หลังปีใหม่มานี่ ข่าวนักบอลทวงเงิน ต้นสังกัด ออกมาเริ่มเยอะแล้วนะครับ ออกทวงเป็นข่าว หรือ โพสเฟสบุ๊คส่วนตัวอย่างดังๆก็มีอย่าง ประกิต ดีพร้อม, ประสิทธิ ผดุงโชค, จิตปัญญา ทิสุด หรือ ไอล์ตัน มาชาโด
จากสถานการณ์โควิด หลายทีมขาดสภาพคล่องเยอะจริงนะครับ ค่าเหนื่อยต่างๆ เพดานเงินของทีม ลดลงหมดทั้งนั้น (ยกเว้นทีมใหญ่บางทีมกับนักเตะบางคนที่สโมสรพร้อมยอมลงทุน)
เอาจริงแล้วคำว่าฟุตบอลอาชีพ เอาแบบปัจจุบัน ไม่มโน และขอให้อยู่ได้กันทั้งวงการ ผมมองว่ารายได้นักเตะ ที3 ควรจะ 15,000 บาท ต่อเดือน, ที2 ก็สูงสุดสักแสนหรือสองแสนบาท ต่อเดือน ส่วน ที1 ขยับไป 5 ถึง 8 แสน หรือล้านบาท ก็ว่าไป แต่ แต่ละทีมต้องรู้ศักยภาพในการหาเงินของตัวเอง เพราะนักเตะเปรียบเหมือนลูกจ้าง เป็นคนทำงาน มีข้อเสนอดีๆให้ เขาก็รับ แต่ไม่มีใครรู้เลย ว่าเงินก้อนโตนั้น พวกเขาจะไม่ได้ หรือ ถูกเชิดไป
เมื่อก่อนผมเองเคยเห็น เคยได้ยิน อย่างทีม ระดับ ที3 เขาตัดเลยนะครับ สองเดือนสุดท้าย นักเตะคนไหนที่ไม่ค่อยได้ลง เตรียมใจรอเลย สองเดือนหลัง คุณก็ไม่ได้เงินเดือนเหมือนกัน ถึงขนาดว่า ถ้าอยากได้ ให้เข้าไปหา ท่านประธานของทีมที่บ้าน (ใครจะกล้าเข้าไป)
บางเคส คือหลอกลวงเลย จริงๆตัวเจ้าของรู้อยู่แล้วว่าหาเงินไม่ได้แน่ๆ แต่ก็หลอกให้เล่น ยื้อไป จนปิดฤดูกาล ฟ้องก็ค่อยฟ้อง วันนึงเขาก็ไม่ได้อยากเป็นพี่น้อง ในวงการฟุตบอลต่อไปกับนักเตะอยู่แล้ว แบบนี้โคตรโหด
ส่วนสถานการณ์โควิด เข้าใจได้สำหรับ หลายสโมสรที่เจอผลกระทบ เพราะก็หาเงิน จากผู้สนับสนุนไม่ได้เหมือนกัน ทีมที่อาชีพสูง คุณภาพในการจัดการ อาจจะมีเจรจา ลดเงินเดือน ในช่วงปีสองปีนี้ หรือ การเซ็นตัวใหม่เข้ามา เงินเดือนไม่ได้สูงจนเวอร์และแบกรับไม่ไหวจนเกินไป
การอ้าง ข้ออ้าง ในมุมของทีม บางทีก็ต้องเข้าใจนะครับ เก็บเงินจากผู้สนับสนุนไม่ได้ เอาจริงคือ ขนาดสภาพคล่องการเงินของสมาคมฟุตบอลเองเอง ยังแย่เลย สโมสร รอเงินสนับสนุนจากสมาคม ยังได้ยาก แล้วจะเอาที่ไหนมาจ่ายนักเตะล่ะ เริ่มชุลมุนแล้วเนอะ
สมาคมฟุตบอล และ บ.ไทยลีก มองเกมส์แบบนี้ ย่อมรู้อยู่แล้ว ข่าวแบบนี้ มีทุกปี เริ่มขยับ เริ่มทำอะไรบ้างได้แล้วครับ หรือจะต้องมีให้ยุบทีมกลางคัน เด็กนักบอลก็ตามทวงเงินกันไป ปีหน้าจะเอายังไงก็ไม่รู้ ไปขับแท็กซี่ได้เงินชัวร์ยังดีกว่าเล่นบอลอาชีพ ที่อาชีพไม่จริง
ทรัพยากรลูกหนังดีๆ มันจะหายไป จะทำอะไรก็ลงมือสักทีเถอะ พ่อคุณเอ้ย