มองข้ามช็อต เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอ-บี-ซี-ดี

สถิติและความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม เอ-ดี นัดที่ 5

กลุ่ม เอ


 
โอกาสลุ้นเข้ารอบ :

             เอฟซี ปอร์โต้ จะทะยานเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันทีหากสามารถบุกไปเผาเครื่อง ลิเวอร์พูล คารัง
แอนฟิลด์ แต่กระนั้นผลเสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบของอดีตแชมป์ปี 2004 จากโปรตุเกส เช่นกันในกรณีที่
เบซิคตัส ไม่อาจเอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย ต่อหน้ากองเชียร์ชาวเติร์กที่สนามเหย้า อิโนนู และทั้ง ปอร์โต้และ มาร์กเซย จะกอดคอกันเข้ารอบหาก ลิเวอร์พูล ไม่ชนะ ปอร์โต้
 
สถิติน่าสนใจ

           *เบซิคตัส มีปัญหากับการเล่นเกมเหย้า เนื่องจากแพ้คารัง 3 จาก 5 ล่าสุดในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีกและยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ 4 จาก 6 นัดที่ผ่านมา
 
           *เบซิคตัส ไม่เคยแพ้สโมสรจากฝรั่งเศสในบ้าน โดยที่ผ่านมาเคยเสมอ โอแซร์ 2-2 ในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1994-95 และ ชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-1 ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 1997-98
 
           *ขณะเดียวกัน มาร์กเซย ก็มีปัญหากับเกมเยือน เพราะออกนอกบ้าน 10 นัดหลังแพ้ถึง 8 แต่ชัยชนะนอกรังหนเดียวนั้นเพิ่งเกิดขึ้นในเกมบุกชนะ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ เมื่อเดือนที่แล้วและก่อนหน้านี้พลพรรค
"โอแอม" เพิ่งเคยบุกมาฟาดแข้งที่แดนไก่งวงหนเดียว คือเกมพ่าย ก็อซเต็ป อิซเมียร์ 0-2 ในศึกแฟร์ คัพ ฤดูกาล
1968-69

ผลการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล -vs- ปอร์โต้
08-03-01 ปอร์โต้ เสมอ ลิเวอร์พูล   0-0 ที่ ปอร์โต้  ยูฟ่า คัพ
15-03-01 ลิเวอร์พูล ชนะ ปอร์โต้ 2-0 ที่ ลิเวอร์พูล  ยูฟ่า คัพ 
18-09-07 ปอร์โต้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ที่ ปอร์โต้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

           *ลิเวอร์พูล มีประสบการณ์บนเกมยุโรปมาอย่างโชกโชนและเตรียมฉลองการเล่นครบ 150 นัดในแมตช์นี้ โดยที่ผ่านมา ทีม "หงส์แดง" ชนะ 85 เสมอ 33 และแพ้ 32

           *ลิเวอร์พูล ยังไม่เคยเอาชนะทีมจากโปรตุเกสในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ มาก่อน, เสมอ เบาวิสต้า 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2001-02 และแพ้ เบนฟิก้า คารัง 0-2 ในรอบน็อคเอาท์ เมื่อสองฤดูกาลก่อน

            *ปอร์โต้ ผลงานเกมเยือนไม่ธรรมดา 5 นัดล่าสุดในรายการนี้ ชนะ 3 เสมอ 1 และแพ้เกมเดียว แต่หากนับเฉพาะการบุกมาเยือนทีมเมืองผู้ดีปรากฏว่าสถิติไม่สู้ดีเพราะ 10 นัดที่ผ่านมารอดพ้นความพ่ายแพ้หนเดียว นั่นคือเกมบุกเสมอ แมนฯยู 1-1 รอบน็อคเอาท์ ปี 2004 ก่อนผงาดคว้าแชมป์ยุโรปไปครองในปีดังกล่าว

 
กลุ่ม บี

โอกาสลุ้นเข้ารอบ : 

          เชลซี จะผ่านเข้ารอบแบบไม่ต้องลุ้นผลคู่อื่นหากสามารถบุกไปชนะ โรเซนบอร์ก ที่ เลอร์เคนดาล สำเร็จ แต่ผลเสมอก็ยังพอเพียงสำหรับการเข้ารอบของพลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" กรณีเกมที่ เมสตาญ่า ระหว่าง
บาเลนเซียและ ชาลเก้ จบลงด้วยผลเสมอ ส่วน โรเซนบอร์ก จะตีตั๋วเข้าสู่รอบต่อไปถ้าชนะ เชลซี พร้อมกันกับที่ ชาลเก้ ไม่ชนะ บาเลนเซีย

