วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : เชลซี (8) -vs- สโต๊ค ซิตี้ (9)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 22.00 น.
ราคา : เชลซี ต่อ หนึ่งลูก
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
08/11/15 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ เชลซี 1-0
28/10/15 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ เชลซี 1-1 (ลีก คัพ)
05/04/15 เชลซี ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1
23/12/14 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-2
06/04/14 เชลซี ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-0
26/01/14 เชลซี ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 (เอฟเอ คัพ)
07/12/13 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ เชลซี 3-2
12/01/13 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-4
22/09/12 เชลซี ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0
10/03/12 เชลซี ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เชลซี
02/03/16 ชนะ นอริช ซิตี้ 2-1 (เยือน) ต่อ 0.75 ... ได้ครึ่ง
27/02/16 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-1 (เยือน) ต่อ ปป ... ได้
21/02/16 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-1 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) ต่อ 1.25 ... ได้
17/02/16 แพ้ เปแอสเช 1-2 (เยือน-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) รอง 0.75 ... เสียครึ่ง
14/02/16 ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 5-1 (เหย้า) ต่อ 1.25 ... ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 14 ชนะ 5 เสมอ 5 แพ้ 4 ได้ 26 เสีย 21
สโต๊ค ซิตี้
03/03/16 ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
27/02/16 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
13/02/16 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (เยือน) รอง 0.5 ... ได้
06/02/16 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-3 (เหย้า) เสมอ ... เสีย
03/02/16 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (เยือน) รอง 0.75 ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 14 ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 5 ได้ 14 เสีย 19
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
เชลซี
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 9 เสีย 5
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 4 เสีย 2
สโต๊ค ซิตี้
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 4
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 7
สถิติที่น่าสนใจ
- สโต๊ค ซิตี้ ยังไม่เคยบุกมาชนะ เชลซี ในเกมลีกถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 1974
- "สิงห์บลูส์" ชนะ 3 เกมรวดในลีก ซึ่งครั้งสุดท้ายที่เคยทำไว้ 4 นัดติด ต้องย้อนไปในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2015
- เชลซี ล้มเหลวในการรักษาคลีนชีต 7 เกมเหย้าหลังสุดในลีก
- หากเกมนี้จบด้วยการชนะหรือเสมอ จะทำให้ กุส ฮิดดิ้งค์ เป็นกุนซือคนแรกที่เข้ามาคุมทีมในระหว่างไม่แพ้ใคร 12 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
- "สิงห์บลูส์" สามารถเก็บได้ถึง 19 แต้มในพรีเมียร์ลีกปี 2016 เทียบเท่ากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ดิเอโก้ คอสต้า มีส่วนร่วมกับ 12 ประตูใน 10 เกมลีกหลังสุดที่ถูกส่งลงสนาม (8 ประตู, 4 แอสซิส)
- สโต๊ค ซิตี้ ชนะรวด 3 เกมหลังสุดในลีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้แพ้รวด 3 เกม
- ชัยชนะในเกมนี้จะทำให้ "ช่างปั้นหม้อ" เก็บชัยติดต่อกัน 4 ครั้งเป็นหนแรกในลีก นับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดของพวกเขาในเวทีพรีเมียร์ลีก
- ลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส กำชัยเพียงหนเดียว ตลอด 14 ครั้งหลังสุดที่บุกไปเยือนลอนดอนในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 5, แพ้ 8)
