วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : เลสเตอร์ ซิตี้ (1) -vs- ลิเวอร์พูล (7)
สนาม : คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น.
ราคา : เลสเตอร์ ซิตี้ ต่อ เสมอ
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
26/12/15 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
01/01/15 ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2
03/12/14 เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
28/03/04 เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
20/09/03 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1
31/01/02 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เลสเตอร์ ซิตี้
23/01/16 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
21/01/16 แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) รอง ปป ... เสีย
17/01/16 เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เยือน) ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
14/01/16 ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 (เยือน) รอง 0.75 ... ได้
10/01/16 เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-2 (เยือน-เอฟเอ คัพ) รอง 0.75 ... ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 11 ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 1 ได้ 19 เสีย 13
ลิเวอร์พูล
31/01/16 เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-0 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) ต่อ 0.5 ... เสีย
27/01/16 แพ้ สโต๊ค ซิตี้ 0-1 (เหย้า-ลีก คัพ) ต่อ 0.75 ... เสีย (ชนะจุดโทษ 6-5)
23/01/16 ชนะ นอริช ซิตี้ 5-4 (เยือน) ต่อ 0.5 ... ได้
21/01/16 ชนะ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ 3-0 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) ต่อ 2.0 ... ได้
17/01/16 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 (เหย้า) ต่อ ปป ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 4 ได้ 16 เสีย 17
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
เลสเตอร์ ซิตี้
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 3 เสีย 0
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 2
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 4 เสีย 4
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 6
สถิติที่น่าสนใจ
- ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ตลอด 7 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดที่พบกัน (ชนะ 5, เสมอ 2)
- "จิ้งจอกสยาม" สามารถเอาชนะ "หงส์แดง" ได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น จากการเปิดรัง 13 ครั้งหลังสุด (ชนะ 3, เสมอ 4, แพ้ 6)
- เลสเตอร์ ซิตี้ รั้งตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ฤดูกาลนี้ยาวนานกว่า 43 วัน เป็นรองแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (100 วัน)
- ลูกทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ยังไม่พลาดท่าให้ใครคารังตลอด 7 เกมลีกท้าย (ชนะ 4, เสมอ 3) ซึ่งพวกเขาเคยทำไว้ยาวนานที่สุด 9 เกมติดต่อกันในลีกสูงสุดเมื่อปี 1999
- "เดอะ ฟ็อกซ์" แพ้เพียงหนเดียวจาก 16 เกมลีกหลังสุด และแค่ 3 เกมจาก 32 นัดท้ายในลีก
- เลสเตอร์ ซิตี้ เสียแค่ประตูเดียวตลอด 5 นัดท้ายในลีก
- ริย้าด มาห์เรซ มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 21 ประตูที่ทีมได้ในฤดูกาลนี้ ซึ่งมากกว่าใครใดๆ ในลีก (13 ประตู, 8 แอสซิส)
- ลิเวอร์พูล เก็บชัยได้เพียงครั้งเดียวจาก 4 เกมลีกหลังสุด ด้วยการเอาชนะ นอริช ซิตี้ 5-4
- "หงส์แดง" เสียประตูจากลูกเตะมุมถึง 8 ครั้งในซีซั่นนี้
- โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ยิง 4 ประตูจาก 3 เกม ซึ่งมากกว่า 24 นัดก่อนหน้าในทุกรายการที่ยิงเพียงลูกเดียว
