เชลซี (3) -vs- ลิเวอร์พูล (5)........(23.00 น.)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ราคา :
ผลการพบกันในฤดูกาลนี้คาร์ลิ่ง คัพ - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
พรีเมียร์ลีก - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
ผลการพบกันเมื่อปีที่แล้วยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ - ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 1-0 (รวม 2 นัดเสมอกัน 1-1, ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 4-1)
- ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
พรีเมียร์ลีก - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
- ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0
แชร์รีตี้ ชิลด์ - ที่ เวมบลีย์, เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ผลการพบกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
2006-2007 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 (เอฟเอ คัพ)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
2004-2005 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดเชลซี
02-02-08 เสมอ พอร์ทสมัธ 1-1 (เยือน)
30-01-08 ชนะ เร้ดดิ้ง 1-0 (เหย้า)
26-01-08 ชนะ วีแกน 2-1 (เยือน) (เอฟเอ คัพ)
23-01-08 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เยือน) (คาร์ลิ่ง คัพ)
19-01-08 ชนะ เบอร์มิงแฮม 1-0 (เยือน)ฟอร์มการเล่นเกมเหย้าในลีกของ เชลซี : แข่ง 12 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 0 ได้ 23 เสีย 8 แต้ม 28
ลิเวอร์พูล
02-02-08 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (เหย้า)
30-01-08 แพ้ เวสต์แฮม 0-1 (เยือน)
26-01-08 ชนะ ฮาวานต์ 5-2 (เหย้า) (เอฟเอ คัพ)
21-01-08 เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 (เหย้า)
15-01-08 ชนะ ลูตัน ทาวน์ 5-0 (เหย้า) (เอฟเอ คัพ)ฟอร์มการเล่นเกมเยือนในลีกของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 12 ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 14 เสีย 8 แต้ม 22
สภาพความพร้อมล่าสุดเชลซี
แฟร้งค์ แลมพาร์ค มิดฟิลด์ตัวสำคัญ หายเจ็บกลับมามีลุ้นลงสนามในเกมนี้
อัฟราม แกรนท์ กุนซือ ทีม "สิงห์บูลส์" มีลุ้นได้ แฟร้งค์ แลมพาร์ค กองกลางกัปตันทีมกลับมาประจำการในแผงมิดฟิลด์อีกครั้ง ภายหลังนักเตะสลัดอาการบาดเจ็บต้นขาและเรียกความฟิตกลับมาได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว นอกจากนี้ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กองหลังโปรตุกีส ก็จะพ้นโทษแบนกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ทีมยังไม่มี จอห์น เทอร์รี่ และ อังเดร เชฟเชนโก้ 2 ดาวเตะที่กระดูกเท้าแตก และ เจ็บหลัง ตามลำดับ เช่นเดียวกับ มิชาเอล เอสเซียง, ซาโลมง กาลู และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ยังคงติดภารกิจใน แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แต่ จอห์น โอบี มิเกล มิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย เดินทางกลับมาร่วมทัพแล้ว และน่าจะพร้อมลงสนามช่วยทีมในวันนี้
ลิเวอร์พูล
เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน จะชวดลงสนามเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน
ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ ทีม "หงส์แดง" มีปัญหาในเกมรุกไม่น้อย เมื่อจะไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายจากเกมรับใช้ทีมชาติอุ่นเครื่องเอาชนะฝรั่งเศส 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้แดนหน้าอาจเปิดโอกาสให้ เดิร์ค เค้าท์ ดาวยิงชาวดัตช์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ ปีเตอร์ เคร้าซ์ หอกหุ่นเสาโทรเลข
แต่ทีมยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ไรอัน บาเบิล ปีกชาวฮอลแลนด์ ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้ามาจากเกมรับใช้ทีมชาติอุ่นเครื่องถล่มเอาชนะ โครเอเชีย 3-0 ขณะที่ นักเตะที่อยู่ก่อนแล้ว อย่าง แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, อังเดร โวโรนิน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, อัลวาโร่ อาร์เบลัว ยังคงชวดเช่นเดิม เช่นเดียวกับ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางชาวสแปนิช จะติดโทษแบนในเกมนี้
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เชลซี (4-1-4-1)
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : ชูเลียโน่ เบลเลตติ - อเล็กซ์ - ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ - แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : โคล้ด มาเกเลเล่ - ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ - โจ โคล - มิชาเอล บัลลัค - ฟลอร็องต์ มาลูด้า
กองหน้า : นิโกล่าส์ อเนลก้าลิเวอร์พูล (4-4-2) :
ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า
กองหลัง : เจมี่ คาร์ราเกอร์ - มาร์ติน สเตอร์เทล - ซามี่ ฮูเปีย - สตีฟ ฟินแนน
กองกลาง : เจอร์เมน เพนแนนท์ - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด - ลูคัส เลวา
กองหน้า : เดิร์ค เค้าท์ - ปีเตอร์ เคร้าซ์
จับยามสามตา :เป็นเกม "บิ๊กแมตช์" อีกเกมที่น่าสนใจอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้ โดย "สิงห์บูลส์" ทำผลงานโดยรวมในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ดีกว่า "หงส์แดง" อย่างเห็นได้ชัด และยิ่งการที่ ลิเวอร์พูลจะไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส ถือเป็นความเสียหายร้ายแรงต่อทีมแน่นอน เนื่องจาก ทางฝั่งเจ้าถิ่น จะได้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กลับมา ส่วนผู้เล่นแกนหลักในเกมรุกก็ยังอยู่กันพร้อมหน้าทั้ง นิโกล่าส์ อเนลก้า, มิชาเอล บัลลัค, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า แถมความลงตัวในทีมก็มีมากกว่า ผิดกับ ลิเวอร์พูล ที่ไร้ตัวหลักหลายราย และยังต้องบุกมาเล่นแบบแบกความกดดันจากผลงานไม่ดีในช่วงที่ผ่านมามาด้วย ซึ่งน่าจะส่งผลต่อความไหลลื่นของเกมพวกเขาแน่ ทำให้อันตรายเหลือเกินสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะสุ่มเสี่ยงต่อความฟ่ายแพ้เป็นอย่างยิ่ง
สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
10 / 02 / 2008 12:42