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เชลซี ของผู้จัดการทีม กุส ฮิดดิ้งค์ จะไม่มีชื่อของ เคเนดี้ ที่เจ็บเข้ามาล่าสุด สมทบกับพวก เคิร์ท ซูม่า, จอห์น เทอร์รี่, เปโดร และ ราดาเมล ฟัลเกา ที่เดี้ยงอยู่เดิม คาดว่า ฮิดดิ้งค์ จะปรับทัพเพียงสองรายจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ นอริช ซิตี้ 2-1 ด้วยการส่ง บาบา ราห์มาน กลับมาเป็นตัวจริงแทน เคเนดี้ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย นอกจากนี้จะถอด เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ตัวรุกบูกิน่า ฟาโซวัย 20 ปี ออกและใช้ วิลเลี่ยน ลงปั้นเกมตามเดิม ในขณะที่อีก 9 รายที่เหลือยกชุดมาจากเกมดังกล่าวทั้งหมด นำทีมโดย ออสการ์, เอแด็น อาซาร์, ดิเอโก้ คอสต้า, เชส ฟาเบรกาส และ เนมานย่า มาติช
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - เคิร์ท ซูม่า (23 นัด/1 ประตู), จอห์น เทอร์รี่ (21 นัด/1 ประตู)
กองกลาง - เปโดร (21 นัด/4 ประตู), เคเนดี้ (9 นัด/1 ประตู)
กองหน้า - ราดาเมล ฟัลเกา (9 นัด/1 ประตู)
ส่วนทางฝั่งทีมเยือนอย่าง สโต๊ค ซิตี้ ของผู้จัดการทีม มาร์ค ฮิวจ์ส จะเสีย ฟิล บาร์ดสลี่ย์ แบ็คขวาเลือดวิสกี้ที่เดี้ยงเข้ามาเป็นล่าสุด เช่นเดียวกับบรรดา มาร์ก วิลสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, เกล็น จอห์นสัน และ ชาร์ลี อดัม ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว คาดว่า ฮิวจ์ส จะปรับจูนทีมเล็กน้อยจากเกมลีกที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 ด้วยการสลับ เจฟฟ์ คาเมร่อน มาเล่นเป็นแบ็คขวาแทนและส่ง มาร์ก มูเนียซ่า ยืนเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ ฟิลิปป์ โวลล์ไชด์ ในขณะที่ 10 ตำแหน่งที่เหลือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากเกมดังกล่าว โดยมี โจนาธาน วอลเตอร์ส เป็นหน้าเป้าและใช้ เซอร์ดาน ชากิรี่, อิบราฮิม อเฟลลาย กับ มาร์โก อาร์เนาโตวิช เป็นสามประสานในเกมรุกอยู่ด้านหลัง
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - มาร์ก วิลสัน (4 นัด), ไรอัน ชอว์ครอสส์ (13 นัด), เกล็น จอห์นสัน (25 นัด), ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (4 นัด)
กองกลาง - ชาร์ลี อดัม (17 นัด)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, บาบา ราห์มาน - เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - ดิเอโก้ คอสต้า
สโต๊ค ซิตี้ (4-3-3) : แจ๊ค บัตแลนด์ - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เจฟฟ์ คาเมร่อน, ฟิลิปป์ โวลล์ไชด์, เอริค ปีเตอร์ส - ฌิลแบร์ อิมบูล่า, เกล็นน์ วีแลน - เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยาน เกอร์กิซ, มาร์โก อาร์เนาโตวิช - โจนาธาน วอลเตอร์ส
ทรรศนะ Deathphobia11
แม้ว่าเกมนี้เจ้าบ้าน เชลซี จะมาดีในช่วงหลังและเก็บชัยได้รวด 3 นัดหลังสุดในทุกรายการ แต่ไม่น่าเชื่อว่าผลงานในบ้านตลอด 5 เกมลีกที่ผ่านมาจะเสมอถึง 4 หน (ชนะ 1) และเสียถึง 9 ประตูเลยทีเดียว เรียกว่ายิงเยอะ-เสียเยอะไม่แพ้กัน นอกจากนี้ 6 เกมหลังสุดในทุกถ้วย "สิงห์บลูส์" ยังนึกถึงคำว่า "คลีนชีต" ไม่เป็นอีกด้วย แถมการพบกันเกมแรกที่สนาม บริทานเนีย ก็ยังบุกพ่าย 0-1 น่าจะทำให้แฟนบอลขาจรมีความมั่นใจมากขึ้นในการตามเชียร์ สโต๊ค ซิตี้ ในวันนี้ เพราะพวกเขากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังเก็บชัยรวด 3 เกมติดต่อกันในลีกและเหล่าบรรดาเกมรุกดาวดังก็เริ่มจะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนช่วงก่อนหน้าได้อีกครั้ง เชื่อว่ากุนซือ "สปาร์กี้" จะกำชับลูกทีมให้เล่นเหนียวแน่นหวังแบ่งแต้มกลับออกไปก่อนและมองชัยชนะเป็นเพียงโบนัส ซึ่งการเสียสามแต้มครานี้อาจทำให้ เชลซี แซงปาดหน้าขึ้นไปอยู่เหนือพวกเขาได้เลย เมื่อพิจารณาจากเรตสูงหนึ่งเม็ด น่าจะพอยันไหวไม่แพ้ขาด ลุ้นเสมอได้ ฟันธง! เชียร์ "ช่างปั้นหม้อ" รอรับทรัพย์...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมรอง
ฟันธง : "สโต๊ค ซิตี้ เสมอ 1-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10