ผี ชน หงส์, ปืน ปะทะ สิงห์ ชี้แนวทางแชมป์ผู้ดี
หลังจากศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบแบ่งกลุ่มได้บทสรุปกันเป็นที่เรียบร้อย สุดสัปดาห์นี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติมีฟุตบอลลีกยุโรปให้ลุ้นและติดตามเช่นเคย โดยไฮไลต์ประจำสัปดาห์หนีไม่พ้นศึกลูกหนังแดนผู้ดี เพราะจะมีเกมระดับ 5 ดาวให้ชมถึงสองสนามทั้งที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมและ แอนฟิลด์
อาร์เซน่อลและ ลิเวอร์พูล สองทีมเต็งแชมป์ลีก ที่เพิ่งเสียสถิติไร้พ่ายเมื่อสัปดาห์ก่อน มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซีและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมทั้งสองคู่จะหวดกันในวันอาทิตย์ ซึ่งสมกับเป็นเกมที่เรียกว่า "ซูเปอร์ซันเดย์" โดยแท้จริง
บรรยากาศภายในทีมของสี่สโมสรยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดีถือว่ากำลังคึกคัก เพราะต่างตีตั๋วทะยานเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกชิงจ้าวยุโรปได้แบบถ้วนหน้า แม้ว่าทีมขวัญใจคนไทยอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องลุ้นเหนื่อยจนถึงเกมนัดสุดท้ายเลยก็ตามถึงตอนนี้ภารกิจในเกมยุโรปของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชของยอดทีมแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซี่ย์ไซด์นั้นถือว่าล่วงเลยมาเกือบครึ่งทางแล้ว แต่ในส่วนของการลุ้นแชมป์ลีกในประเทศนั้น "เอล ราฟา" และขุนพล "เร้ด แมชชีน" ยังต้องเหนื่อยกันต่อไป เพราะหลังจากการแข่งขันผ่านพ้นไปเกือบครึ่งทาง
ราฟาเอล เบนิเตซ (ซ้าย) มีคิวต้องวัดกึ๋นกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อีกครั้ง
ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล มีแต้มตามหลังจ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ 7 แต้ม ดังนั้นเกมช่วงสุดสัปดาห์นี้จึงนับว่าสำคัญต่อพวกเขายิ่ง เพราะความพ่ายแพ้อาจส่งผลให้ช่องว่างระหว่างคะแนนของพวกเขากับ อาร์เซน่อล ห่างถึง 10 แต้มได้และตามหลังรองจ่าฝูง แมนยู 9 แต้ม
หากเป็นเช่นนั้นโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ลีกไปครองเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1990 คงเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในซีซั่นนี้ แต่ถ้าเด็กของ เบนิเตซ เล่นได้ดั่งเกมบุกถลุง มาร์กเซย 4-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อให้ทีม "ปีศาจแดง" มาแบบฟอร์มเทพแค่ไหนก็คงไม่ง่ายที่จะบุกมาเกือบสามแต้มกลับออกไป อย่างน้อยทีม "หงส์แดง" ก็มีสถิติการเล่นเกมเหย้าอันยอดเยี่ยม ฤดูกาลนี้ยังแพ้ใครไม่เป็น
อย่างไรก็ตามความได้เปรียบที่ชัดเจนของทีมเยือนจากเมืองแมนเชสเตอร์คือความสดของขุนพลหลักที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ที่กรุงโรม เพราะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งบรรดานักเตะสำรองลงบู๊ เนื่องจากทีมเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มตั้งแต่จบเกมนัดที่ 5 แล้ว สำหรับแมตช์นี้คงมาเยือนแอนฟิลด์เพื่อทำศึก "แดงเดือด" ด้วยสภาพเต็มสูบ โดยสถิติการพบกันในลีก 10 ครั้งล่าสุดของคู่นี้ที่บ้านของ ลิเวอร์พูล ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ชนะ 2 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง แมนยู ชนะ 6 ครั้ง
การพบกันหนล่าสุดของคู่นี้ปรากฏว่า "ผีแดง" ได้เฮ
มากันที่เกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่างสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวงที่จะหวดกัน ณ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตามสถิติแล้วผลงานของ เชลซี ยามมาเยือนบ้านของ อาร์เซน่อล นั้นไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไร แต่นับตั้งแต่ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีม ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาพลพรรค "สิงห์บลูส์" ยังไม่เคยบุกมาเสียท่าให้กับทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ เลย
อย่างไรก็ตามตอนนี้กุนซือฝีปากกล้านั้นไม่อยู่สร้างสถิติต่อแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือก้าวแรกของผู้จัดการทีม อัฟราม แกรนท์ ในการมาเยือน แอชเบอร์ตัน โกรฟ นั้นจะมีบทสรุปออกมาเป็นอย่างไร
สำหรับฟอร์มล่าสุดแม้ เชลซี จะทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ บาเลนเซีย แบบไร้สกอร์ ในเกมทิ้งทวนรอบคัดเลือกบอลยุโรป แต่นั่นเป็นเพราะเด็กในสังกัดของ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช นั้นเล่นแบบชิว ๆ เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนหวดเต็มสตรีมในเกมนี้
ฤดูกาลที่แล้วเกมระหว่าง อาร์เซน่อล -vs- เชลซี หวิดมีมวยหมู่เป็นของแถม
ทางด้าน อาร์เซน่อล มีสถิติอย่างหนึ่งที่น่าติดตามคือ ทีมของ เวนเกอร์ ในยุคไร้ เธียร์รี่ อองรี กลับยิงประตูคู่แข่งในเกมลีกได้ทุกนัดนับตั้งแต่เปิดซีซั่นมาและถึงตอนนี้ขุนพลยังบลัดของทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ครองสถิติแนวรุกดุดันสุดของลีก ภายหลังสอยตาข่ายฝั่งตรงข้ามไปแล้ว 33 ตุง เหนือ แมนฯยูไนเต็ด 4 ประตู
เชส ฟาเบรกาส ถือเป็นหัวใจเกมรุกของ อาร์เซน่อล ภายหลังฤดูกาลนี้ กองกลางดาวรุ่งทีมชาติสเปน ยิงไปแล้ว 11 ลูกและทำทางให้เพื่อนร่วมทีมถึง 7 ครั้ง แต่ปัญหาคือ ฟาเบรกาส มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าตึงและยังไม่แน่ว่าจะเรียกความฟิตทันลงช่วยทีมในวันอาทิตย์นี้หรือเปล่า
หาก ฟาเบรกาส หายไม่ทันก็น่าจะเป็นสถานการณ์ที่ยากอีกครั้งสำหรับ เวนเกอร์ เพราะสองนัดที่ผ่านมาเมื่อต้องเปลี่ยนตัวจอมทัพ ทีมเพิ่งเก็บได้แต้มเดียวจากการบุกเสมอ นิวคาสเซิ่ลและ แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ สองทีมดังจากภาคอีสานของประเทศ
ใครเป็นแฟนทีมไหนก็ตามเชียร์กันเอานะครับ แต่ที่แน่ ๆ หลังจบเกมช่วงสุดสัปดาห์นี้เชื่อว่าภาพของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิพในฤดูกาลนี้จะชัดเจนขึ้นอย่างแน่นอน....."โชคดี มีตังค์ใช้ครับ"
13 / 12 / 2007 21:17