วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯยู (2) -vs- ลิเวอร์พูล (6)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เวลา : 02.15 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25(-5)
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
25/01/21 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / เอฟเอ คัพ
18/01/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0
20/01/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 2-0
20/10/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
24/02/19 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
16/12/18 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยู 3-1
29/07/18 แมนฯยู แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 / (กลาง) ไอซีซี
10/03/18 แมนฯยู ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
14/10/17 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยู 0-0
15/01/17 แมนฯยู เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯยู
12/05/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 ... เสีย
09/05/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 ... ได้
07/05/21 แพ้ โรม่า 2-3 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 0.5 ... เสีย
30/04/21 ชนะ โรม่า 6-2 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.25 ... ได้
25/04/21 เสมอ ลีดส์ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 17 ชนะ 9 เสมอ 3 แพ้ 5 ได้ 35 เสีย 23
ลิเวอร์พูล
09/05/21 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 ... ได้
24/04/21 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2 ... เสีย
20/04/21 เสมอ ลีดส์ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 ... เสีย
15/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.5 ... เสีย
10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 16 ชนะ 7 เสมอ 6 แพ้ 3 ได้ 30 เสีย 19
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
แมนฯยู
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 4
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 2
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 2
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 1
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนฯยู
แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ เลสเตอร์ 1-2 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ฟิล โจนส์, แดเนี่ยล เจมส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล สี่แข้งเดี้ยงที่หมดสิทธิ์ใช้งานทั้งหมด คาดว่า โซลชาร์ เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี เอดินสัน กาวานี่ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ ปอล ป็อกบา เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลัง
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - ฟิล โจนส์ (-), แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (34 นัด/2 ประตู)
กองกลาง - แดเนี่ยล เจมส์ (14 นัด/3 ประตู)
กองหน้า - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (22 นัด/4 ประตู)
แมนฯยู (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - อารอน วาน-บิสซาก้า, อีริก ไบญี่, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ - เฟร็ด, สกอตต์ แม็กโตมิเนย์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, ปอล ป็อกบา - เอดินสัน กาวานี่
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมก่อนทำศึกนี้ น่าจะไร้เงา โอซาน คาบัค กับ นาบี เกอิต้า สองแข้งที่ไม่โผล่ตัวมาในการซ้อม ซึ่งน่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่วนพวก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป กับ ควีวีน เคลเลเฮอร์ แม้จะกลับมาลงซ้อมแล้ว แต่ไม่น่าจะพร้อมลงเล่นทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามสูตร
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู - ควีวีน เคลเลเฮอร์ (2 นัด)
กองหลัง - เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (5 นัด/1 ประตู), โจ โกเมซ (7 นัด), โฌแอล มาติป (10 นัด/1 ประตู), โอซาน คาบัค (9 นัด)
กองกลาง - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (21 นัด/1 ประตู), นาบี เกอิต้า (10 นัด)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ทรรศนะ Deathphobia11
ต้องบอกว่าทีมเยือน ลิเวอร์พูล มีโอกาสเก็บสามแต้มกลับออกไปด้วยสามประเด็นหลักๆ เริ่มต้นด้วยสภาพร่างกายของนักเตะ แมนฯยู ที่แม้จะโรเตชั่นส่งสำรองลงบู๊กับ เลสเตอร์ แต่สุดท้ายก็ต้องเข็นตัวหลักลงบู๊ช่วงกลางครึ่งหลังอยู่ดี แถมฟอร์มล่าสุดก็พ่าย 1-2 อีกด้วย ประเด็นต่อมาคือผลจากการพ่าย "จิ้งจอกสยาม" เมื่อคืนวานทำให้ แมนฯซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที และนั่นทำให้พวกเขาไม่เหลือลุ้นอะไรแล้วในลีก ซึ่งคงจะโฟกัสสุดๆ กับนัดชิงฯ ยูโรป้า ลีก ปลายเดือนนี้ ปิดท้ายกับโปรแกรมลงเตะ 3 นัดใน 7 วัน แน่นอนว่าเปรียบได้กับการลงโทษของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ จากกรณีแฟนบอลประท้วงจนทำให้เกมแดงเดือดต้องเลื่อนออกไป ถือเป็นการเผาสภาพความพร้อมของทีมอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ได้พักเต็มๆ ร่วมสองสัปดาห์ก่อนจะเปิดรังเอาชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0 ทำให้ 6 เกมลีกที่ผ่านมากำชัยไปเหนาะๆ 4 ครั้งแบบไม่แพ้ใคร (เสมอ 2) ยิ่งไปกว่านั้นการปลดล็อคของ ซาดิโอ มาเน่ กับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า น่าจะทำให้สถานการณ์ในทีมเริ่มดีขึ้น ประกอบกับการลุ้นท็อปโฟร์บีบบังคับให้พวกเขาต้องพยายามเก็บสามคะแนนให้ได้ทุกนัดที่ลงเล่น เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ ไม่แปลกที่อาคันตุกะจะบุกต่อ เพราะทั้งมั่นใจและสดกว่า แนะนำเอียงขวาผู้มาเยือนเต็มลำ ฟันธง! จัดโลด "หงส์แดง" แรงต่อเนื่อง...!
ต่อ ลิเวอร์พูล 0.25
ฟันธง : "ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1"
อัตราความมั่นใจ : 8/10
ดูบอลออนไลน์ชัดๆ ไม่มีกระตุกได้ที่นี่ คลิกเลย!!!
LOTTO432
เว็บแทงหวยอันดับ 1 พร้อมกีฬา และอื่นๆที่ดีที่สุด จ่ายไว จ่ายชัวร์ ไม่ต้องกลัวหนี
lotto432
ดูบอลออนไลน์
เล่นไว ไม่กระตุก อัพเดททุกวัน มีครบทุกคู่
lomtoe.club
เส้นทางเศรษฐี ... ทีเด็ด "โต๊ะล้ม" !!!
รวบรวมทีเด็ดเซียนเด็ดเซียนดัง
toelom.club
"ไม่เด็ดจริง ไม่เอามาฝาก"
"ไม่เด็ดจริง ไม่เอามาฝาก"
skball.net