+++อ่านทาง...บอล(ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก)+++

สวัสดีท่านสมาชิกที่เคารพทุกท่าน...ลองดูในมุมมองของผมซึ่งใคร่จะนำเสนอไว้พิจารณา... ***ปอร์โต้(โปรตุเกส 1 ) พบ เบซิคตัส (ตุรกี4) เจ้าบ้านต่อ 1/1.5*** วิเคราะห์ : ปอร์โต้ต้องไม่แพ้บวกกับทีมเยือนต้องชนะ นี้คือสิ่งที่นักเตะทุกคนจำนวน 22 คน จากทั้งสองทีมต้องท่องก่อนลงสนาม ปอร์โต้ ชนะมานัดแรกในบ้านของเบซิคตัส 1-0 ซึ่งยิงในนาทีสุดท้ายของเกม หากมองตรงประสบการณ์เกมในบอลยุโรป ปอร์โต้เหนือกว่าเบซิคตัสพอสมควร จังหวะของเกมในวันนี้ปอร์โต้ คือเกมที่สามารถลงเล่นได้ตามต้องการมากกว่า คือสามารถกำหนดผลของเกมได้ คือการชนะหรือเสมอ ต่างจากเบซิคตัสที่ต้องลงแข่งเพียงชนะเท่านั้น จากแฮนดิแคปมันทำให้การลงทุนค่อนข้างจะยากในการที่จะวางไปทิศทางใด ปอร์โต้หากมองถึงเกมย่อมที่จะตั้งรับแล้วดต้กลับใช้ความเร็วของเกมแดนหน้าเพื่อที่จะทำให้แผงกลางและแผงหน้าของเบซิคตัสไม่ให้เข้ามา และโต้กลับอย่างรวดเร็ว เพื่อที่ break เกมของเบซิคตัส ธรรมชาติและการลงเล่นที่ได้เปรียบความแน่นอนในแผงรับ คือสิ่งสำคัญปอร์โต้ย่อมที่จะเน้นเกมแดนกลางและแดนหลังเพื่อที่จะชะลอเกมของทีมเยือน และเมื่อมองจากระบบ 4-3-3 ส่วนตัวมองว่าน่าจะลวงมากกว่าว่าจะเปิดสู้ แต่แท้จริงเมื่อลงแข่งผมมั่นใจว่าเกมของเจ้าบ้านต้องเน้นแดนกลางและแดนหลัง และโต้กลับเป็นระยะเพื่อที่จะขู่แนวรุกของทีมเยือนไม่ให้เข้ามารุกมากๆ ป้องกันการยุบของแผงหลัง ซึ่งเมื่อมองจากสถิติ 5 นัด ได้ 6 เสีย 7 ประตู นั้นหมายถึงว่าปอร์โต้ก็มีปัญหาในแผงหลังเช่นกัน บอลทีมเยือนต้องเป็นไปอย่างอื่นไม่ได้นอกเสียจากการที่ต้องมีสามแต้มเพื่อที่จะเข้ารอบ บอลตุรกีใน concept ของเกม คือการเน้นรับแล้วโต้กลับ ไม่ใช่รุกโดยพื้นฐานของบอลยุโรปทั่วไป ผมมองเกมนะปอร์โต้ไม่น่าที่จะกล้าเปิดเกมแลกแน่ๆ เพราะนั้นหมายถึงว่าเกมของปอร์โต้เริ่มที่จะเสี่ยงต่อการตกรอบมีสูงหากถึงแพ้ เช่นเดียวกันในสถานภาพของเกมที่ทีมเยือนต้องการสามแต้มมันก็น่าที่จะเปิดเกมแลกเพื่อการเข้ารอบ แต่อย่าลืมว่ายังคงจะมีบอล “ยูฟ่า”ที่เอาอันดับสามที่ทำให้ทีมเล็กๆอย่างเบซิคตัสหวังอยู่เช่นกัน แค่ความเห็น...รองเบซิคตัส ***ชาลเก้ 04 (เยอรมัน 7) พบ โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์ 5) เจ้าบ้านต่อ 1.5*** วิเคราะห์ : บอลคุ่นี้ผมยกให้เป็นบอลทางเดียวที่โอกาสของเจ้าบ้านมีถึง 90-100 % สำหรับเกมที่สามารถกำหนดด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นต้องดัดเกมเหมือนทีมเยือน เจ้าบ้าน 5 แต้มรั้งอันดับ 3 โอกาสเดียวที่ยังคงจะอยู่ในเวทีนี้ คือสามแต้ม ต่างกับทีมเยือนที่ต้องการเพียง 1 แต้มนั้นหมายถึงน่าจะการันตีในการเข้ารอบ นัดแรกเจอกันมาเจ้าบ้านทุบ 2-0 ในเกมที่โรเซนบอรืกทีมเยือนต้องการสามแต้มเพื่อการันตีการเข้ารอบและการเจอกันในนัดดังกล่าวความกดดันอยู่ที่ชาลเก้ที่ออกไปเยือนและแพ้ไม่ได้ โรเซนบอร์กเมื่อหันไปมองตรงผลงานที่ผ่านมา ตั้งแต่รอบแรก โรเซนบอร์กจะออกไปเยือนก่อนทุกครั้งและทุบมาทั้งสองครั้ง คือการเอาชนะ อัสคาน่า(คาซัคสถาน) 3-1 /และชนะแทมเปเร่ 3-0 แต่สถานการณ์ดังกล่าวโรเซนบอร์กกลับเป็นฝ่ายที่เฝ้าบ้านก่อนและพ่ายไป 2-0 และนัดนี้ต้องกลับมาลงเล่นที่เยอรมัน แล้วโรเซนบอร์กจะเดินเกมอย่างไร ? เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบแค่ผลเสมอก็เข้ารอบ เอาแบบคนที่เป็นบอลและไม่เป็นบอลเลยเป็นคนตอบก็คือการที่ต้อง “อุด” เพื่อผลเสมอ แล้วโรเซนบอร์กจะเดินเกมอย่างไรในเมื่อบอลนอร์เวย์ทีมนี้คือบอลที่เป็นบอลรุกโดย normal แต่กลับต้อง apply เกมเพื่อผลเสมอและต้องยันให้อยู่ 90 นาที จากความได้เปรียบในเชิงของผลการแข่งขัน แต่จะเสียเปรียบทางด้านของเกมที่ต้องดัดเกมของตัวเองมาตั้งรับเพื่อผลเสมอ สถานการณ์บอลทางเดียวที่บีบให้ชาลเก้ต้องการผลชนะหากขึ้นนำเร็ว ผมยังมั่นใจว่าโรเซนบอร์กจะไม่ตั้งรับอีกและน่าจะเป็นบอลทางเดียวสำหรับเกมที่น่าจะวันเวย์สำหรับชาลเก้ มองบอลมุมประสบการณ์บวกกับถิ่นเยอรมันที่น่ากลัวทุกทีมยามมาเยือน มองถึงเกมชนะหากแต่ไม่รู้ว่าจะยิงข้ามเส้นหรือไม่นั้นคือเกม 90 นาทีที่ชาลเก้จะทำเงินให้เราหรือไม่ แค่ความเห็น...ต่อชาลเก้ 04ๆๆๆๆ ***โอลิมปิก มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส 13) พบ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ 4) เยือนต่อ 0.5** วิเคราะห์ : สถานการณ์ของทีม มาร์กเซย์ อันดับ 2 มี 7 แต้ม และลิเวอร์พูล อันดับสามมี 7 แต้มเท่ากัน แต่จะไม่เข้ารอบหากเสมอเพราะ head to head หากถามว่าการเดินเกมของทั้งคู่ความได้เปรียบเสียงเชียร์/การวางเกมการเล่น/การวางตัวผู้เล่น/หรือสภาพสนามความได้เปรียบตรงนั้นคือมาร์กเซย์ จากแฮนดิแคปในระดับขอบอลลิเวอร์พูล ถือว่าธรรมดาหากท็อปฟอร์ม แต่มันจะแตกต่างตรงที่ลิเวอร์พูลมีหน้าเดียวเท่านั้นที่จะเข้ารอบ คือการต้องชนะ ผมใช้ความรู้สึกและการมองเกมซึ่งผมมีโอกาสได้เฝ้าดูเกมของมาร์กเซย์ประมาณสามครั้ง และทุกๆครั้งผมจะจดสถิติบวกกับสิ่งที่เป็นจุดเด่นของมาร์กเซย์ มาร์กเซย์จัดเป็นบอลที่มีความหลากหลายสำหรับเกม โดยตัวหลักๆของเกมที่เด่นมากสำหรับการวางเกมยามลงสนามก็คือ เซนเด้น/มาดูเนียงและซิสเซ่ ในแนวรุก ที่สามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเข้าทำ โดยcover เกมเบอร์นัว เชย์รู/โรดิเกวซและบงนาร์ แต่แผงหลังของมาร์กเซย์ค่อนข้างที่เชื่องช้าและการยืนตำแหน่งไม่ค่อยจะดีในจังหวะของเกมที่ต้องรับ ลิเวอร์พูล จุดแข็งของเกม การมีตอร์เรสบวกกับเบนายูน/บาเบิล หรือเวโรนิน น่าจะมีส่วนสำคัญของเกมที่เป็นจุดสลบของเกม ในเมื่อเกมวันนี้ผมมองว่ามาร์กเซย์คงจะไม่ตั้งรับแน่ เพาะนั้นหมายถึงเกมของมารืกเซย์จะเป็นรองทันทีเพราะความเฉียบคมบวกกับความเหนียแน่นในแผงรับมันต่างกัน