ทีเด็ด คาร์ลิ่ง คัพ : สเปอร์ส -vs- เชลซี

สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก, 11) -vs- เชลซี (พรีเมียร์ลีก, 3)

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
เวลาเตะ : 22.00 น.
สภาพอากาศ : แจ่มใส
อุณหภูมิเฉลี่ย : 7 องศาเซลเซียส
ราคา : เชลซี ต่อ ครึ่งลูกลบห้า

สถิติในลีกล่าสุด

สถิติการพบกัน 10 เกมหลังสุด ของทั้งสองทีม

12-01-08 เชลซี ชนะ สเปอร์ส 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
07-04-07 เชลซี ชนะ สเปอร์ส 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
19-03-07 สเปอร์ส แพ้ เชลซี 1-2 (เอฟเอ คัพ)
11-03-07 เชลซี เสมอ สเปอร์ส 3-3 (เอฟเอ คัพ)
06-11-06 สเปอร์ส ชนะ เชลซี 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
11-03-06 เชลซี ชนะ สเปอร์ส 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
27-08-05 สเปอร์ส แพ้ เชลซี 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
15-01-05 สเปอร์ส แพ้ เชลซี 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
19-09-04 เชลซี เสมอ สเปอร์ส 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
03-04-04 สเปอร์ส แพ้ เชลซี 0-1 (พรีเมียร์ลีก)

พบกันทั้งหมดในลีก : สเปอร์ส ชนะ 41 เชลซี ชนะ 51 เสมอ 27
พบกันทั้งหมดในเอฟเอ คัพ : สเปอร์ส ชนะ 4 เชลซี ชนะ 4 เสมอ 2
พบกันทั้งหมดในลีก คัพ : สเปอร์ส ชนะ 1 เชลซี ชนะ 3 เสมอ 1

ผลงานในรอบที่ผ่านมา

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รอบสาม ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ (พรีเมียร์) 2-0 (เหย้า) รอบสี่ ชนะ แบล็คเบิร์น (แชมเปี้ยนชิพ) 2-0 (เหย้า) รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ แมนฯซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 2-0 (เยือน) รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เสมอ อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก) 1-1 (เยือน) รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ชนะ อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก) 5-1 (เหย้า) (รวมผล 2 นัด : สเปอร์ส ชนะ 6-2 )

 

เชลซี รอบสาม ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ) 4-0 (เยือน) รอบสี่ ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ (แชมเปี้ยนชิพ) 4-3 (เหย้า) รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) 2-0 (เหย้า) รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ชนะ เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก) 2-1 (เหย้า) รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก) 1-0 (เยือน) (รวมผล 2 นัด : เชลซี ชนะ 3-1)

 

ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุด

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

21-02-08 เสมอ สลาเวีย ปราก 1-1 (เหย้า) (ยูฟ่า คัพ)
14-02-08 ชนะ สลาเวีย ปราก 2-1 (เยือน)  (ยูฟ่า คัพ)
09-02-08 ชนะ ดาร์บี้ 3-0 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
02-02-08 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)
30-01-08 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)

เชลซี

19-02-08 เสมอ โอลิมเปียกอส 0-0 (เยือน) (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
16-02-08 ชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ 3-1 (เหย้า) (เอฟเอ คัพ)
10-02-08 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)
02-02-08 เสมอ พอร์ทสมัธ 1-1 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
30-01-08 ชนะ เร้ดดิ้ง 1-0 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ร็อบบี้ คีน (บน) กับ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ (ล่าง) ยังพร้อมลงกะซวกตาข่ายให้ทีม "ไก่เดือยทอง"

       ฆวนเด้ รามอส กุนซือ "ไก่เดือยทอง" พกดีกรีเจ้าพ่อบอลถ้วยลงสัมผัสเกมที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรก ด้วยสภาพทีมที่สมบูรณ์พอตัว เพราะ เล็ดลี่ย์ คิง กัปตันทีม เตรียมพร้อมร่างกายเต็มที่เพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ แม้จะมีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวนเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็สามารถลงซ้อมได้อย่างไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับ ปาสกาล ชิมบงด้า กองหลังชาวน้ำหอม ที่มีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อย พร้อมลงช่วยทีมเช่นกัน

       นอกจากนี้ ยังจะได้ อลัน ฮัตตัน แบ็กขวาตัวใหมที่ติดคัพ-ไท ในเกมยุโรป เมื่อกลางสัปดาห์ กลับมาเสริมทีมอีกราย แต่ทว่ายังต้องรอเช็กความฟิตของ ไมเคิ่ล ดอว์สัน กองหลัง และ เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่มีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวนทั้งคู่ ขณะที่ ในรายของ จิลแบร์โต้, แกเร็ธ เบล และ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตตโต้ ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ก่อนแล้ว ยังคงชวดเหมือนเดิม

