วิเคราะห์บอล คัดบอลโลก โซนเอเชีย : ไทย -vs- ออสเตรเลีย
สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน
เวลา : 19.00 น.
ราคา : ออสเตรเลีย ต่อ 2.0(-5)
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
15/11/11 ไทย แพ้ ออสเตรเลีย 0-1 (คัดบอลโลก 2014)
02/09/11 ออสเตรเลีย ชนะ ไทย 2-1 (คัดบอลโลก 2014)
16/07/07 ไทย แพ้ ออสเตรเลีย 0-4 (เอเชี่ยน คัพ 2007)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมคัดบอลโลกของ ไทย
11/10/16 แพ้ อิรัก 0-4 (เยือน)
06/10/16 แพ้ ยูเออี 1-3 (เยือน)
06/09/16 แพ้ ญี่ปุ่น 0-2 (เหย้า)
02/09/16 แพ้ ซาอุดิอาราเบีย 0-1 (เยือน)
24/03/16 เสมอ อิรัก 2-2 (เยือน)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมคัดบอลโลกของ ออสเตรเลีย
11/10/16 เสมอ ญี่ปุ่น 1-1 (เหย้า)
07/10/16 เสมอ ซาอุดิอาราเบีย 2-2 (เยือน)
06/09/16 ชนะ ยูเออี 1-0 (เยือน)
01/09/16 ชนะ อิรัก 2-0 (เหย้า)
29/03/16 ชนะ จอร์แดน 5-1 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ไทย
11/10/16 แพ้ อิรัก 0-4 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / รอง 0.75 ... เสีย
06/10/16 แพ้ ยูเออี 1-3 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / รอง 1.5 ... เสีย
06/09/16 แพ้ ญี่ปุ่น 0-2 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 / รอง 1.75 ... เสียครึ่ง
02/09/16 แพ้ ซาอุดิอาราเบีย 0-1 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / รอง 1.25 ... ได้ครึ่ง
25/08/16 แพ้ กาตาร์ 0-3 (เยือน) กระชับมิตร / รอง 1.0 ... เสีย
ออสเตรเลีย
11/10/16 เสมอ ญี่ปุ่น 1-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 0.25 ... เสียครึ่ง
07/10/16 เสมอ ซาอุดิอาราเบีย 2-2 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 0.5 ... เสีย
06/09/16 ชนะ ยูเออี 1-0 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 0.25 ... ได้
01/09/16 ชนะ อิรัก 2-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 1.5 ... ได้
07/06/16 แพ้ กรีซ 1-2 (เหย้า) กระชับมิตร / ต่อ 0.5 ... เสีย
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ไทย ของกุนซือ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังไม่มีแต้มตลอด 4 เกมที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายเก็บคะแนนแรกในรอบนี้ สำหรับความพร้อมของทีมล่าสุดจะหมดสิทธิ์ใช้งาน กรวิทย์ นามวิเศษ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) กองหลังตัวหลักที่ติดโทษแบนหนึ่งนัด เช่นเดียวกับ อดิศักดิ์ ไกรษร (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) และ ธนา ชะนะบุตร (การท่าเรือ) ที่เดี้ยงกันยกเซ็ต คาดว่า "ซิโก้" จะปรับระบบจาก 4-2-3-1 มาใช้ 5-3-2 โดยวาง ประทุม ชูทอง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ อดิศร พรหมรักษ์ เป็นสามประสานในเกมรับและปล่อยให้ ทริสต็อง โด กับ ธีราทร บุญมาทัน ค่อยสนับสนุนเกมรุกริมเส้น ส่วนในตำแหน่งหน้าคู่เตรียมจัด สิโรจน์ ฉัตรทอง ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงผนึกกำลังกับ ธีรศิลป์ แดงดา ช่วยกันล่าสกอร์
