ปรีวิวภาพรวมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 35
โอกาสป้องกันแชมป์ของ แมนฯยูไนเต็ด จะเปิดกว้าง หากมีแต้มกลับออกมาจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในสุดสัปดาห์นี้
ใกล้ได้บทสรุปเข้าไปทุกทีสำหรับศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2007-08 หลังจากที่การแข่งขันดำเนินมาถึงเกมที่ 36 โดยไฮไลท์ประจำสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่ง "สิงห์บลูส์" จะเปิดบ้านเล่นเกมแห่งซีซั่นเพื่อวัดชะตาแชมป์กับทีมจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การตัดสินแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีจะได้บทสรุปอย่างไม่เป็นทางการทันทีในวันเสาร์นี้ หากพลพรรค "ปีศาจแดง" ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีศักยภาพเพียงพอบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ เชลซี ที่ไม่แพ้เกมลีกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ มาแล้วกว่า 4 ปี
นอกเหนือจากการชิงชัยในเกมลีกแล้ว ถึงตอนนี้ทั้งสองทีมยังมีโอกาสที่จะเผชิญหน้ากันอีกในแมตช์ "ดรีม ไฟนั่ล" ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงมอสโก เพราะสถานการณ์หลังจากเลกแรก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ทั้งคู่ โดย เชลซี บุกเจ๊า ลิเวอร์พูล 1-1 และ แมนฯยู เพิ่งยื้อผลเสมอแบบไร้สกอร์จาก บาร์ซ่า ที่ คัมป์ นู เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
กลับมาว่ากันถึงเรื่องบอลลีกต่อ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ถือว่าโอกาสที่จะ แมนฯยู จะป้องกันแชมป์เป็นสมัย 2 และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีภายใต้ชื่อ "พรีเมียร์ลีก" เป็นสมัยที่ 10 ค่อนข้างเปิดกว้าง เพราะปัจจุบัน ยูไนเต็ด มี 81 แต้ม จากการลงเล่น 35 นำหน้า เชลซี อยู่ 3 แต้ม พร้อมกับประตูได้-เสีย ที่เหนือกว่าทีมของ อัฟราม แกรนท์ อยู่ที่ +18
อย่างไรก็ดีการจะบุกมาเอาชนะ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นถือเป็นเรื่องสุดหิน เพราะ "สิงห์บลูส์" ไม่เพลี่ยงพล้ำคู่แข่งในเกมลีกมากว่า 80 เกม นับตั้งแต่ถูก อาร์เซน่อล บุกสอย 2-1 ในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2004
มองมุมกลับกันหาก ยูไนเต็ด ต้องกลับออกมาจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยความพ่ายแพ้ ทีมของ เซอร์ เฟอร์กี้ ก็ยังจะรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปด้วยผลบุญจากประตูได้-เสีย เพราะตอนนี้ "ผีแดง" มีผลต่างบวกอยู่ 54 ขณะที่ เชลซี บวกอยู่ 36 แต่หลังจากนั้นไปในอีก 2 นัดที่เหลือ แมนฯยู จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว โดยหลังจากจบเกมที่ ลอนดอน ขุนพล "เร้ด เดวิล" มีคิวเปิดบ้านหวดกับ เวสต์แฮมและบุกไปเยือน วีแกน ในเกมส่งท้าย ส่วน เชลซี เหลือเกมบุก เซนต์ เจมส์ ปาร์คของ นิวคาสเซิ่ล กับลงเล่นในบ้านพบกับทีมโซนหนีตาย โบลตัน วันเดอเรอร์ส
ข้ามมาดูสถานการณ์ของทีมในกลุ่มหนีตายกันบ้าง ถึงตอนนี้ทีมที่ยังล่อแหลมต่อการตกชั้นก็มี โบลตัน, เร้ดดิ้ง, เบอร์มิงแฮมและ ฟูแล่ม ส่วน ดาร์บี้ ของกุนซือ พอล จีเวลล์ จองสิทธิ์ในการเล่นแชมเปี้ยนชิพไปล่วงหน้าแล้ว
สำหรับ โบลตัน ปัจจุบันรั้งอันดับ 16 มี 32 แต่สุดสัปดาห์นี้บอกได้เลยว่าเด็ก ๆ ของ แกรี่ เม็กสัน ต้องเจองานสุดหินเมื่อต้องยกพลบุกไปเยือน ไวท์ ฮาร์ท เลน ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แม้ตอนนี้ขุนพล "ไก่เดือยทอง" จะไม่เหลือลุ้นอะไรแล้วก็ตาม
ขณะที่ เร้ดดิ้ง ทีมอันดับ 17 ของตารางที่มีแต้มเท่ากับ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" แต่เป็นรองตรงประตูได้-เสีย จะบุกไปเยือน วีแกน ที่ถีบตัวพ้นโซนตกชั้นสำเร็จจากผลเสมอกับ สเปอร์ส เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วน เบอร์มิงแฮม ที่เสียท่า แอสตัน วิลล่า แบบหมดรูป 1-5 ในเกมดาร์บี้แมตช์ย่านมิดแลนด์ จะเปิดรัง เซนต์ แอนดรูว์ ปะทะ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการเพียงแค่ผลเสมอเพื่อการันตีสิทธิ์เข้าร่วมศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า
ทางด้าน ฟูแล่ม ที่มีเพียง 27 แต้ม จาก 35 นัด โอกาสอยู่รอดค่อนข้างริบหรี่ แถมเกมนี้ต้องออกไปเยือนทีมแกร่งในรังอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังมีลุ้นโควต้าลุยศึก ยูฟ่า คัพ ภายหลังชัยชนะเหนือ ปอร์ทสมัธ 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ส่วนเกมในวันอาทิตย์ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 5 ของตาราง จะลงดวลแข้งกับ แอสตัน
วิลล่า ที่อยู่อันดับติดกันและ ปอร์ทสมัธ หนึ่งในทีมที่ผ่านเข้าไปชิงดำในศึก เอฟเอ คัพ ปีนี้จะพบกับ แบล็คเบิร์น
โรเวอร์ส ส่วน ดาร์บี้ ที่ชนะคู่แข่งเกมเดียวในฤดูกาลนี้ จะเปิด ไพรด์ ปาร์ค รับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ในเกมมันเดย์ไนท์......
