วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก
เชลซี (13) -vs- นิวคาสเซิ่ล (17) ... (00.30)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ราคาบอล : เชลซี ต่อ ลูกควบลบสิบ
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
26/09/15 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ เชลซี 2-2
10/01/15 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0
06/12/14 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-1
08/02/14 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-0
02/11/13 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
02/02/13 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 3-2
26/08/12 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0
03/05/12 เชลซี แพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-2
03/12/11 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 0-3
15/05/11 เชลซี เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-2
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เชลซี
07/02/16 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) / ต่อ 0.5 ... เสีย
04/02/16 เสมอ วัตฟอร์ด 0-0 (เยือน) / ต่อ 0.5 ... เสีย
31/01/16 ชนะ เอ็มเค ดอนส์ 5-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... บวก
24/01/16 ชนะ อาร์เซน่อล 1-0 (เยือน) / รอง ปป ... บวก
16/01/16 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 3-3 (เหย้า) / ต่อ 0.75 ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 4 ได้ 20 เสีย 19
นิวคาสเซิ่ล
06/02/16 ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (เหย้า) / ต่อ ปป ... บวก
04/02/16 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-3 (เยือน) / รอง 0.75 ... เสีย
23/01/16 แพ้ วัตฟอร์ด 1-2 (เยือน) / รอง 0.5 ... เสีย
16/01/16 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า) / ต่อ ปป ... บวก
13/01/16 เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 (เหย้า) / รอง 0.75 ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 9 ได้ 6 เสีย 26 มี 7 แต้ม
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
เชลซี
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 3 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 6 มี 3 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 4 เสีย 0 มี 7 แต้ม
นิวคาสเซิ่ล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 4 มี 7 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 1 เสีย 6 ไม่มีแต้ม
สถิติที่น่าสนใจ
- นิวคาสเซิล บุกชนะเชลซี ได้เพียงหนเดียวตลอด 21 ทริปเยือนสแตมฟอร์ดบริดจ์ หลังสุดในพรีเมียร์ลีก โดยเกิดขึ้นในปี 2012 ซึ่ง "เดอะ แม็กพายส์" ยกพลซิว 2-0
- เชลซี ไม่แพ้ในลีกมา 9 นัดติดต่อกัน ถึงแม้จะออกเสมอถึง 6 จาก 9 นัดก็ตาม
- อีกทั้ง "สิงห์บลูส์" สะกดชัยในลีกไม่เจอมา 4 นัดติดในสแตมฟอร์ดบริดจ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 และเสียถึง 8 ลูกตลอด 4 นัดดังกล่าว
- อย่างไรก็ดี ดีเอโก้ คอสต้า กดไป 6 ตุง จาก 7 เกมท้ายในลีก ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ หากเทียบกับช่วง 14 เกมก่อนหน้า ซึ่งเจ้าตัวกดไปเพียง 4 ลูก
- นิวคาสเซิล เล่นเกมเยือนได้อย่างย่ำแย่ เมื่อพ่ายไปถึง 15 จาก 18 เกมเยือนที่ผ่านมา (ชนะ 2 เสมอ 1)
- นอกจากนี้ "สาลิกาดง" เบิกประตูนอกบ้านได้แค่ 6 ลูก ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว นับเป็นสถิติน้อยสุดในพรีเมียร์ลีก
- นิวคาสเซิล หยุดสถิติเสียประตูติดต่อกัน 9 นัด ในเกมเฉือนเวสต์บรอมวิช 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