เชลซี

จอห์น เทอร์รี่ (ซ้าย) กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด (ขวา) 2 สตาร์ดังทีม "สิงห์บูลส์" ยังลุ้นว่าจะได้ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกมหรือไม่

        อัฟราม แกรนท์ กุนซือ เชลซี ไม่มีปัญหาในการจัดทัพสำหรับเกมนี้ เมื่อบรรดาแกนหลักต่างฟิตพร้อมให้เลือกใช้งานทั้งหมด โดยจะขาดแต่เพียง อังเดร เชฟเชนโก้ ดาวยิงยูเครน ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์อยู่รายเดียว อย่างไรก็ตาม ทีมกลับมีปัญหาในการเลือกใช้งานตัวผู้เล่นสำหรับเกมนี้ ไม่น้อย

        โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมยังตัดสินใจว่า จะส่งทั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์จอมทัพ กับ จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีม ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา ลงเป็นตัวจริงหรือไม่ ภายหลัง 2 สตาร์ดังของทีม เป็นได้แค่ตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปยันเสมอ โอลิมเปียกอส 0-0 เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากขุมกำลังที่มีอยู่กำลังทำผลงานได้ดีและไม่มีที่ว่างเท่าไหร่นัก แต่ทว่า ดาวเตะแกนหลักอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โจ โคล, มิชาเอล เอสเซียง และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ยังน่าจะยึดตำแหน่งตัวจริง ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกมเช่นเคย

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (4-4-2)

ผู้รักษาประตู : ราเด็ค เชนี่
กองหลัง : อลัน ฮัตตัน - เล็ดลี่ย์ คิง - โจนาธาน วู้ดเกต - ปาสกาล ชิมบงด้า
กองกลาง : อารอน เลนน่อน - เจอร์เมน จีนาส - ดิดิเย่ร์ โซโกร่า - สตีด มัลบร็องก์
กองหน้า : ร็อบบี้ คีน - ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ

เชลซี (4-3-2-1)

ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง :  เปาโล แฟร์เรยร่า - จอห์น เทอร์รี่ - ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ - เวย์น บริดจ์
กองกลาง : มิชาเอล บัลลัค - มิชาเอล เอสเซียง - แฟร้งค์ แลมพาร์ด
กองหน้า : ฌอน-ไรท์-ฟิลิปส์ - โจ โคล - ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา  

---

จับยามสามตา :

       หากเทียบสภาพทีม และ ขุมกำลัง ก็ต้องยกให้ทางฝั่ง เชลซี ที่มีภาษีเหนือกว่า แต่ทว่า ปัญหาในการจัดทัพของทีม "สิงห์บูลส์ " ก็อาจสร้างความกดดันให้กับ อัฟราม แกรนท์ ไม่น้อยเช่นกัน เพราะหากจัดทัพผิดก็มีสิทธิ์คิดจนตัวตายได้เลยทีเดียว ขณะที่ สเปอร์ส มีผู้เล่นให้เลือกสรรใช้แต่พองาม จึงทำให้โครงสร้างและระบบของทีมยังคงเป็นผู้เล่นชุดเดิมๆ ที่ทำผลงานได้ดีร่วมกันมาหลายต่อหลายเกม

       หากเทียบศักยภาพเกมรับ เชลซี ยังดูแข็งแกร่งกว่า แต่ ในส่วนของเกมรุก ต้องยกให้ คู่หัวหอกของสเปอร์ส อย่าง ร็อบบี้ คีน กับ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ มีทีเด็ด และจัดจ้านกว่าของ เชลซี ส่วน แดนกลาง ถือว่ายังค่อนข้างสูสี จึงทำให้ รูปเกมในวันนี้ น่าจะออกมาสู้กันได้อย่างไม่เป็นรอง

       ดูแล้ว เป็นธรรมดาของเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่ผลมักจะออกได้สามหน้า อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อลึกๆว่า ผู้ที่จะสามารถไปถึงชนะของเกมนี้ได้ น่าจะต้องไม่เพียงแต่มีศักยภาพ, ฟอร์มการเล่น และ สภาพจิตใจของทีมที่พร้อมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังต้องมีประสบการณ์ในลงเล่นเกมระดับใหญ่ๆ ที่โชกโชนมาแล้วด้วย และก็เป็นทีม เชลซี ที่ดูจะมีในจุดนี้ มากกว่า สเปอร์ส.......ต่อ เชลซี

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส แพ้ เชลซี 1-2