วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล (11) -vs- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4)
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 03.00 น.
ราคา : เลือก
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
29/02/16 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (สนามกลาง-ลีก คัพ)
22/11/15 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
01/03/15 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1
26/08/14 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
31/07/14 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (สนามกลาง-อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
13/04/14 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2
27/12/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
03/02/13 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
26/08/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2
26/01/12 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (ลีก คัพ)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
29/02/16 เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (สนามกลาง-ลีก คัพ) รอง ปป ... ได้ครึ่ง (แพ้จุดโทษ 1-3)
26/02/16 ชนะ เอ๊าก์สบวร์ก 1-0 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
19/02/16 เสมอ เอ๊าก์สบวร์ก 0-0 (เยือน-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 0.5 ... เสีย
14/02/16 ชนะ แอสตัน วิลล่า 6-0 (เยือน) ต่อ 0.75 ... ได้
10/02/16 เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน-เอฟเอ คัพ) เสมอ ... เจ๊า
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 3 ได้ 16 เสีย 17
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
29/02/16 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (สนามกลาง-ลีก คัพ) ต่อ ปป ... เสียครึ่ง (ชนะจุดโทษ 3-1)
25/02/16 ชนะ ดินาโม เคียฟ 3-1 (เยือน-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ต่อ ปป ... ได้
21/02/16 แพ้ เชลซี 1-5 (เยือน-เอฟเอ คัพ) รอง 1.25 ... เสีย
15/02/16 แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... เสีย
06/02/16 แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (เหย้า) ต่อ 1.0 ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 3 ได้ 13 เสีย 11
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 6
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 11 เสีย 6
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 6 เสีย 5
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 3
สถิติที่น่าสนใจ
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เคยเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยตลอด 12 เกมลีกที่บุกไปเยือนถิ่น แอนฟิลด์ (เสมอ 4, แพ้ 8)
- มี 34 ประตูเกิดขึ้นใน 9 เกมหลังสุดที่พบกันในทุกรายการและไม่มีทีมใดที่เก็บคลีนชีตได้เลยตลอดช่วงเวลาดังกล่าว
- ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยเก็บชัยในเกมเหย้าลีก นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2016
- "หงส์แดง" เก็บชัยได้เพียงหนเดียวจาก 4 เกมลีกในบ้านหลังสุด
- ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จะลงเตะในเกมนี้เป็นนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก และเขาเป็นคนที่สามารถยิง 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่พบกับ "เรือใบสีฟ้า" รวมไปถึงเกม ลีก คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยในเกมเยือนเพียง 2 จาก 9 ครั้งหลังสุดในลีก (เสมอ 4, แพ้ 3) และยิงได้เพียง 7 ประตูเท่านั้น
- "เรือใบสีฟ้า" อาจจะแพ้สามเกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2008
- ลูกทีมของ มานูเอล เปเญกรินี่ สามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 7 ครั้งจาก 12 เกมเยือนในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
- เซร์กิโอ อเกวโร่ ซัด 4 ประตูจากการลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในขณะที่การไปเล่นที่ แอนฟิลด์ ยังไม่สามารถทำประตูได้เลย
