


ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย : ญี่ปุ่น -vs- ไทย
สนาม : ไซตามะ สเตเดี้ยม 2002
เวลา : 17.35 น.
ราคา : ญี่ปุ่น ต่อ 3
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
06/09/16 ไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-2
14/06/08 ไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-3
06/02/08 ญี่ปุ่น ชนะ ไทย 4-1
24/07/04 ไทย แพ้ ญี่ปุ่น 1-4
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมคัดบอลโลกของ ญี่ปุ่น
23/03/17 ชนะ ยูเออี 2-0 (เยือน)
15/11/16 ชนะ อิรัก 2-0 (เหย้า)
12/10/16 แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 (เยือน)
06/10/16 ชนะ ไทย 3-1 (เหย้า)
06/09/16 แพ้ ออสเตรเลีย 0-1 (เหย้า)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดในเกมคัดบอลโลกของ ไทย
23/03/17 แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 (เหย้า)
15/11/16 เสมอ ออสเตรเลีย 2-2 (เหย้า)
11/10/16 แพ้ อิรัก 0-4 (เยือน)
06/10/16 แพ้ ยูเออี 1-3 (เยือน)
06/09/16 แพ้ ญี่ปุ่น 0-2 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ญี่ปุ่น
23/03/17 ชนะ ยูเออี 2-0 (เยือน) คัดบอลโลก / ต่อ 0.75 ... ได้
15/11/16 ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
11/11/16 ชนะ โอมาน 4-0 (เหย้า) กระชับมิตร / ต่อ 2.25 ... ได้
11/10/16 เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 / รอง 0.25 ... ได้ครึ่ง
06/10/16 ชนะ อิรัก 2-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 / ต่อ 1.75 ... เสีย
ไทย
23/03/17 แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 (เหย้า) คัดบอลโลก / รอง 0.5 ... เสีย
17/12/16 ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 (เหย้า) เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ / ต่อ 1.25 ... ได้
14/12/16 แพ้ อินโดนีเซีย 1-2 (เยือน) เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ / ต่อ 0.5 ... เสีย
08/12/16 ชนะ เมียนมาร์ 4-0 (เหย้า) เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ / ต่อ 2.0 ... ได้
04/12/16 ชนะ เมียนมาร์ 2-0 (เยือน) เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ / ต่อ 1.25 ... ได้
สภาพความพร้อมล่าสุด
ญี่ปุ่น พวกเขาออกสตาร์ทในรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอดและอาจมีสิทธิ์ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของกลุ่มหากเก็บสามแต้มในวันนี้ได้ สำหรับความพร้อมล่าสุดก่อนลงสนามฟาดแข้งนั้น วาฮิด วาลิฮ็อดซิช นายใหญ่ประจำทีมจะไร้ชื่อของกัปตันทีมอย่าง มาโกโตะ ฮาซาเบะ (ไอน์ทรัคต์ แฟร้งค์เฟิร์ต), ยาซูยูกิ คอนโนะ และ ยูยะ โอซาโกะ (โคโลญจน์) ที่บาดเจ็บมาจากนัดทุบชนะยูเออี แม้จะขาดกำลังหลักไปบางส่วนแต่ตัวทีเด็ดที่ค้าแข้งในลีกหลักๆของยุโรปอย่าง ชินจิ โอกาซากิ (เลสเตอร์), ชินจิ คากาวะ (ดอร์ทมุนด์), ยูยะ คุโบะ (เกนท์) รวมถึง เคย์สึเกะ ฮอนดะ (เอซี มิลาน) ที่พร้อมเป็นตัวความหวังของทีม
ในขณะที่ ไทย ของกุนซือ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังคงต้องมองหา 3 แต้มแรกต่อไปหลังจากผ่านไป 6 นัดมีเพียงแต้มเดียวเท่านั้น สภาพทีมนั้นขุนพลลทีมช้างศึกจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมที่ติดโทษแบนจากสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ แต่เชื่อว่าในตำแหน่งจะทดแทนด้วย พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ส่วนในตำแหน่งฟิตเต็มถังพร้อมลงสนามเก็บแต้มกลับออกมาให้ได้นำทัพมาโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา และ สิโรจน์ ฉัตรทอง และ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่พร้อมเป็นหัวใจสำคัญของทีมเช่นเดิม
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ญี่ปุ่น (4-3-3) : อิจิ คาวาชิม่า - ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, มาซาโตะ โมริชิเกะ, ยูโก นากาโตโมะ - โฮตารุ ยามากูชิ, ชินจิ คากาวะ, เคย์สึเกะ ฮอนดะ - ยูยะ คูโบะ, ฮิโรชิ คิโยตาเกะ, เกนกิ ฮารากูชิ, ชินจิ โอกาซากิ
ไทย (3-5-2) : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ - อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ประทุม ชูทอง - ทริสตอง โด, ปกเกล้า อนันต์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ชาริล ชัปปุยส์, วัฒนา พลายนุ่ม - สิโรจน์ ฉัตรทอง, ธีรศิลป์ แดงดา
ทรรศนะ Jokernut
เกมวันนี้บอกได้เลยว่าทัพซามูไรเป็นต่อคู่แข่งหลายขุมด้วยสาเหตุหลักๆที่ว่าช้างศึกกำลังอยู่ในช่วงเมาหมัดและผลงานตกลงไปค่อนข้างเยอะประกอบกับตัวนักเตะที่มีประสบการณ์ในเกมระดับสูงค่อนข้างน้อย ดังนั้นส่วนตัวจึงมองว่าเจ้าถิ่นมีโอกาสที่จะเอาชนะด้วยสกอร์ที่ขาดลอยเยอะทีเดียวเพราะสถานการณ์ช่วงหัวตารางของกลุ่มนี้กำลังสูสีเป็นอย่างมากฉะนั้นเกมเปิดรังเจอไทยวันนี้พวกเขาจำเป็นต้องตุนประตูไว้ได้ให้มากที่สุดเพื่อเป็นการกันเหนียว ในขณะที่ทัพช้างศึกพวกเขาไม่มีอะไรต้องเสียแล้วพร้อมจัดชุดที่ดีที่สุดลงสนามแต่ทุกอย่างกลับตรงข้ามเหลือเพราะสถิติการพบกัน 4 นัดหลังสุดช้างศึกแพ้รวดทั้้งหมดพร้อมกลับเสียประตูแต่ล่ะนัดเฉลี่ยแล้วเกินสามเม็ด สรุปสำหรับคู่นี้ด้วยเรตราคาที่ทัพซามูไรต่อถึง 3 ลูกด้วยกันอาจจะดูแพงไปแต่อย่างว่าพวกเขาเป็นถึงระดับหัวกะทิของเอเชียการถลุงคู่แข่งซัก 3-4 เม็ดคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่าใดแม้ช้างศึกจะหลังพิงฝาพร้อมเข้าต่อกรแต่ดูทรงแล้วด้วยความห่างชั้นกันเกินไปช้างศึกไม่น่ายันเกมรุกเจ้าถิ่นได้อย่างแน่นอน ฟันทิ้ง! ใส่ ญี่ปุ่น ได้ลุ้นมากกว่า
ชี้ชัด : ญี่ปุ่น จัดมาแจ่มๆ!
ฟันธง : ญี่ปุ่น ชนะ 4-0
อัตราความมั่นใจ : 8/10