


วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล (8) -vs- เอฟเวอร์ตัน (11) ... (02.00)
สนาม : เเอนฟิลด์
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
04/10/15 เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 1 - 1
08/02/15 เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 0 - 0
27/09/14 ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1 - 1
29/01/14 ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4 - 0
23/11/13 เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 3 - 3
05/05/13 ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0 - 0
28/10/12 เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 2 - 2
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
17/04/16 ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เยือน) / เสมอ ... ได้
15/04/16 ชนะ ดอร์ทมุนด์ 4-3 (เหย้า-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) / รอง 0.25 ... ได้
10/04/16 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-1 (เหย้า) / ต่อ 1.0 ... ได้
08/04/16 เสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1 (เยือน-ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก) / รอง 0.75 ... ได้
03/04/16 เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 (เหย้า) / ต่อ 0.25 ... เสียครึ่ง
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 15 ชนะ 6 เสมอ 6 แพ้ 3 ได้ 24 เสีย 19
เอฟเวอร์ตัน
16/04/16 เสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 (เหย้า) / รอง 0.25 ... ได้ครึ่ง
14/04/16 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) / เสมอ ... เจ๊า
09/04/16 เสมอ วัตฟอร์ด 1-1 (เยือน) / ต่อ 0.25 ... เสียครึ่ง
03/04/16 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน) / รอง 0.5 ... เสีย
19/03/16 แพ้ อาร์เซน่อล 0-2 (เหย้า) / เสมอ ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 16 ชนะ 5 เสมอ 9 แพ้ 2 ได้ 23 เสีย 15
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 2
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 5
เอฟเวอร์ตัน
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 6
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 1 เสีย 2
สถิติที่น่าสนใจ
- เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ใน 10 เกมลีกล่าสุดที่พบกัน (เสมอ 7 แพ้ 3) สถิติไม่ชนะ "หงส์แดง" ที่ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นระหว่างปี 1979 - 1984 ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน ไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึง 11 นัดติดต่อกัน
- ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้แก่ เอฟเวอร์ตัน เพียงครั้งเดียว ที่กูดิสัน ปาร์ค เมื่อเดือนตุลาคม 2010 จากที่พบกันในลีกทั้งหมด 18 นัดหลังสุด โดยเป็นการชนะ 8 และเสมอ 9
- เอฟเวอร์ตัน ไม่เคยได้ลูกจุดโทษในการพบกับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เดือนเมษายน 2003 หลังจากที่ เดวิด อันส์เวิร์ธ เคยเป็นเพชรฆาตสังหารจุดโทษล่าสุด ที่กูดิสัน ปาร์ค
- "หงส์แดง" แพ้เพียงเกมเดียวจากการลงเล่นเกมลีก 8 นัดล่าสุด
- ลิเวอร์พูล ไม่เคยพลิกกลับมาเอาชนะคู่แข่งได้ หากถูกทำประตูนำไปก่อนในเกมพรีเมียร์ลีกที่สนามแอนฟิลด์ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015
- โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ มีส่วนร่วมกับ 12 ประตูในเกมลีกที่เขาลงสนาม 11 นัดหลังสุดให้กับ "หงส์แดง" โดยเป็นการยิงประตูเอง 8 ลูกและผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู 4 ลูก
- แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ยิงประตูได้ 4 เม็ดจากการลงสนาม 5 นัดล่าสุดของเขา
- เอฟเวอร์ตัน ไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
- เอฟเวอร์ตัน เก็บได้เพียง 17 แต้มจากเกมในบ้านของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าจะเหลือเกมที่กูดิสัน ปาร์ค อีกสองนัด ก็จะเก็บแต้มเต็มที่ได้แค่ 23 คะแนน ถือเป็นการเก็บแต้มในถิ่นที่น้อยที่สุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 ซึ่งในตอนนั้นเก็บแต้มได้ 25 คะแนน