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ตัว เดยัน ลอฟเรน กองหลังโครแอ็ตสลัดเดี้ยงกลับมาประจำการเฝ้าเกมรับได้อีกครั้ง ส่วนข่าวร้ายก็คือการไร้เงาของ มามาดู ซาโก้ กับ มาร์ติน สเคอร์เทล สองเซ็นเตอร์ตัวหลักของทีม นอกจากนี้ยังจะไม่มีชื่อของ โจ อัลเลน, ลูคัส เลว่า และ แดนนี่ อิงส์ ที่เจ็บอยู่ทั้งสิ้น คาดว่า คล็อปป์ จะปรับมาใช้ระบบ 4-3-3 และจับ ลอฟเรน ยืนคู่กับ โคโล่ ตูเร่ เฝ้าหลังบ้าน ในขณะที่แนวรุกจะวาง โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ เป็นหน้าตัวกลางและใช้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ อดัม ลัลลานา คอยประสานงานอยู่ด้านข้าง ส่วนสามมิดฟิลด์เกมนี้ยังคงเป็นหน้าที่ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน และ เจมส์ มิลเนอร์ เหมือนเช่นเคย
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - โจ โกเมซ (5 นัด), มาร์ติน สเคอร์เทล (17 นัด/1 ประตู), มามาดู ซาโก้ (17 นัด)
กองกลาง - โจ อัลเลน (9 นัด/1 ประตู), ลูคัส เลว่า (20 นัด), จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด)
กองหน้า - แดนนี่ อิงส์ (5 นัด/2 ประตู)
ส่วนทางฝั่งทีมเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของผู้จัดการทีม มานูเอล เปเญกรินี่ มีข่าวดีเมื่อ เอลากวิม ม็องกาล่า หายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้แล้ว โดยเหลือเพียงแค่ ซามีร์ นาสรี่, เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟาเบียน เดลฟ์ ที่ยังคงเดี้ยงอยู่ คาดว่า เปเญกรินี่ จะเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากเกมล่าสุดที่เพิ่งจะเอาชนะจุดโทษกันมา 3-1 ในศึก ลีก คัพ ด้วยการสลับมาใช้ โจ ฮาร์ท ลงเฝ้าเสาตามเดิมและให้ แฟร์นันโด จับคู่กับ แฟร์นันดินโญ่ แทนที่ของ ยาย่า ตูเร่ ที่น่าจะได้พัก ส่วนเกมรุกจะส่ง เฆซุส นาบาส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ ดาบิด ซิลบา และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งแน่นอนว่าหน้าเป้าเป็นงานของ เซร์กิโอ อเกวโร่ ตามสูตร
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองกลาง - ซามีร์ นาสรี่ (7 นัด/1 ประตู), เควิน เดอ บรอยน์ (19 นัด/5 ประตู), ฟาเบียน เดลฟ์ (12นัด/2 ประตู)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, โคโล่ ตูเร่, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์ - อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - บาการี่ ซาญ่า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันโด, แฟร์นันดินโญ่ - เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - เซร์กิโอ อเกวโร่
ทรรศนะ Deathphobia11
เชื่อว่าความพ่ายแพ้จากเกม ลีก คัพ จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังฮึดให้กับเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ในแมตช์นี้ เพราะนั่นเป็นการล้างตาโดยตรง และน่าจะทำให้นักเตะ "หงส์แดง" ตั้งหน้าตั้งตาเล่นกันแบบลืมตาย จริงอยู่ที่ฟอร์มเกมเหย้าในลีกช่วงหลังของพวกเขาอาจจะไม่สวยหรูนัก แต่ตลอด 6 เกมในบ้านหลังสุด กลับแพ้เพียงหนเดียวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 อย่างไรก็ดีลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถทำได้ 9 ประตูจากช่วงเวลาดังกล่าวได้อีกด้วย สวนทางกับผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แพ้มารวดสองเกมลีกท้ายและเสียไปถึง 5 เม็ด จะบุกมาพร้อมกับสภาพทีมที่อ่อนล้าไม่แพ้กัน แถมยังมีผู้เล่นถึง 9 รายที่ลงเตะในนัดชิงสุดทรหด 120 นาทีมาอีกด้วย นอกจากนี้ไม่น่าเชื่อว่า "เรือใบสีฟ้า" จะไม่เคยบุกมาเอาชนะที่ แอนฟิลด์ ได้เลยตลอด 12 เกมลีกหลังสุด และเป็นการแพ้ถึง 8 ครั้ง โดยล่าสุดก็เพิ่งจะโดนเฉือนมา 2-1 เมื่อต้นปีที่แล้ว จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นเปิดมาได้แบบล่อใจสุดๆ แต่ยังเชื่อมั่นว่าเจ้าถิ่นจะมุ่งมั่นเต็มกำลังหวังทวงแค้น และกำชัยมาสู่พี่น้องได้แน่นอน ฟันธง! เอียง ลิเวอร์พูล สู้ขาดใจ...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมเจ้าบ้าน
ฟันธง : "ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10
