า) ต่อ 1.25 ... เสีย
11/12/15 เสมอ ซิยง 0-0 (เยือน) ยูโรป้า ลีก / ต่อ 0.5 ... เสีย
06/12/15 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 (เยือน) ต่อ 1 ... เสีย
03/12/15 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 6-1 (เยือน) ลีก คัพ / รอง ปป ... บวก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก - แข่ง 8 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 10 เสีย 11 มี 12 แต้ม
เลสเตอร์
19/12/15 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2 (เยือน) รอง 0.5 ... บวก
15/12/15 ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) รอง ปป ... บวก
05/12/15 ชนะ สวอนซี 3-0 (เยือน) เสมอ ... บวก
29/11/15 เสมอ แมนยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) รอง ปป ... บวกครึ่ง
21/11/15 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 (เยือน) ต่อ ปป ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก - แข่ง 9 ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 0 ได้ 21 เสีย 11 มี 21 แต้ม
ฟอร์ม 6 นัดล่าสุดในลีก
(12) ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 4 เสีย 4 มี 4 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 6 มี 3 แต้ม
(1) เลสเตอร์
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 3 มี 7 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 9 เสีย 2 มี 9 แต้ม
สถิติน่าสนใจ
- ลิเวอร์พูลแบ่งให้ เลสเตอร์แค่ 2 คะแนนเท่านั้นในการดวลกัน 6 ครั้งหลังในพรีเมียร์ลีก (ลิเวอร์พูลชนะ 4 เสมอ 2)
- 9 ปีหลังสาวก "หงส์แดง" ยังไม่เคยเห็นทีมรักพ่ายคารังในวันบ็อกซิ่งเดย์ (ชนะ 6 เสมอ 3) โดยครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูลแพ้คาแอนฟิลด์ในวันแกะกล่องของขวัญต้องย้อนไปศึกแดงเดือดในปี 1986 ซึ่ง "ปีศาจแดง" แมนยูไนเต็ดปาดชนะ 1-0
- ลิเวอร์พูลเก็บได้ 12 คะแนนจากการหวดเกมลีก 9 นัดภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งเทียบแล้วตอน เบร็นแดน ร็อดเจอร์สคุมทีมเมื่อซีซั่นก่อนยังแอบดีกว่านิด ๆ เพราะทีมของ ร็อดเจอร์สเก็บคะแนนได้เท่ากันจากการเล่น 8 เกม
- เกมบุก "หงส์แดง" ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 20 ลูกหลังผ่าน 17 เกม ซึ่งถือว่าประสิทธิภาพแนวรุกทื่อสุดในทีมกลุ่มครึ่งบนของตาราง
- เลสเตอร์เป็นรายที่ 3 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลลีกสูงสุดประเทศอังกฤษ ที่ผันตัวจากทีมอันดับสุดท้ายของลีกในช่วงคริสต์มาสปีก่อน กลายเป็นจ่าฝูงของลีกในหนึ่งปีถัดมา โดยทีมแรกที่ทำได้คือเบิร์นลี่ย์ (1925-1926) และรายสุดท้ายที่ทำสำเร็จก่อนปีทองของ "จิ้งจอกสยาม" คือนอริช (1987-1988)
- ทีมของเคลาดิโอ รานิเอรี่ไม่แพ้ใครต่อเนื่อง 10 เกมและยืนระยะไร้พ่ายนอกบ้านมายาวนานกว่า 9 เดือน จากสถิติชนะ 8 เสมอ 4 นับตั้งแต่แพ้ที่รัง "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 3-4 ในเดือนมีนาคม
- สมราคากับตำแหน่งจ่าฝูง เพราะแนวรุก เลสเตอร์เป็นเบอร์ 1 ของพรีเมียร์ลีกในเทอมนี้ (37 ประตู) และเป็นทีมเดียวที่มีสกอร์มาฝากในเกมลีกทุกนัดของซีซั่นใหม่แบบไม่ขาดช่วงสักเกม
สภาพความพร้อมล่าสุด
หมดเวลาโชว์หนึบของ อดัม บ็อกดานหลังจากนายทวารทีมชาติฮังการีเสีย 3 ประตูนัดแพ้ยับที่ วัตฟอร์ด เพราะเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูลจะได้ ซิมง มิโญเล่ต์มือเบลเยียมคืนเฝ้าเสาหลังจากหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ส่วนเซนเตอร์แบ็ก มาร์ติน สเคอร์เทลที่เดี้ยงมาจากเกมล่าสุดโชคร้ายต้องพักยาว 6 สัปดาห์ ทำให้เกมรับ "หงส์แดง" ต้องเติม เดยัน ลอฟเรนซึ่งเพิ่งหายเจ็บลงสนามทันทีเพื่อจับคู่ปราการหลังตัวกลางกับ มามาดู ซาโก้
