อลัน แฮนเซ่น & มาร์ค ลอว์เรนสัน เจาะลึกคู่เซนเตอร์ "ผี" vs "สิงห์"
ว่ากันตามปกติแล้วภายหลังการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้คู่ชิงชนะเลิศในปีนี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักมุ่งความสนใจไปกับเหล่าผู้เล่นแนวรุกดีกรีซูเปอร์สตาร์ของทั้งสองฝั่งทั้ง เชลซีและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรดาช่างภาพต่างรุมชักภาพนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
กลับกันจะมีสักกี่คนที่มองว่าอีกตัวแปรสำคัญต่อการลุ้นตำแหน่งจ้าวยุโรปที่ ลุซห์นิกี้ สเตเดี้ยม ในค่ำคืนนี้ จุดเริ่มต้นที่จำเป็นอย่างยิ่งคือการจัดระเบียบแนวรับให้รัดกุมจากแผงหลังที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย ซึ่งดูแล้วการประสานงานระหว่างคู่ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์และ
เนมานย่า วิดิช ของทาง แมนฯยูไนเต็ด รวมถึงคู่ของ จอห์น เทอร์รี่และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ของฝั่ง เชลซี จะกลายเป็นกุญแจสำคัญต่อผลการแข่งขันที่ มอสโก อย่างไม่ต้องสงสัย
วันนี้ทีมงาน "ล้มโต๊ะ" จึงภูมิใจนำเสนอบทความของ อลัน แฮนเซ่นและ มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตคู่หูยอดเซนเตอร์แบ็กของ
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในยุครุ่งเรืองช่วงทศวรรษที่ 80 ที่ปัจจุบันผันตัวมารับหน้าที่ ผู้สันทัดกรณีลูกหนังของสำนักข่าว BBC ซึ่งในวันนี้ทั้งคู่จะมาวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟของทั้งสองทีมมาให้ได้ทราบกัน
แฮนเซ่น วิจารณ์ คู่ของ วิดิช & เฟอร์ดินานด์
ข้อมูล เฟอร์ดินานด์ & วิดิช
ค่าตัวรวมกัน : 37 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,590 ล้านบาท)
เล่นร่วมกัน (ฤดูกาล 2007-08) : 41 เกม
เสียประตู (ฤดูกาล 2007-08) : 21 ประตู
ค่าเฉลี่ยการเสียประตู/เกม (ฤดูกาล 2007-08) : 0.51 ประตู/เกม
เล่นร่วมกัน (ทั้งหมด) : 55 เกม
เสียประตู (ทั้งหมด) : 31 ประตู
ค่าเฉลี่ยการเสียประตู/เกม (ทั้งหมด) : 0.56 ประตู/เกม
กล่าวได้ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช เป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของศึกพรีเมียร์ชิพในฤดูกาลนี้ จากสถิติการเสียประตูเพียง 22 ประตูจากการลงเล่นเกมลีก 38 นัด
จากตัวเลขสถิติเป็นเครื่องยืนยันถึงความยอดเยี่ยมของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี เพราะ เฟอร์ดินานด์กับ วิดิช มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมป้องแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จ โดยแนวรับของ แมนฯยูไนเต็ด มีค่าเฉลี่ยการเสียประตูนัดละไม่ถึงลูก ทั้ง ๆ ที่เป็นบอลเน้นเกมรุกด้วยการใช้
ฟูลแบ็กทั้งสองข้างเติมเกม
แฮนเซ่น ระบุว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาคิดว่าฤดูกาลนี้เป็นปีที่ เฟอร์ดินานด์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบไม่น่าเชื่อและหากเทียบฟอร์มแล้ว อดีตสตาร์ เวสต์แฮม น่าจะเป็นผู้เล่นที่มีมาตรฐานการเล่นดีที่สุดของ ยูไนเต็ด ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของฤดูกาล 2007-08
นับตั้งแต่ย้ายจาก เวสต์แฮม มาเล่นให้กับ แมนฯยูไนเต็ด เห็นได้ชัดว่า เฟอร์ดินานด์ มีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ทั้งรูปแบบการเข้าปะทะ รวมไปถึงการอ่านเกมที่เฉียบขาด ทว่าจุดอ่อนของเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษคือสมาธิที่ไม่ค่อยมั่นคง ซึ่งหาก "เฟอร์ดี้" แก้ปัญตรงจุดนี้ได้ เชื่อว่าเขาจะมีผลงานอันยอดเยี่ยมในเกมปะทะ เชลซี อย่างแน่นอน
