ล้วงลึกศึกพรีเมียร์ เชลซี -vs- ซันเดอร์แลนด์

เชลซี (3) -vs- ซันเดอร์แลนด์ (15)......(22.00 น.)


สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ราคา : เชลซี ต่อ ลูกครึ่งควบสอง

ผลการพบกันเมื่อปีที่แล้ว

- ไม่ได้เจอกัน

ผลการพบกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

ฤดูกาล                 ผลการแข่งขัน
2005-2006 เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
2002-2003 เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
2001-2002 เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-0 (พรีเมียร์ลีก)
2000-2001 เชลซี แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 2-4 (พรีเมียร์ลีก)
1999-2000 เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-0 (พรีเมียร์ลีก)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

เชลซี 
01-12-07 ชนะ เวสต์แฮม 1-0 (เหย้า)
28-11-07 ชนะ โรเซนบอร์ก 0-4 (เยือน) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
24-11-07 ชนะ ดาร์บี้ 2-0 (เยือน)
11-11-07 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เหย้า)
06-11-07 เสมอ ชาลเก้ 04 0-0 (เหย้า) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

ซันเดอร์แลนด์
01-12-07 ชนะ ดาร์บี้ 1-0 (เหย้า)
24-11-07 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-7 (เยือน)
10-11-07 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า)
05-11-07 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เยือน)
27-10-07 เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (เหย้า)

สภาพความพร้อมล่าสุด

เชลซี

       อัฟรามท์ แกรนด์ กุนซือทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" น่าจะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์พันธุ์ทึกที่ยังต้องชดใช้โทษแบนต่อไป แถม ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ อังเดร เชฟเชนโก้ อาจได้โอกาสล่าตาข่ายแทน ขณะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ปีกชาวน้ำหอมที่เจ็บเข่า ยังต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง

       ส่วน ปีเตอร์ เช็ก โกล์มือ 1 แม้จะหายเจ็บน่องแล้ว แต่ยังไม่พร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ ทำให้ คาร์โล คูดิชินี่ โกล์มือ 2 ยืนเฝ้าเสาต่อไป อย่างไรก็ดี ทีมจะยังไม่มี นักเตะที่เจ็บอยู่ก่อนแล้วอย่าง  ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ เปาโล แฟร์ไรร่า 2 กองหลังชาวโปรตุกีสที่เจ็บหลัง และ ข้อเท้า  ตามลำดับเช่นเดียวกับ มิชาเอล บัลลัค กองกลางเยอรมันที่ยังอยู่ในระหว่างการเรียกความฟิต

ซันเดอร์แลนด์

      รอย คีน กุนซือทีม "แมวดำ" จะไม่มี คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ดส ปีกตัวเก่งที่โชคร้ายขาหัก ภายหลังปะทะกับ เจย์ แม็คอีฟลี่ย์ นักเตะของทีม ดาร์บี้ ในนัดล่าสุด ทำให้ต้องพักราว 6 สัปดาห์ ส่วน  ดาร์เรน วอร์ด โกล์มือ 2 น่าจะได้โอกาสลงเฝ้าเสาอีกครั้ง หลังทำผลงานได้ดีในเกมที่แล้ว ทำให้ เคร็ก กอร์ดอน โกล์มือ 1 อาจต้องนั่งอยู่ม้านั่งข้างสนามต่อไป

      อย่างไรก็ดี ทีมจะชวดใช้งานนักเตะที่เจ็บอยู่ก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็น ไนรอน นอสเวิร์ทธี่ย์, คีแรน ริชาร์ดสัน และ รัสเซลล์ อันเดอร์สัน ที่เจ็บ เอ็นร้อยหวาย, หลัง และข้อเท้า ตามลำดับ เช่นเดียวกับ สตานิสลาฟ วาร์ก้า ดาวเตะที่เจ็บยาวอีกราย

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

เชลซี (4-1-4-1) : คาร์โล คูดิชินี่ - ชูเลียโน่ เบเลตติ, ทาล เบน ฮาอิม, อเล็กซ์, เวย์น บริดจ์ - จอห์น โอบี มิเกล - โจล โคล, สตีฟ ซิดเวลล์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซาโลมง กาลู - อังเดร เชฟเชนโก้

ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2) : ดาร์เรน วอร์ด - เกร็ก ฮัลฟอร์ด, พอล แม็คเชน, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตธอม, แดนนี่ คอลลินส์ - เลียม มิลเลอร์, ดีน ไวท์เฮด, แกรนท์ ลีดบีทเทอร์, รอสส์ วัลเลซ - แอนดี้ โคล, เคนวิน โจนส์

---

จับยามสามตา :

       ชัยชนะนัดที่แล้ว น่าจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกทีมของ รอย คีน ได้อย่างมาก แต่นัดนี้ โอกาสพลิกล็อคของซันเดอร์แลนด์ยากเหลือเกิน เพราะไม่ว่าจะมองมิติไหนๆ ก็ดูเป็นรอง เชลซี อยู่หลายขุม ยิ่งไปกว่านั้น ต้องบุกไปเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้เป็นงานหนักขึ้นอีกหลายเท่า

       อย่างไรก็ตาม การที่ เชลซี จะไม่มี ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก่งที่บาดเจ็บ น่าจะส่งผลให้เกมรุกไม่ได้ดั่งใจ เช่นเดียวกับ แผงมิดฟิลด์ที่ขาด มิชาเอล เอสเซียง เกมแดนกลางไม่ดุดันเหมือนเดิม ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ก็มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่แพ้กัน โดยเฉพาะแผงหลังยังไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้นัก และนั่นอาจเปิดโอกาสให้ แนวรุกของ เจ้าถิ่น หลุดเข้าไปทำประตูได้ชัยได้ แต่คาดว่าคงไม่ขาด เพราะ ซันเดอร์แลนด์ มักทำผลงานกับทีม หัวตารางได้ดี ดูจาก นัดที่แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-1 (นาทีที่ 70), แพ้ อาร์เซน่อล 2-3 (นาทที่ 80) และ แพ้ แมนฯซิตี้ 0-1 (นาทีที่ 68)....เสี่ยงรอง ซันเดอร์แลนด์

สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0