ล้วงลึกศึกพรีเมียร์ เร้ดดิ้ง -vs- ซันเดอร์แลนด์

เร้ดดิ้ง (13) -vs- ซันเดอร์แลนด์ (17)........(22.00 น.)

สนาม : มาเดจสกี้ สเดเตี้ยม

ราคา : เรดดิ้ง ต่อ ครึ่งลูกลบสิบ

ผลการพบกันในฤดูกาลนี้

พรีเมียร์ลีก - ที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์, ซันเดอร์แลนด์ ชนะ เร้ดดิ้ง 2-1

ผลการพบกันเมื่อปีที่แล้ว

- ไม่เคยพบกันมาก่อน

ผลการพบกันที่ มาเดจสกี้ สเดเตี้ยม

ฤดูกาล                    ผลการแข่งขัน
2004-2005 เร้ดดิ้ง ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (แชมเปี้ยนชิพ)
2003-2004 เร้ดดิ้ง แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-2 (แชมเปี้ยนชิพ)
1997-1998 เร้ดดิ้ง ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-0 (แชมเปี้ยนชิพ)
1995-1996 เร้ดดิ้ง เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (แชมเปี้ยนชิพ)
1994-1995 เร้ดดิ้ง แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-2 (แชมเปี้ยนชิพ)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

เร้ดดิ้ง
15-12-07 เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 (เยือน)
08-12-07 ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (เหย้า)
01-12-07 เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-1 (เหย้า)
24-11-07 แพ้ แมนฯซิตี้ 1-2 (เยือน)
12-11-07 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เหย้า)

ซันเดอร์แลนด์
15-12-07 เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เหย้า)
08-12-07 แพ้ เชลซี 0-2 (เยือน)
01-12-07 ชนะ ดาร์บี้ 1-0 (เหย้า)
24-11-07 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-7 (เยือน)
10-11-07 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า)

สภาพความพร้อมล่าสุด

เร้ดดิ้ง

"เดอะรอยัลส์" ยังต้องรอเช็กความฟิตของ บรินยาร์ กุนนาร์สสัน มิดฟิลด์ตัวเก่งที่เจ็บหัวเข่า

       สตีฟ คอปเปลล์ กุนซือทีม "เดอะรอยัลส์" ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ไมเคิ่ล ดูเบอร์รี่ กองหลังร่างยักษ์ ที่เจ็บซี่โครง และ บรินยาร์ กุนาร์สสัน มิดฟิลด์ไอซ์แมนที่เจ็บหัวเข่า ทำให้ คาลิฟา ซิสเซ่ เตรียมรอเสียบในรายหลัง ส่วน  จอห์น ออสเตอร์, เกล็น ลิตเติ้ล, อารอน บราวน์, ปีเตอร์ มาเต้ และ ฮัล ร็อบสัน-คานู ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนยังคงชวดต่อไป

ซันเดอร์แลนด์

เควิน โจนส์ (เสื้อลายขาว-แดง) ยังคงเป็นความหวังในแนวรุกของทีม "แมวดำ" เช่นเดิม

      รอย คีน กุนซือทีม "แมวดำ" จะชวดใช้งาน เลียม มิลเลอร์ มิดฟิลด์ร่างเล็กชาวไอริช ที่ติดโทษแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 นัด หลังจากโดนใบแดงไล่ออกในเกมที่แพ้ เชลซี 0-2  ส่วน แกรนท์ ลีดบิทเทอร์ กองกลางที่นั่งเป็นตัวสำรองเกมที่เสมอกับ แอสตัน วิลล่า 1-1 ในนัดล่าสุด ยังต้องลุ้นกลับมาเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้ง ส่วน ตำแหน่ง นายด่าน ดูท่าว่า ดาร์เรน วอร์ด โกล์มือ 2 จะได้ลงโอกาสเฝ้าเสาแทน เคร็ก กอร์ดอน ต่อไปอีก แต่ทั้ง  คีแรน ริชาร์ดสัน, ไนรอน นอสเวอร์ธี่, คาร์ลอส เอ็ดเวิร์ด, รัสเซลล์ อันเดอร์สัน และ สตานิสลาฟ วาร์ก้า ดาวเตะที่เจ็บยาวยังคงต้องพักรักษาตัวเช่นเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

เรดดิ้ง (4-4-2) : มาร์คัส ฮาห์นีมันน์ - แกรม เมอร์ตี้, ไมเคิ่ล ดูเบอร์รี่, อิวาร์ อิงกิมาร์สสัน, นิคกี้ ชอรี่ย์ - บ็อบบี้ คอนวี่ย์, เจมส์ ฮาร์เปอร์, บรินยาร์ กุนนาร์สสัน, สตีเฟ่น ฮันท์ - เดฟ คิตสัน, เควิน ดอยล์

ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2) : ดาร์เรน วอร์ด - ดีน ไวท์เฮด, พอล แม็คเชน, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตธอม, แดนนี่ คอลลินส์ - ดาร์ริล เมอร์ฟี่, ดิ๊คสัน เอตูฮู, ดไวท์ ยอร์ค, รอสส์ วัลเลซ - แอนโธนี่ สโต๊คส์, เคนวิน โจนส์

---

จับยามสามตา :

       คู่นี้เจอกันทีไร สู้กันได้สูสีทีเดียว ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ทำให้ผลออกได้ทั้ง 3 หน้าเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เร้ดดิ้ง ได้เปรียบแน่นอน จากการลงในบ้านตัวเอง ซึ่งทำผลงานได้ค่อนข้างดี แพ้ยาก ขณะที่ เกมรุก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ทีมมาอยู่กลางตารางได้อย่างหายใจหายคอขึ้น ส่วนสภาพทีม ก็เกือบจะเป็นชุดที่เดิมๆ ทั้งหมด

       ด้าน ซันเดอร์แลนด์ ฟอร์มแกว่งไปแกว่งมาเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาของพวกเขา ก็ยังคงเป็นเกมรับที่เจอบดเจอนวดหนักๆ ก็มีพลาดเอาง่ายๆ โดยเฉพาะ ต้องออกมาเยือน ซึ่งพวกเขาเล่นไม่ดีเลย ยิ่งไปกว่นั้น การที่ พวกเขาเป็นทีมที่เล่นได้ดีในช่วงต้นเกม และจะคอยๆ แผ่วปลายซึ่งนั่น น่าจะเป็นโอกาสให้ เกมรุกของเจ้าถิ่น ที่ชอบเกมบุกใส่อยู่แล้ว อาศัยลูกฮึดจากการเป็นเจ้าถิ่น เจาะเข้าไปทำประตูได้สำเร็จ  

 

สกอร์ที่คาด : เร้ดดิ้ง ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1