วิเคราะห์บอล ยูโรป้า ลีก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (6,อังกฤษ) -vs- ลิเวอร์พูล (8,อังกฤษ)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เวลา : 03.05 น.
ราคา : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อ เสมอ
ผลการแข่งขันเลกแรก : ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
11/03/16 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 (ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก)
17/01/16 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1
13/09/15 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1
22/03/15 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
14/12/14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
05/08/14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (สนามกลาง-อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
16/03/14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
26/09/13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (ลีก คัพ)
01/09/13 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0
13/01/13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
11/03/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เยือน)
26/02/12 ชนะ มิดทิลลันด์ 5-1 (เหย้า)
19/02/16 แพ้ มิดทิลลันด์ 1-2 (เยือน)
16/03/12 แพ้ แอธเลติก บิลเบา 1-2 (เยือน)
09/03/12 แพ้ แอธเลติก บิลเบา 2-3 (เหย้า)
ลิเวอร์พูล
11/03/16 ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า)
26/02/16 ชนะ เอ๊าก์สบวร์ก 1-0 (เหย้า)
19/02/16 เสมอ เอ๊าก์สบวร์ก 0-0 (เยือน)
11/12/15 เสมอ ซิยง 0-0 (เยือน)
27/11/15 ชนะ บอร์กโดซ์ 2-1 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
13/03/16 เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า-เอฟเอ คัพ) ต่อ 0.75 ... เสีย
11/03/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เยือน-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) รอง 0.5 ... เสีย
06/03/16 แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-1 (เยือน) ต่อ 0.5 ... เสีย
03/03/16 ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เหย้า) ต่อ 1.0 ... เจ๊า
28/02/16 ชนะ อาร์เซน่อล 3-2 (เหย้า) รอง ปป ... ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 14 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 19 เสีย 7
ลิเวอร์พูล
11/03/16 ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 0.5 ... ได้
06/03/16 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เยือน) ต่อ 0.5 ... ได้
03/03/16 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 (เหย้า) เสมอ ... ได้
29/02/16 เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (สนามกลาง-ลีก คัพ) รอง ปป ... ได้ครึ่ง (แพ้จุดโทษ 1-3)
26/02/16 ชนะ เอ๊าก์สบวร์ก 1-0 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 15 ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 5 ได้ 24 เสีย 20
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเทรนเนอร์ หลุยส์ ฟาน กัล จะได้ตัว เจสเซ่ ลินการ์ด ตัวรุกฟอร์มเด่นพ้นโทษแบนกลับมาพร้อมประจำการอีกครั้ง เช่นเดียวกับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จอมทัพเมืองเบียร์ที่สลัดเดี้ยงลงสนามได้ในคืนนี้ ส่วนบรรดาตัวเจ็บเดิมอย่าง เวย์น รูนี่ย์, วิล คีน, แอชลี่ย์ ยัง, ลุค ชอว์, ฟิล โจนส์, คาเมร่อน บอร์ธวิค-แจ็คสัน และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ยังไม่พร้อมลงเล่นแน่นอน นอกจากนี้ยังจะไม่สามารถใช้งาน อั๊ดนาน ยานาไซ ที่ติดคัพ-ทายอีกด้วย คาดว่า ฟาน กัล จะถอด ฆวน มาต้า, เมมฟิส เดปาย กับ มารูยาน เฟลไลนี่ ออกเป็นสำรอง เพื่อเปิดทางให้ ชไวน์สไตเกอร์, ลินการ์ด และ อันเดร์ เอร์เรร่า ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในขณะที่อีก 8 รายตำแหน่งที่เหลือยกชุดมาจากเกมเลกแรกทั้งสิ้น
ส่วนทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ค่อยมีปัญหากับผู้เล่นเจ็บเท่าไรนัก เพราะมีแต่พวกหน้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น โจ โกเมซ, ลูคัส เลว่า และ แดนนี่ อิงส์ ส่วนในรายของ มาร์ติน สเคอร์เทล กับ จอน เฟลนาแกน ต้องรอลุ้นความฟิตก่อนเกมอีกครั้ง อย่างไรก็ดีคืนนี้จะได้ตัว เจมส์ มิลเนอร์ มิดฟิลด์จอมวิ่ง หายป่วยและฟิตเต็มสูบพร้อมลงช่วยทีมตามเดิม คาดว่า คล็อปป์ จะวางหมากในระบบ 4-3-3 และปรับทัพเล็กน้อยด้วยการถอด อดัม ลัลลานา ออกเป็นสำรองเพื่อหลีกทางให้ มิลเนอร์ ลงทำเกมแทน ส่วนตัวหลักอีก 10 รายที่เหลือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากเกมล่าสุดที่พบกัน นำทีมโดย แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เอ็มเร่ ชาน
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา - กีเญร์โม่ บาเรล่า, คริส สมอลลิ่ง, ดาลี่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (ไมเคิ่ล คาร์ริค), มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน - มาร์คัส แรชฟอร์ด, อันเดร์ เอร์เรร่า, เจสเซ่ ลินการ์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน - เจมส์ มิลเนอร์ - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่
ทรรศนะ Deathphobia11
สำหรับ "แดงเดือด" ครั้งที่ 196 (ในทุกรายการ) ผู้มาเยือน ลิเวอร์พูล ค่อนข้างเป็นต่อพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นผลงานในเลกแรกที่ตุ้นสกอร์ไว้ก่อน 2-0 และฟอร์มการเล่นในช่วงหลังที่แจ่มกว่า จนทำให้เรตที่เปิดมาให้เกียรติเจ้าบ้านแค่เสมอเท่านั้น นั่นก็เพราะผลงานในรายการนี้ของ "หงส์แดง" ตลอด 6 นัดที่ผ่านมายังไม่แพ้ใครและสามารถเก็บชัยได้ถึง 4 ครั้ง (ยิงได้ 6, เสีย 1) นอกจากนี้พวกเขายังไร้พ่ายยาวนานถึง 7 เกมหลังสุดในทุกรายการอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่เจ้าถิ่นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจต้องเหนื่อยหน่อย หากจะยัดเยียดความปราชัยให้กับอาคันตุกะ เพราะพวกเขาเองก็ยังมีอาการไม่สู้ดี หลังไม่ชนะใครเลย 3 เกมท้ายในทุกรายการ และเป็นการแพ้ถึงสองหนเลยทีเดียว จริงอยู่ที่สถิติ 10 นัดในรังเมื่อเล่นบนเวทียุโรป จะไม่เคยแพ้ใครและชนะได้ถึง 8 หน (เสมอ 2) แต่การเผชิญหน้าในศึกศักดิ์ศรีแบบนี้ บวกกับสถานการณ์ที่บังคับต้องเปิดหน้าแลก อาจเข้าทางทีมเยือนที่รอจังหวะโต้กลับก็เป็นได้ มีแนวโน้มสูงว่าคู่นี้จะออกเสมอ แต่ถ้าจะให้เลือกเชียร์ คงเน้นไปที่ผู้มาเยือนมีลุ้นมากกว่า ฟันธง! ถือหาง ลิเวอร์พูล สู้ยิบตา...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมต่อ
ฟันธง : "ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10