ผลเสมอ 2-2 ที่ฝรั่งเศส ทำให้สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่ในจุดยืนที่ดีสำหรับการลุ้นเข้ารอบตัดเชือกของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะรอบที่แล้ว เปแอสเชชิมลางบุกหยิบชัยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์บ้านของ เชลซีมาครั้งหนึ่งแล้ว
Match background
แมนฯซิตี้
- เป็นครั้งแรกที่ "เรือใบสีฟ้า" กรุยทางมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของศึกยูซีแอล โดย 2 ครั้งล่าสุดทีเข้ามามีส่วนร่วมในรายการนี้ แมนฯซิตี้จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายและตกรอบด้วยคู่แข่งรายเดียวคือ บาร์เซโลน่า (2013/14, 2014/15)
- สถิติเกมเหย้าในเส้นทางยุโรปของ "เรือใบสีฟ้า" ในฤดูกาลนี้คือแพ้ ยูเวนตุส 1-2, ชนะ เซบีญ่า 2-1, ปราบ กลัดบัค 4-2 ก่อนเจ๊า ดินาโม เคียฟแบบไร้สกอร์
- แม้จะเป็นการเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศครั้งแรกของสโมสร แต่ในตัวเทรนเนอร์นั้น มานูเอล เปเยกรินี่ถือว่าเคยผ่านงานด่านนี้มาแล้วกับ 2 ทีมคือ บียาร์เรอัล (2005/06, 2008/09) และ มาลาก้า (2012/13)
- สัญญาณดีสำหรับ แมนฯ ซิตี้คือ 6 ครั้งก่อนหน้านี้ในรอบน๊อกเอาท์ภายใต้การแข่งขันของยูฟ่า หากนัดแรกสามารถบุกเสมอคู่แข่งได้ก่อน ทีมสามารถปิดจ็อบเลก 2 ในบ้านพร้อมตีตั๋วเข้ารอบได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม
เปแอสเช
- ประสบการณ์โชกโชนเลยสำหรับทีมชุดปัจจุบันของ เปแอสเช เพราะทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 4 ปีซ้อน แต่ส่วนใหญ่มักจอดป้ายด่านนี้เสียด้วย โดยโคตรบอลแดนน้ำหอมตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายถึง 3 ครั้งจาก 4 จากการพลาดท่า บาร์เซโลน่า (2013, 2015) และ เชลซี (2014)
- แชมป์ลีกเอิงปูทางมาตรฐานเกมเยือนมาอย่างแข็งแกร่ง เพราะชนะนอกบ้าน 3 จาก 4 ทริปในซีซั่นนี้บนเส้นทางยุโรป จากการบุกชนะ ชัคห์เตอร์ โดเน็ตส์ค 3-0, ขยี้ มัลโม่ 5-0 และสดๆ ร้อนๆ ในรอบที่แล้วคือสยบ เชลซี 2-1 ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ สำหรับรอยด่างพร้อยเดียวคือการพลาดท่า "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริดที่สเปน 0-1
- ภาพรวมของ เปแอสเชในการดวลสโมสรพรีเมียร์ลีกคือชนะ 4 เสมอ 6 แพ้ 4 (นับเฉพาะเกมเยือน ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 3) แต่ชัยชนะหนึ่งเดียวที่เกิดขึ้นนั้นเพิ่งทำสำเร็จสดๆ ร้อนๆ เมื่อรอบที่แล้วนี่เอง