กุส ฮิดดิ้งค์ เตรียมส่ง แกรี่ เคฮิลล์ ลงขันแนวรับกับ จอห์น เทอร์รี่ ในรอบหลายๆ นัด เนื่องจากปราการหลังตัวหลักอย่างคูร์ท ซูม่า เข่าพังต้องพักยาว 6 เดือน ส่วน เอแด็น อาซาร์ ตัวรุกชาวเบลเยียม มีลุ้นออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ทว่าต้องชั่งใจ ฮิดดิ้งค์ ว่าจะเอาอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาด้านความฟิตของอาซาร์ แต่ที่จะวืดแน่ๆ เลยก็มี ราดาเมล ฟัลเกา กับ ลออิก เรมี่ สองศูนย์หน้าที่กอดคอเดี้ยง ในขณะที่อีกหนึ่งตัวความหวังใหม่ อเล็กซานเดร ปาโต้ ยังอยู่ในระหว่างการเร่งความฟิตและน่าจะยังไม่พร้อม ซ้ำร้ายมีข่าวล่าเข้ามา เมื่อ ดีเอโก้ คอสต้า เกิดจมูกแตกระหว่างซ้อมมื้อสุดท้าย ซึ่งหัวหอกทีมชาติสเปน อาจต้องใส่หน้ากากกันกระแทกลงล่าตาข่าย
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ :
กองหลัง - คูร์ท ซูม่า (23 นัด 1 ประตู)
กองหน้า - ราดาเมล ฟัลเกา (9 นัด 1 ประตู), ลออิก เรมี่ (10 นัด 1 ประตู)
สตีฟ แม็คคลาเรน ยังปวดหัวกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ และไม่ฟิตรวมกันกว่า 15 ราย ก่อนมีคิวบุกรังสแตมฟอร์ดบริดจ์ หมายความว่า "บิ๊กแม็ค" ไม่มีทางเลือกในการจัดทัพ จำต้องส่งผู้เล่นจากเซ็ตชนะเวสต์บรอมวิช ลงบู๊ แต่โชคดีที่ผู้เล่นชุดดังกล่าว โชว์ฟอร์มกันได้ดี จึงสบายใจไปได้บ้างสำหรับอดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ แต่อาจจะปรับเล็กน้อย ด้วยการส่ง เซย์ดู ดุมเบีย ลงล่าตาข่ายแทน มิโตรวิช ในกรณีที่ แม็คลาเรน ต้องการใช้ความเร็วเข้าฉีกแนวรับที่ค่อนข้างช้าของเจ้าบ้าน นอกนั้นไม่น่ามีอะไรเซอร์ไพรส์ "สาลิกาดง" มาในระบบเดิม 4-2-3-1 วาง จอนโจ้ เชลวี่ย์ ตัดเกมร่วมกับ ชีค ติโอเต้ ปล่อยให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม และ แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ มีอิสระในการทำเกมรุก
ตัวแบน :
กองหลัง - ยามาล แลสเซลเลส (7 นัด 1 ประตู)
ตัวเจ็บ :
ผู้รักษาประตู - ทิม ครูล (8 นัด)
กองหลัง - มาสซาดิโอ ไฮดาร่า (7 นัด), ชานเซล เอ็มเบมบา (24 นัด)
กองกลาง - กาเบรียล โอแบร์กต็อง (5 นัด), วูร์นอน อนิต้า (18 นัด), ชีค ติโอเต้ (11 นัด), ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ (-)
กองหน้า - ปาปิส ซิสเซ่ (13 นัด 2 ประตู), อิวาน โทนี่ย์ (1 นัด), เกอแว็ง เอ็มบาบู (3 นัด)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ; บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า ; เนมันย่า มาติช, จอห์น โอบิ มิเกล ; วิลเลี่ยน, เชส ฟาเบรกาส, เอแด็น อาซาร์ ; ดิเอโก้ คอสต้า
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ร็อบ เอลเลียต ; ดารีล ยานมาต, สตีเว่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, โรลันโด้ อารอนส์ ; จอนโจ้ เชลวี่ย์, ชีค ติโอเต้ ; มุสซ่า ซิสโซโก้, จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม, แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ ; อเล็กซานดรา มิโตรวิช
police ติดโต๊ะ
เชลซี คงเบนเข็มไปที่ฟุตบอลถ้วย หลงัจากเป้าหมายลุ้นโควต้าอันดับ 4 นั้นห่างไกลเกินไป จึงมีความเป็นไปได้ที่ "สิงห์บลูส์" จะผ่อนคันเร่งเพื่อเก็บแรงไปบู๊กับเปแอสเช ในศึกยูซีแอล กลางสัปดาห์ จึงเป็นโอกาสดีของนิวคาสเซิ่ล ซึ่งกำลังขับเคี่ยวหนีตกชั้นกับบรรดาคู่แข่งท้ายตาราง อีกทั้ง "เดอะ แม็กพาายส์" เสริมทัพได้อย่างน่ากลัว โดยเฉพาะการเซ็น เชลวี่ย์ และ ทาวน์เซ่นด์ เข้ามาเติมมิติในเกมรุก ซึ่งเชื่อว่าผู้มาเยือนที่หลังพิงฝา จะบุกสู้กับเจ้าบ้านได้อย่างสนุก ยิ่งทีมจากลอนดอนไม่ได้มุ่งมั่นเต็มสูบกับเกมลีก ก็คงให้เครดิตกับมวยรอง เรท "ลูกควบ" มองจากสถานการณ์ยังไงลูกทีมของ ฮิดดิ้งค์ ไม่มีทางยิงเกินหนึ่งลูก
ผลบอลที่คาด : เชลซี เฉือน 2-1 หรือ เสมอ 1-1
อัตราความมั่นใจ : 8/10