- "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" ทำประตูจากลูกเตะมุมได้เป็นอันดับสามของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ทำได้ถึง 9 ประตู เป็นรองแค่ สเปอร์ส และ พาเลซ เท่านั้น ที่ทำได้ 10 ประตู
- รามิโร่ ฟูเนส โมรี่ ยิงประตูได้ 4 ลูกในฤดูกาลนี้ ทั้งที่เป็นแค่กองหลัง คนที่ยิงได้มากกว่าเขา คือ สก็อตต์ แดนน์ ซึ่งยิงได้ 5 ประตู
- โรเมลู ลูกากู ยิงได้ 5 ประตูจาก 7 เกมล่าสุดที่พบกับ ลิเวอร์พูล
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือจอมขมังเวทย์ของเจ้าถิ่น จะเรียกตัวจริงที่พักไว้ในเกมที่บุกชนะ บอร์นมัธ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาใช้บริการแบบยกชุด หลังจากพักไม่ใช้งานแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ซิมง มิโญเล่ต์, นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม ลาลาน่า และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่คงต้องรอเช็คความฟิตของ ดิวอค โอริกิ ดาวยิงฟอร์มฮอตที่มีอาการปวดหลังจากการลงเล่นเป็นสำรองนัดล่าสุดว่า ไหวรึเปล่า ถ้าไม่ไหวคงจะเป็น แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษลงเป็นตัวจริงต่อไป
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - โจ โกเมซ (5 นัด), มาร์ติน สเคอร์เทล (19 นัด / 1 ประตู)
กองกลาง - จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (16 นัด / 2 ประตู), เอ็มเร่ ชาน (29 นัด / 1 ประตู)
กองหน้า - แดนนี่ อิงส์ (5 นัด / 2 ประตู), คริสติย็อง เบ็นเตเก้ (25 นัด / 7 ประตู)
ทางด้านอาคันตุกะ โรเบร์โต้ มาติเนซ ผู้จัดการทีมต้องคิดหนักแล้วล่ะว่าจะจัดตัวผู้เล่นอย่างไร ในเมื่อยังมีอีกหนึ่งเกมใหญ่รออยู่ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีก 3 วันข้างหน้า แต่ปัญหามันไม่ใช่แค่นั้น หลังจากทีมต้องมาเสีย ซีมุส โคลแมน ไปอีกคนด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้แนวรับแทบจะไม่มีนักเตะใช้งานได้เลย แต่ก็มีข่าวดีที่แผงมิดฟิลด์ เจมส์ แม็คคาร์ธี่, ทอม เคลเวอร์ลี่ย์, อารอน เลนน่อน และ รอสส์ บาร์คลี่ย์ พร้อมลงสนามรับใช้ต้นสังกัดได้ทุกคน รวมถึง โรเมลู ลูกากู ความหวังสูงสุดในแดนหน้าซึ่งได้พักในนัดก่อนก็ฟิตสมบูรณ์ 100%
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ /หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - โทนี่ ฮิบเบิร์ต , ทายแอส บราวนิ่ง (5 นัด), ฟิล จาเกียลก้า (20 นัด), ซีมุส โคลแมน (28 นัด / 1 ประตู)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, โจ อัลเลน - อดัม ลาลาน่า, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ดิวอค โอริกิ
เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : โฆเอล โรเบลส - ไบรอัน โอเบียโด้, จอห์น สโตนส์, รามิโร่ ฟูเนส โมรี่, เลย์ตัน เบนส์ - เจมส์ แม็คคาร์ธี่, แกเร็ธ แบร์รี่ - อารอน เลนน่อน, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เคราร์ด เดโลเฟอู - โรเมลู ลูกากู
ทรรศนะ GOBAGGIO
เคี่ยวจริงๆ สำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เปลี่ยนตัวนักเตะพักไว้แบบยกเซ็ต แถมยังเก็บชัยชนะเหนือ บอร์นมัธ ได้ตามเป้าอีก แสดงให้เห็นว่า เวทย์มนต์ที่ คล็อปป์ ร่ายไปนั้น เริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะส่งใครลงสนามก็ทำผลงานได้ดีเหมือนกัน ส่วนทาง โรเบร์โต้ มาติเนซ น่าจะอยู่ในช่วงปีชงนะ เพราะนอกจากนักเตะบาดเจ็บเยอะแล้ว ผลงานของลูกทีมในสนามก็ห่วยแตกเหลือเกิน ไม่ชนะใครมาติดต่อกัน 6 นัดในลีกเข้าไปแล้ว นี่ยังมีเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศกับ "ปีศาจแดง" มารบกวนสมาธิอีก ดูท่า "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้" หนนี้คงลำบากกับผู้มาเยือนแล้วล่ะ แนะนำไปเลยครับว่า เชียร์ ลิเวอร์พูล เถอะครับ ดูดีกว่าในแทบทุกประตู ฟอร์มการเล่นก็แจ่มกว่า แถมได้เล่นในบ้านอีก ที่สำคัญ "กำลังใจ" ดีกว่ากันเยอะ หลังจากพลิกความตายเข้ารอบยูโรป้า ลีกไปได้ ดูไปแล้ว "หงส์แดง" ตะแคงฟ้าลอยลมบนค่อนข้างแน่ เพียงแต่ว่า จะมาแค่ครึ่งหรือจะมาเต็มๆ แค่นั้นเอง
ฟันธง : ลิเวอร์พูล รู้ทันคน 2-0
อัตราความมั่นใจ : 9/10