แบล็คเบิร์น (9) -vs- นิวคาสเซิ่ล (11).....(22.00 น.)
สนาม : อีวู้ด พาร์ค
ราคา : แบล็คเบิร์น ต่อ ครึ่งลูก
ผลการพบกันเมื่อปีที่แล้วพรีเมียร์ลีก - ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค, นิวคาสเซิ่ล แพ้ แบล็คเบิร์น 0-2
- ที่ อีวู้ด พาร์ค, แบล็คเบิร์น แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-3
ผลการพบกันที่ อีวู้ด พาร์คฤดูกาล ผลการแข่งขัน
2006-2007 แบล็คเบิร์น แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 แบล็คเบิร์น แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 แบล็คเบิร์น เสมอ นิวคาสเซิ่ล 2-2 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 แบล็คเบิร์น เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
2002-2003 แบล็คเบิร์น ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-2 (พรีเมียร์ลีก)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดแบล็คเบิร์น
28-11-07 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-4 (เหย้า)
25-11-07 เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (เยือน)
11-11-07 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 (เยือน)
03-11-07 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เหย้า)
31-10-07 ชนะ พอร์ทสมัธ 2-1 (เยือน) (คาร์ลิ่ง คัพ)นิวคาสเซิ่ล
24-10-07 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (เหย้า)
10-11-07 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (เยือน)
03-11-07 แพ้ พอร์ทสมัธ 1-4 (เหย้า)
27-10-07 แพ้ เรดดิ้ง 1-2 (เยือน)
22-10-07 ชนะ สเปอร์ส 3-1 (เหย้า)
สภาพความพร้อมล่าสุดแบล็คเบิร์น
มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน เนลเซ่น และ เซอร์จิโอ ปีเตอร์ ที่ติดโทษแบนคนละ 3 และ 2 นัด ตามลำดับ ทำให้น่าจะโยก เอา อังเดร ออยเยอร์ แบ็กชาวดัตช์ เข้ามายืนตรงกลาง และให้ เบร็ต อีเมอร์ตัน ปีกออสซี่ ถอยลงมาเล่นแดนหลังแทน พร้อมกับเรียก มอร์เตน กัมท์ พีเดอร์เซ่น ปีกตัวจี๊ดกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง
ด้าน แม็ตต์ ดาร์บี้เชียร์ กองหน้าดาวรุ่งก็กลับมาฟิตพร้อมลงสนามอีกครั้ง ส่งผลให้แนวรุกมีให้เหลือใช้งานเพิ่มขึ้นจากเดิม ที่มี เบนนี่ แม็คคาร์ทธีย์, โรเก้ ซานตา ครูซ ดาวยิง และ เจสัน โรเบิร์ตส์ พร้อมลงเล่นอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่ ร็อบบี้ ซาเวจ กองกลางพันธุ์ อาจมีชื่อเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังกลับมาฟิตสมบูรณ์จากการเข้ารับการผ่าตัด และลองประเดิมสนามเป็นตัวสำรองไปแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ ส่วน ดาวเตะที่เจ็บก่อนหน้านี้อย่าง สเตฟาน อองโชซ์ และ สตีเว่น รีด ยังชวดลงสนามตามระเบียบ
นิวคาสเซิ่ล
แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือทีม "สาลิกาดง" มีปัญหาหนักอกในแผงหลัง เมื่อต้องรอทดสอบความฟิตของ สตีเว่น เทย์เลอร์, อับดุลลาย ฟาย และ เคลาดิโอ กาซาป้า ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงานกันหมด ขณะที่ ไมเคิ่ล โอเว่น ดาวยิงตัวเก่งที่ต้นขามาจากเกมรับใช้ทีมชาติ อังกฤษ ก็ยังต้องพักฟื้นต่อไป
ด้าน เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ปีกชาวไอริชที่พักรักษาตัวจากการเข้ารับการผ่าตัดเท้าไปนาน แม้จะกลับมาลงฝึกซ้อมร่วมทีมได้แต่ก็ต้องเรียกความฟิตอีกซักระยะ แต่ในรายของ ปีเตอร์ ราเมจ และ เซเลสติน บาบายาโร่ ที่มีปัญหาบริเวณ เข่า และ หลัง ตามลำดับ ยังชวดลงสนามเช่นเดิม
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนามแบล็คเบิร์น (4-4-2) : แบรด ฟรีเดล - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ไรอัน เนลเซ่น, สตีเฟ่น วอร์น็อค - เดวิด เบนท์ลี่ย์, อารอน โมโคเอน่า, ร็อบบี้
ซาเวจ, มอร์เตน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น - เบเนดิกต์ แม็คคาร์ธี่, โรเก้ ซานตา ครูซนิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น - อาบิ๊บ เบย์, ซานเชส โฆเซ่ เอ็นริเก้, เดวิด โรเซห์นาล, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย - เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี้ บัตต์, โจอี้ บาร์ตัน,
เอ็มเร่ เบโลโซกลู - โอบาเฟมี่ มาร์ติน, มาร์ค วิดูก้า
จับยามสามตา :
แบล็คเบิร์น เสียฟอร์มไปไม่น้อยหลังพลาดท่าปราชัยต่อ แอสตัน วิลล่า คาถิ่นแบบยับเยิน 0-4 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลงานโดยรวมดร็อปลงไป แถมเกมนี้จะไม่มีกองหลังตัวหลักอย่าง ไรอัล เนลเซ่น อาจมีปัญหาในแผงหลังเล็กน้อย แต่แนวรุกถือว่าพร้อมให้ใช้งานมากมายและอาจเป็นตัวตัดสินเกมในวันนี้เลยก็ได้
ด้าน นิวคาสเซิ่ล ฟอร์ม เหลวแหลกไม่มีชิ้นดี สะกดคำว่าชนะใครไม่เป็นมา 4 เกมติด แถมเกมนี้ ยังต้องออกมาเล่นนอกบ้านซึ่งพวกเขาทำผลงานไม่ดีเลย ดูแล้วพวกเขาก็คงปาดเหนื่อยกันเลยทีเดียวหากหวังจะมีแต้มกลับถิ่นออกไป เนื่องจากเกมรับถือเป็นจุดอ่อนที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเสียประตูง่ายเหลือเกินเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่มีเกมรุกรวดเร็วเล่นงาน
ปัญหาตอนนี้ ของ แบล็คเบิร์น คือ เกมรุกเริ่มฝืดลงไป หาโอกาสส่งประตูคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้ เช่นเดียวกับ นิวคาสเซิ่ล แต่หากเทียบเกมรับแล้ว แบล็คเบิร์น ยังดูเชื่อใจได้กว่านิดๆ แม้ว่า จากสถิติเดิมๆ ที่พบกันใน อีวู้ด พาร์ค ทางด้านนิวคาสเซิ่ล จะบุกมาต่อกรได้อย่างสูสีไม่เป็นรอง แต่ด้วยฟอร์มการเล่นและข้อบกพร่องของทีมในตอนนี้ โดยเฉพาะเกมรับไม่ได้เรื่อง ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะโดนเกมรุกของเจ้าบ้านที่อยู่กันพร้อมหน้าตาคืนฟอร์มบุกเข้าไปเจาะตาข่ายได้ง่ายๆ เหมือนกัน...ต่อ แบล็คเบิร์น
สกอร์ที่คาด : แบล็คเบิร์น ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0