เฟอร์ดินานด์และ วิดิช เล่นกันเข้าขาอย่างลงตัว เพราะ เฟอร์ดินานด์ มีความนิ่งและเล่นบอลภาคพื้นได้ดี ขณะที่ วิดิช ดูจะโดดเด่นกว่าในลูกกลางอากาศ แต่ที่สำคัญคือทั้งคู่เล่นกันอย่างเข้าใจ สามารถคุมพื้นที่ได้ดีจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันเลย
อย่างไรก็ตามคืนนี้ทั้งคู่ต้องเผชิญงานสุดหิน เพราะงานของพวกเขาคือการจับตาย ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เพชฌฆาตไอวอรี่โคสต์ของ เชลซี ซึ่งจากผลงานในรอบที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่า ดร็อกบา เป็นดาวยิงที่มีคุณสมบัติครบเครื่องและมักสร้างความลำบากให้บรรดาแนวรับของคู่แข่งเสมอ แต่ผมเชื่อว่าจนแล้วจนรอดเกมนี้ เฟอร์ดินานด์ กับ วิดิช มีศักยภาพดีพอจะจัดการกับ ดร็อกบา ได้
ลอว์เรนสัน วิจารณ์คู่ของ คาร์วัลโญ่ & เทอร์รี่
ข้อมูล เทอร์รี่ & คาร์วัลโญ่
ค่าตัวรวมกัน : 19.85 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,389.5 ล้านบาท)
เล่นร่วมกัน (ฤดูกาล 2007-08) : 18 เกม
เสียประตู (ฤดูกาล 2007-08) : 16 ประตู
ค่าเฉลี่ยการเสียประตู/เกม (ฤดูกาล 2007-08) : 0.88 ประตู/เกม
เล่นร่วมกัน (ทั้งหมด) : 60 เกม
เสียประตู (ทั้งหมด) : 42 ประตู
ค่าเฉลี่ยการเสียประตู/เกม (ทั้งหมด) : 0.7 ประตู/เกม
การจับคู่ระหว่าง จอห์น เทอร์รี่และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ นับเป็นการผสมผสานที่ลงตัว เพราะทั้งคู่มีทัศนคติในการเล่นบอลคล้ายคลึงกันคือเน้นความหนักหน่วงและดุดัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่บรรดาผู้เล่นแนวรับพึงมี
จุดเด่นของ คาร์วัลโญ่ คือ ความเร็วและเมื่อถูกนำมาเชื่อมต่อเข้ากับสไตล์การเล่นที่เน้นความพละกำลังของ เทอร์รี่ ทำให้การเล่นของเขามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา
ข้อเสียเปรียบของคู่นี้เมื่อเทียบกับคู่ของ เฟอร์ดินานด์ & วิดิช ก็คือระยะเวลาที่ได้เล่นร่วมกัน เพราะสลับกันถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายของ เทอร์รี่ ที่นอกจากจะมีปัญหาบริเวณแผ่นหลังแล้ว ระยะหลังเขายังถูกอาการบาดเจ็บที่ขาตามรุมเร้าอีกด้วย
ด้วยความสัตย์จริงผมคิดว่า อัฟราม แกรนท์ เสี่ยงมาก หากจะส่ง เทอร์รี่ ลงเล่นเกมนัดนี้ หลังจากที่เขาเพิ่งหายจากการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่มาได้เพียง 10 วันเท่านั้น ที่กล่าวเช่นนี้เพราะผมเคยได้รับบาดเจ็บบริเวณเดียวกันในช่วง 3 สัปดาห์ ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะลงเล่นรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ กับ ยูเวนตุส ในปี 1985
ในครั้งนั้นการฝึกซ้อมช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายของผมราบรื่นไปด้วยดีโดยปราศจากอาการแทรกซ้อน จนกระทั่งถึงวันจริง หลังจากเกมเริ่มไปได้เพียง 80 วินาที ผมล้มลงจากการเข้าปะทะ ผลก็คือผมทนเล่นต่อไม่ไหวและถูกเปลี่ยนตัวออกทันที ที่เป็นเช่นนั้นเพราะคุณต้องใช้แขนในการกระโดดและการล้มกระแทกพื้นนั้นส่งผลกับอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่โดยตรง
ความน่าสนใจในเกมนี้ก็คือ ถ้า แกรนท์ ส่ง เทอร์รี่ ลงเล่น เขาจะทำหน้าที่ได้จนจบเกมหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าสองตัวหลักทั้ง
เทอร์รี่และ ดร็อกบา ผ่านความฟิต ผมเชื่อว่า เชลซี จะต่อกรกับ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสี แต่ในลึก ๆ แล้ว ผมรู้สึกว่าความไม่สมบูรณ์ของ เทอร์รี่ คือเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับ เชลซี เพราะนั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเกมที่ มอสโก ก็ได้
21 / 05 / 2008 18:44