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ไม่มีรายงานของตัวเจ็บเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก เจฟฟรี่ ชลุปป์ กับ แม็ตธิว เจมส์ ที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนหน้า ในขณะที่ ริตชี่ เด เลียต ฟูลแบ็คจอมลุยต้องรอเช็คฟิตอีกครั้ง ส่วนทางด้านของ ดาเนี่ยล อมาร์เต้ย์ มิดฟิลด์ตัวใหม่ที่ดึงมาจาก โคเปนเฮเก้น ในลีกเดนมาร์ค ยังไม่มีชื่อลงสนามแน่นอน คาดว่า รานิเอรี่ จะยึด 11 ผู้เล่นตัวจริงจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-0 ออกสตาร์ททั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เจมี่ วาร์ดี้ กับ ชินจิ โอกาซากิ หน้าคู่มหาประลัยและ ดาเนี่ยล ดริ๊งค์วอเตอร์ กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สองจอมทัพตัวหลัก นอกจากนี้ยังมี ริย้าด มาห์เรซ กับ มาร์ก อัลไบรจ์ตัน คอยขึ้นเกมริมเส้นซ้าย-ขวาตามสูตร
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองกลาง - เจฟฟรี่ ชลุปป์ (14 นัด/1 ประตู), แม็ตธิว เจมส์ (-)
ส่วนทางฝั่งทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล ของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ตัว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สลัดเจ็บที่ส้นเท้ากลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วนทางด้านผู้เล่น 7 รายที่เดี้ยง มีเพียงแค่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เท่านั้นที่ใกล้จะกลับมาร่วมซ้อมกับทีมได้ คาดว่า คล็อปป์ จะสลับมาใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ในลีกลงทำศึกตามเดิม และแน่นอนว่า คริสติย็อง เบนเตเก้ จะถูกดร็อปเป็นสำรองตามเดิม เพราะยังโชว์ฟอร์มไม่เป็นที่น่าประทับใจในเกม เอฟเอ คัพ หนล่าสุดที่เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อย่างไรก็ดีเกมนี้กุนซือเฮฟวี่เมทัล เตรียมส่งพวก มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ และ อดัม ลัลลานา กลับมาเป็นตัวจริง
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - โจ โกเมซ (5 นัด), มาร์ติน สเคอร์เทล (17 นัด/1 ประตู)
กองกลาง - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (17 นัด/5 ประตู), จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด)
กองหน้า - แดนนี่ อิงส์ (5 นัด/2 ประตู), ดิว๊อค โอริกี้ (8 นัด/1 ประตู), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (5 นัด/2 ประตู)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมป์สัน, เวส มอร์แกน, โรเบิร์ต ฮูธ, คริสเตียน ฟุคส์ - ริย้าด มาห์เรซ, ดาเนี่ยล ดริ๊งค์วอเตอร์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน - ชินจิ โอกาซากิ, เจมี่ วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน - เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, อดัม ลัลลานา
ทรรศนะ Deathphobia11
เชื่อว่าเกมจะต้องเป็นแมตช์ที่หวดกันไปแล่บแน่นอน แม้ว่าเกมล่าสุดที่พบกันจะจบลงด้วยการเฉือนหวิวของ ลิเวอร์พูล 1-0 แต่การกลับมาเล่นที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ จะต้องเปลี่ยนมาเล่นเกมรุกเต็มรูปแบบ ซึ่งเกมล่าสุดที่เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-0 แสดงให้เห็นถึงการโจมตีที่หวังผลได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เกมรับในบ้านก็ดูจะแน่นขึ้นชนิดผิดหูผิดตา โดยเสียเพียงแค่ 3 ประตูจาก 7 เกมเหย้าท้าย และแน่นอนว่าพวกเขายังไม่แพ้ใครคาบ้านนับตั้งแต่ที่พลาดท่าให้กับ อาร์เซน่อล เมื่อ 4 เดือนก่อน เท่านั้นยังไม่พอ หากมองในเรื่องสภาพร่างกายและขุมกำลังของทีม ก็ดูเหมือนจะเป็นต่อเยอะด้วยซ้ำ เพราะทางฝั่ง "หงส์แดง" ต้องกรำศึกหนักแบบมาราธอน 4 นัดใน 10 วัน จริงอยู่ที่มีการโรเตชั่น แต่ก็ยังมีผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ลงเตะแทบทุกนัด ซึ่งส่งผลถึงอาการกรอบที่อาจจะมาเยือนในช่วงท้ายเกมก็เป็นได้ อีกทั้งปัญหาในเกมรับก็ดูจะน่าเป็นห่วง หลังเสีย 10 ประตูจาก 4 เกมลีกหลังสุด นั่นหมายความว่าหนึ่งเกมต้องมีโดนอย่างน้อย 2-3 เม็ด เชื่อว่าเกมนี้น่าจะเป็นโอกาสของเจ้าถิ่นได้ล้างแค้น แถมเรทเสมก็ยิ่งเข้าทาง ฟันธง! ถือหาง "จิ้งจอกสยาม" งามหยดติ๋ง...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมต่อ
ฟันธง : "เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10