สำหรับแผงมิดฟิลด์สัปดาห์นี้ยังต้องหั่นชื่อของ เจมส์ มิลเนอร์เพราะยังมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อแถวน่อง เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษที่ต้องขยายเวลาเรียกความฟิตอีกอย่างน้อย 10 วันก่อนพร้อมเป็นทางเลือกของเจ้านายอีกครั้ง โดยแมตช์นี้ คล็อปป์จะเดิมพันต่อกับตัวจริงชุดพ่าย "แตนอาละวาด" เพราะเปลี่ยนแค่จุดเดียวคือเติม ดิว็อค โอริกี้เข้าไปแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เท่ากับคนที่รอต้องเป็น คริสติย็อง เบนเตเก้เช่นเคย
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ :
กองหลัง - มาร์ติน สเคอร์เทล (17 นัด/1 ประตู)
กองกลาง - เจมส์ มิลเนอร์ (15 นัด/2 ประตู)
กองหน้า - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (5 นัด/2 ประตู)
เคลาดิโอ รานิเอรี่กุนซือ เลสเตอร์ยังประคองต้นสังกัดให้ครอบครองตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้อย่างเหนียวแน่น โดยไม่ปล่อยช่องว่างให้คู่แข่งได้เสียบจากผลงานชนะ 3 นัดก่อนก่อนเยือนแอนฟิลด์ในศึกบ็อกซิ่งเดย์ เพียงแต่ข่าวร้ายก่อนบิ๊กแมตช์คือการบาดเจ็บของ แดนนี่ ดริ๊งค์วอเทอร์มิดฟิลด์ตัวเก่งที่เดี้ยงสังเวย 3 แต้มเหนือ เอฟเวอร์ตัน 3-2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้อาการไม่ได้รุนแรง แต่ รานิเอรี่เน้นปลอดภัยไว้ก่อนเลยตัดสินใจไม่เสี่ยงเข็น ดริ๊งค์วอเทอร์คืนสนามด้วยสภาพไม่เต็มร้อย
เกมรับ "จิ้งจอกสยาม" ได้ โรเบิร์ต ฮูธ (16 นัด) เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์ชาวเยอรมันพ้นโทษแบนและจะเสียบแทนตัวเล่นอะไหล่อย่าง มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ที่ประเดิมสนามนัดแรกของซีซั่นเมื่อสัปดาห์ก่อน สำหรับแดนกลางคาดว่า รานิเอรี่จะเติมประสบการณ์ของ โกคาน อินเลอร์ลงชดเชยการขาดหายไปของ ดริ๊งค์วอเทอร์ ขณะที่ 3 ประสานแนวรุกสุดอันตรายเป็นการผนึกกำลังระหว่างจอมเทคนิค ริย้าด มาห์เรซคอยเปิดเกมสนับสนุนคู่กองหน้า ชินจิ โอกาซากิกับ เจมี่ วาร์ดี้
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ :
กองกลาง - แดนนี่ ดริ๊งค์วอเทอร์ (16 นัด)
กองหน้า - เจฟ ชลุปป์ (14 นัด/1 ประตู)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน - อดัม ลัลลานา, ดิว๊อค โอริกี้, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
เลสเตอร์ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมป์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริย้าด มาห์เรซ, โกคาน อินเลอร์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน - ชินจิ โอกาซากิ, เจมี่ วาร์ดี้
ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย
เป็นจังหวะที่ไม่เหมาะนักสำหรับ "หงส์แดง" ในการทำศึกใหญ่ เพราะฟอร์มบนเส้นทางพรีเมียร์ลีกกำลังระส่ำหลังทีมของ คล็อปป์เก็บเพิ่มได้คะแนนเดียวจาก 3 นัดท้าย โดยปัญหาหลักที่ผุดขึ้นมาจนกระเทือนผลงานทั้งทีม หนีไม่พ้นความหละหลวมของเกมรับ ซ้ำร้ายงานนี้เจ้าถิ่นโดนไข้เดี้ยงพราก สเคอร์เทลซึ่งผลงานสม่ำเสมอสุดในบรรดาเซนเตอร์แบ็กที่มีอยู่ไปอีก ดูสภาพแล้วการรับมือเกมรุกอันคมกริบของจ่าฝูง เลสเตอร์คงทำได้ยาก ขณะเดียวกันแผงรุกของ ลิเวอร์พูลยังหาความแน่นอนไม่ได้ ผิดกับคู่หน้า "จิ้งจอกสยาม" ที่แย่งกันยิงจนหลายทีมต้องผวา แถมซีซั่นความร้อนแรงของ เลสเตอร์ไม่จำกัดสถานที่ โดยมีสถิติไร้พ่ายนอกบ้านในลีกเป็นเครื่องการันตีความเหนียว (ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 0) เห็นแบบนี้แล้วเจ้ามือยังกล้า ๆ เปิดมาให้ "หงส์แดง" ข่ม "ครึ่งลูก" ก็คงต้องรองไปตามหน้าเสื่อแบบไม่ต้องคิดมาก
เดิมพันน่าสนใจ : "รอง เลสเตอร์ ครึ่งลูกลบสิบ"
ระดับความมั่นใจ : "8/10"
ผลบอลที่คาด : "ลิเวอร์พูล 2-2 เลสเตอร์"