สถิติน่าสนใจ

         *โรเซนบอร์ก เตรียมลงเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 73 และมีลุ้นคว้าชัยชนะในรายการนี้สามนัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก หลังจากกวาดชัยเหนือ บาเลนเซีย ทั้งสองนัดที่ผ่านมา

          *โรเซนบอร์ก มีสถิติยอดเยี่ยมในการเปิดรังต้อนรับสโมสรจากเมืองผู้ดี ลงเตะ 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1
ไร้พ่าย

          *ส่วน เชลซี หากเทียบความเก๋าเฉพาะรายการนี้ถือว่าเป็นรองทางเจ้าบ้าน เพราะเพิ่งลงเล่นเกมยุโรปทุกรายการรวมกันแค่ 67 นัด และยอดทีมจากมหานครลอนดอน ไม่ค่อยถูกโฉลกกับการมาเยือน นอร์เวย์ สักเท่าไร เพราะแพ้ 2 จาก 3 นัดหลังสุดและเสียไปถึง 9 ประตู จากการแพ้ ทรอมโซ่ 2-3 ในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1978-79, แพ้ ไวกิ้ง สตาเวนเจอร์ 2-4 ในเกมยูฟ่า คัพ ซีซั่น 2002-03 ส่วนอีกนัดชนะ วาเลเรนก้า 3-2 ในศึก คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1998-99

ผลการพบกันระหว่าง บาเลนเซีย -vs- ชาลเก้ 04 
04-03-97 ชาลเก้ ชนะ บาเลนเซีย 2-0  ยูฟ่า คัพ รอบคัดเลือก
18-03-97 บาเลนเซีย เสมอ ชาลเก้  1-1  ยูฟ่า คัพ รอบคัดเลือก
18-09-07 ชาลเก้ แพ้ บาเลนเซีย 0-1  แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
 
          *การเล่นที่ เมสตาญ่า กลายเป็นจุดอ่อนของ บาเลนเซีย เพราะ 4 นัดล่าสุดในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ เมสตาญ่า ทีม "ไอ้ค้างคาว" เสมอ 1 แพ้ 3 และมักจะมีปัญหาในการลงเผชิญหน้ากับทีมจาก เยอรมัน เพราะชนะหนเดียวจาก 10 นัด แต่ชัยชนะหนึ่งเดียวนั้นคือการบุกชนะ ชาลเก้ เมื่อช่วงเดือน กันยายน ที่ผ่านมา
 
           *ชาลเก้ มีปัญหาเรื่องแนวรุก เพราะยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ 3 จาก 4 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ แต่ถึงกระนั้นทีม "ราชันสีน้ำเงิน" มีสถิติน่าประทับใจในการยกพลมาเยือนแดนกระทิงดุ เพราะสามารถเก็บชัยออกไป 2 จาก 3 ครั้งหลังสุด โดยการบุกทุบ เอสปันญ่อล 3-0 ในศึกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 2005-06 และเอาชนะ รีล มายอร์ก้า 4-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2001-02

กลุ่ม ซี

โอกาสลุ้นเข้ารอบ :

        รีล มาดริด จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 อรหันต์โดยอัตโนมัติมีแต้มกลับออกไปจากสนาม เวเซอร์ สเตเดี้ยม ไม่ว่า 1 หรือ 3 ขณะเดียวกันผู้ชนะของคู่ระหว่าง โอลิมเปียกอส กับ ลาซิโอ จะตีตั๋วเข้ารอบน็อคเอาท์ทันทีหาก ขุนพล "นกนางนวล" ไม่ชนะ รีล มาดริด

สถิติน่าสนใจ

        *แวร์เดอร์ เบรเมน มีสถิติการเล่นเกมเหย้าสุดยอด เพราะชนะ 7 จาก 9 นัดหลังสุดในเกมยุโรป แต่การพบทีมจากแดนกระทิงดุถือเป็นปัญหาของพวกเขา เพราะ 5 นัดที่ผ่านมาในรายการนี้ เบรเมน เก็บได้เพียงแต้มเดียว ที่เหลืออีก 4 นัดแพ้เรียบ
 
        *ขณะที่ รีล มาดริด ก็มีปัญหากับเกมนอกบ้านเล่นเกมเยือนในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก 8 นัดที่ผ่านมาชนะคู่แข่งได้เพียงหนเดียวและบุกมาเยือน เยอรมัน 21 หน ชนะกลับไปแค่นัดเดียวและแพ้ไป 14 ครั้ง โดยชัยชนะหนึ่งเดียวคือการบุกชนะ เลเวอร์คูเซ่น 3-2 เมื่อ 7 ฤดูกาลก่อน

