ทั้งสองทีมโคจรมาเจอกันเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในรายการนี้ โดยทั้งสองรายก็พลัดกันตีตั๋วผ่านเข้ารอบกันไปคนละครั้ง และยังเป็นการเอาชนะด้วยกฎอเวย์โกลหลังเสมอกันสองเลกทั้งสองซีซั่นที่ผ่านมาอีกด้วย งานนี้เจ้าบ้านเชลซี ต้องเอาชนะให้ได้ หลังจากบุกพ่ายก่อน 1-2 ในเบกแรก
ประวัติการพบกัน
• หนล่าสุดที่พบกันเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2014/15 และจบลงด้วยการเสมอกันในเวลา 2-2 (รวมสองนัด) ก่อนจะเป็น เปแอสเช ที่ผ่านเข้ารอบไปด้วยกฎอเวย์โกล หลังเสมอกัน 120 นาทีด้วยสกอร์ 3-3 โดยเลก 2 เป็นเกมสุดดราม่า เมื่อคาวานี่ โดนไล่ออกตั้งแต่นาที 31 ก่อนที่แกรี่ เคฮิลล์ จะทำประตูขึ้นนำนาที 81 ก่อนที่ ดาวิด ลุยซ์ จะยิงประตูตีเสมอ ในนาที 86 จากนนั้น อาซาร์ ยิงขึ้นนำอีกครั้งในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ก็เป็น ติอาโก้ ซิลวา มายิงประตูตีเสมอนาที 114 จึงเข้ารอบไปด้วยกฏประตูทีมเยือน
• พวกเขาทั้งคู่พบกันมาแล้วทั้งหมด 9 ครั้งในทุกรายการ รวมนัดล่าสุด และเป็นทางด้านของ เชลซี ที่เอาชนะได้ 2 ครั้งและเป็น เปแอสเช เก็บชัยได้ 2 ครั้ง ส่วนที่เหลืออีก 5 เกมจบลงด้วยการเสมอ
สถิติน่าสนใจของทั้งสองทีม
เชลซี
• เชลซี ไม่เคยแพ้คารังให้กับทีมจากฝรั่งเศส ตลอด 7 เกมท้ายและไม่เสียประตูถึง 5 เกม ซึ่งสองเกมดังกล่าวคือแมตช์เจ๊าปารีสฯ 2-2 ในซีซั่น 2014-15 ตามด้วยเสมอในบ้านต่อ โมนาโก 2-2 และทำให้สองนัดตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 3-5
• เชลซี เคยเปิดรังเอาชนะ บอร์กโดซ์ ในสมัยที่ บล็องก์ คุมทัพอยู่ด้วยสกอร์ 4-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2008/09 ก่อนที่จะเสมอกันไป 1-1 ในเกมเยือนฝรั่งเศส
• "สิงห์บลูส์" กำลังลุ้นเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นหนที่ 4 ในรอบ 6 ปีหลังสุดและ 7 จาก 10 ฤดูกาลท้าย
เปแอสเช
• ลูกทีมของ โลร็องต์ บล็องก์ ตั้งเป้าผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย 4 ฤดูกาลติดต่อกัน
• ผลงานนอกบ้านซีซั่นนี้ของพวกเขาสามารถเอาชนะ มัลโม่ กับ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค ด้วยสกอร์ 5-0 และ 3-0 ตามลำดับ ก่อนที่จะเสียท่าต่อมาดริด 0-1 เพียงครั้งเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองนัดและเสมอแบบไร้สกอร์กับ เรอัล มาดริด ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา ก่อนจะจบด้วยการเป็นที่สองของกลุ่ม เอ
• สโมสรยักษ์ใหญ่แดนน้ำหอมมีสถิติลงเล่นกับทีมจากอังกฤษทั้งหมด 11 ครั้ง (ชนะ 2, เสมอ 5, แพ้ 4) และลงเตะในบ้าน 5 นัด (ชนะ 2, เสมอ 2, แพ้ 1)
• เปแอสเช ชนะถึง 11 จาก 15 ครั้งในเวทียุโรป หากว่าพวกเขาเก็บชัยในบ้านได้ก่อนในเกมแรก