ออสเตรเลีย ของกุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกลู ยังไม่แพ้ใครแต่ก็ยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นจ่าฝูง หลังเสมอสองนัดล่าสุด สำหรับความพร้อมของทีมในวันนี้จะไร้เงาของ โทมี่ ยูริช (เอฟซี ลูเซิร์น), มัสซิโม ลูออนโก (ควีนส์ ปาร์ค แรนเจอร์ส) และ มิตเชลล์ ลันเกรัค (สตุ๊ตการ์ต) ที่เดี้ยงทั้งสิ้น ส่วนในรายของ ทิม เคฮิลล์ (เมลเบิร์น ซิตี้) หัวหอกจอมเก๋าวัย 36 ปี จะไม่ติดทัพเพราะทางด้าน อังเก้ อยากให้พักรักษาความฟิต คาดว่าแมตช์นี้จะใช้ระบบ 4-3-3 โดยวาง ร็อบบี้ ครูส (เลเวอร์คูเซ่น), อปอสโตลิส จานนู (กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ) และ แม็ตธิว เลคกี้ (อินกอลสตัดต์) เป็นสามประสานในเกมรุก ขณะที่ ไมล์ เยดินัค (แอสตัน วิลล่า) จะรับบทบาทเป็นจอมทัพคุมทีมเหมือนเช่นเคย
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไทย (5-3-2) : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ - ทริสตอง โด, ประทุม ชูทอง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อดิศร พรหมรักษ์, ธีราทร บุญมาทัน - ปกเกล้า อนันต์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สารัช อยู่เย็น - ธีรศิลป์ แดงดา, สิโรจน์ ฉัตรทอง
ออสเตรเลีย (4-3-3) : แม็ตธิว ไรอัน - ไรอัน แม็กโกแวน, แม็ตธิว สปิราโนวิช, เทรนท์ เซนส์บิวรี่, แบร็ด สมิธ - อารอน มอย, ไมล์ เยดินัค, ทอม โรจิช - ร็อบบี้ ครูส, อปอสโตลิส จานนู, แม็ตธิว เลคกี้
ทรรศนะ Deathphobia11
เชื่อว่าเกมนี้เจ้าบ้าน "ช้างศึก" น่าจะลงเล่นด้วยใจที่มุ่งมั่นหลายด้าน ทั้งเรื่องการลุ้นเก็บแต้มแรกและลงเตะเพื่อพ่อหลวง อย่างไรก็ดีการศักยภาพของทีมชาติไทยชุดนี้ว่ากันตามตรงยังเป็นรองอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่น่าจะทำให้แฟนๆ นักลงทุนอุ่นใจได้บ้างก็คือสถิติการพบกันสองนัดท้ายไม่เคยแพ้ขาด (1-2,0-1) แสดงให้เห็นถึงสไตล์บอลและลูกฮึดที่พอสู้ได้ สอดคล้องกับฟอร์มการเล่นของ ออสเตรเลีย ที่สองนัดท้ายเสมอรวดทั้งสองนัด แถมเกมนี้จะไม่มีแข้งหลักหลายรายที่เจ็บและได้พักกันเป็นเข่ง น่าจะทำให้ประสิทธิภาพของทีมลดลงไปบ้าง จริงอยู่ที่ยอดทีม "แดนจิงโจ้" จะบินมาปรับสภาพอากาศถึง 8 วัน แต่ด้วยสภาพสนามที่คุ้นชินกว่าของทีมชาติไทยบวกกับเสียงเชียร์ดังกึกก้อง ไม่น่าจะเป็นงานง่ายสำหรับทริปเยือนกรุงเทพหนนี้แน่นอน เมื่อพิจารณาจากเรตสองลูก แนะนำอยู่รองประคองเกม ไม่แพ้ขาด ฟันธง! จัดไป ไทยแลนด์ ปู้น ปู้น...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมรอง
ฟันธง : "ไทย แพ้ 1-2"
อัตราความมั่นใจ : 8/10