ผลการพบกันระหว่าง : ลาซิโอ -vs- โอลิมเปียกอส
18-09-07 โอลิมเปียกอส เสมอ ลาซิโอ  1-1 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

          *ลาซิโอ มีสถิติการเล่นเกมยุโรปที่กรุงโรม แข็งแกร่งมาก เพราะ 7 นัดที่ผ่านมายังไม่เพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งและลงเล่นที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม 13 นัดล่าสุดเพิ่งแพ้หนเดียว นอกจากนั้นพลพรรค เบียงโคเชเลสตี้ ถูกโฉลกกับการลงดวลแข้งกับอาคันตุกะจากแดนเทพนิยาย เพราะชนะทั้งสองนัดและยังไม่เสียประตู โดยถล่ม
พานิโอนิออส 3-0 ในเกมคัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1998-99 และถลุง ซานธี 4-0 ในศึกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 2002-03

          *ขณะที่ โอลิมเปียกอส เพิ่งชนะเกมนอกบ้านในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก หนเดียวจากการออกมาเล่นเกมเยือน 32 หนที่ผ่านมา แต่ยังถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีเพราะชัยชนะหนึ่งเดียวนั้นเกิดขึ้นจากการบุกถล่ม เบรเมน 3-1 รอบแบ่งกลุ่มของซีซั่นนี้ แต่ โอลิมเปียกอส เพิ่งมีแต้มกลับออกไปคะแนนเดียวในการมาเยือน อิตาลี สามหนล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นจากการบุกเสมอ โรม่า 1-1 เมื่อฤดูกาลก่อน

กลุ่ม ดี

โอกาสลุ้นเข้ารอบ :

        ผลเสมอที่ โปรตุเกส จะการันตีสิทธิ์ทะยานเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ให้กับ มิลาน และ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ก็จะตามทีมแชมป์เก่าเข้าไปเช่นกัน หากสามารถบุกชนะ กลาสโกว์ เซลติกถึงสกอตแลนด์และในขณะเดียวกัน เบนฟิก้า ไม่ชนะทีม "ปีศาจแดง-ดำ" ในบ้านตัวเอง
 
สถิติน่าสนใจ

          *เบนฟิก้า เคยเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของสโมสรจากแดนมะกะโรนี 10 หนในเกมยุโรป ปรากฏว่า ชนะ 4 เสมอกับแพ้อย่างละ 3 นัด โดยหนล่าสุดคือเกมเสมอ อินเตอร์ 0-0 ในศึกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 2003-04 และทีม "เหยี่ยวลิสบอน" มีความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักในการลงเผชิญหน้ากับ มิลาน เพราะเคยพบกันมา 5 นัด เสมอ 1 และแพ้สี่  แถมยิงทีม รอสโซเนรี่ ได้แค่สองลูก

          *ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ชนะ 5 จาก 6 เกมล่าสุดในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก แถมยิงประตูได้ทุกนัดตลอด 10 แมตช์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ มิลาน เคยมาเยือน เบนฟิก้า ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของรายการนี้ ปรากฏว่าเสมอกันไปแบบไร้สกอร์

ผลการพบกันระหว่าง : กลาสโกว์ เซลติก -vs- ชัคเตอร์ โดเนทส์ค
20-10-04 ชัคเตอร์ ชนะ เซลติก 3-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
02-11-04 เซลติก ชนะ ชัคเตอร์ 1-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
18-09-07 ชัคเตอร์ ชนะ เซลติก 2-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

         *หาก เซลติก ยิงเพิ่มอีกหนึ่งประตูในค่ำคืนนี้จะกลายเป็นลูกที่ 200 ในการลงเล่นเกมยุโรปนัดที่ 125 และถึงตอนนี้ทีมของ กอร์ดอน สตรัคคั่น ไม่แพ้เกมเหย้าในบอลถ้วยยุโรปมาแล้ว 10 นัดและแนวรับเพิ่งเสีย 2 ประตู ที่สำคัญยอดทีมแห่งเมืองขี้เมาไม่เสียประตู 14 นัดจาก 19 เกมล่าสุด

          *ชัคเตอร์ เป็นอีกทีมที่มีจุดอ่อนในเกมเยือน เพราะเล่นเกมยุโรปนอกบ้าน 11 ครั้งล่าสุด แพ้ 9 เกมและเสมอกับชนะอย่างละหนึ่งนัด โดยยอดทีมจากยูเครนกำลังไล่ล่าชัยชนะนัดที่ 50 จากการลงเล่นเกมยุโรปนัดที่ 111