มาร์เซย์จะรับมีแต่จะเสียประตูหากแต่จะรุกเลยมันก็เสี่ยงพอสมควร เจ้าบ้านวางเกม 4-2-3-1 นั้นหมายถึงว่าช่วงชิงจังหวะแดนกลางเพื่อชิงความได้เปรียบ ลิเวอร์จัด 4-4-2 เพื่อที่จะใช้แผงกลางเป้นตัว follow เกมในกรณีที่ตั้งรับและรุก หากผมเปลี่ยนได้ผมอยากจะบอกเบนิเตซว่าควรที่จะจับมาสเคราโน่และรีเซ่นั่งซะ เพราะนั้นคือจุดอ่อนของเกมที่ไม่มีทีเด็ด ลิเวอร์พูลเคยมาแพ้มาร์กเซย์ในถ้วยยูฟ่าคัพแต่นั้นเป็นยุคของ “ อุลลิเยร์” ที่แก้เกมไม่เก่ง ซึ่งต่างจากเบนิเตซที่มีสมองใสแจ๋วในการวางเกม ผมยังเชื่อว่าเบนิเตซสามารถพาทีมรอดพ้นจากความกดันไปได้ เพราะสถานการณ์ของมาร์กเซย์ก็ตั้งรับไม่ได้ด้วยเช่นกันเพราะตั้งรับนั้นหมายถึงมีโอกาสที่จะเหลือสนามเพียงครึ่งเดียววัดตรงระบบเครื่องจักรสีแดงน่าจะทำงาน แค่ความเห็น...ต่อลิเวอร์พูล ***เรอัล มาดริด(สเปน 1) พบ ลาซิโอ(อิตาลี 12) เจ้าบ้านต่อ 1/1.5*** วิเคราะห์ : มาดริดเจ้าบ้าน อันดับ 1 8 แต้ม และทีมเยือนอันดับสุดท้ายคือ 5 แต้ม เกมวันนี้เจ้าบ้านไม่ต้องการผลเสมอเช่นเดียวกับทีมเยือนที่เสมอไม่ได้ มาดริดเสมอจะเป็น 9 แต้ม /กอสเสมอ 9แต้มแต่หากกอสชนะ เป็น 11 แต้ม และเบรเมนชนะ เป็น 9 แต้ม โอกาสที่จะเป็นงูกินหางเป็นไปได้สูง ในบอลระดับใหญ่อย่างเกมยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกน้อยครั้งที่จะมีการนำผล head to head มาพิจารณา เพราะนั้นคือเกมที่เบียดสุดสูสีพอสมควร ลาซิโอมาเยือนมาดริด 1 ครั้งแพ้ไป 3-2 และเฝ้าบ้าน เสมอทั้งสองครั้ง 2-2 เกมธรรมชาติของ “แบรนด์ ชูสเตอร์” ตั้งแต่ยุคของเคตาเฟ่ คือการมีบอลที่รัดกุมและจะช่วงชิงจังหวะของความได้เปรียบเจาะเข้าไปตรงพื้นที่ที่เห้นว่าได้เปรียบและนั้นคือเกมของมาดริดที่แม้มีตัวรุกระดับโลกอย่าง ฟาน/ราอูล/โรบินโญ่/ชไนเดอร์ แต่แนวทางของแบรนด์ ชูสเตอร์ยังคงจะไว้วางใจในความคิดที่ตัวเองสร้างสรรค์ทีม เหตุที่ผมกำลังนำมากล่าวแค่กำลังบอกทุกท่านว่าเกมของมาดริดปิดประตูแพ้ตรงที่เกมของลาซิโอ คือเกมที่มีบอลรุกโดยธรรมชาติและจุดผิดพลาดจะเกิดขึ้นบ่อยๆตรงที่มีเกมที่รุกและทิ้งแนวรับของตัวเอง รอสซี่ ใช้ปรัชญาของเกมที่วางเป็นรูปร่างของลาซิโอ คือการมีบอลเกมรุกนั้นคือเกมรับที่ดีที่สุด เกมวันนี้จะเป้นไปอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการที่ลาซิโอไม่มีอะไรจะเสียและไม่รู้จะเสียอะไรน่าจะเปิดเกมเข้าสู้กับมาดริดและน่าจะโดนเกมสวนกลับที่เป็นเกมของชูสเตอร์ชอบเพื่อสร้างสรรค์สกอร์ ซื้อมุมไม่แพ้สำหรับเกมของมาดริดคงจะเหลือจะชนะข้ามเส้นหรือไม่นั้คือเกม 90 นาที เช่นกันเกือบลืมครับผมเป้นแฟน “ลาซิโอ” แต่ผมมองเกมที่เป็นเกมที่น่าลงทุนมากกว่าที่จะมองทีมโปรด แค่ความเห็น...ต่อมาดริด ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาให้กำลังใจและแวะทักทาย....แค่ความเห็น...ไม่ใช่ทั้งหมดของเกม 90 นาที+ใบแดง+จุดโทษ...POOSARA ;) ;) ;)