สวัสดีท่านสมาชิกทุกท่าน...พบกับมุมมองบอลยุโรปในความเห็น....หลายๆท่านคงจะล้วงลึกข้อมูลกันเต็มที่สำหรับข้อมูลบอลคู่นี้ผมจะไม่กล่าวถึงความพร้อมหากแต่จะกล่าวถึงความน่าจะเป็นของเกมและนักเตะที่จะลงแข่งขันในบอลคู่นี้...และอ่านทาง...
***แมนฯ ยูไนเต็ด พบ เชลซี แมนยูต่อ 0/0.5***
วิเคราะห์...ขอพูดถึงแฮนดิแคปสักนิด บอลคู่นี้มีการตั้งราคาก่อนที่จะมีการแข่งขันค่อนข้างที่จะไหลขึ้น-ลงพอสมควร ระหว่าง เสมอและบวกสิบแมนยู จนถึงปัจจุบันผมเปิดสปอร์ตพูลเล่มเดียวที่มองเห็นว่าเป็นคู่ชีพพอสมควร เห็นว่า.
..ขอวิเคราะห์ตรงที่ราคา 0/0.5 หากในเวปคงจะมีแฮนดิแคปให้เราเลือก ก็ลองพิจารณากันดู ส่วนตัวผมมองว่าจากทิศทางไม่ว่าจะเป็นแฮนดิแคปเสมอหรือบวกสิบและเสมอควบครึ่ง ก็ยังที่จะยืนยันไปยังทิศทางของแมนยูเหนือกว่า เหนือกว่าการตั้งจ่ายที่มีการจ่ายน้อยกว่าและต้องเก่งจริงสำหรับแฮนดิแคป 0/0.5 -5 ฉะนั้นในเมื่อทิศทางของราคาส่วนตัวๆๆย้ำว่าส่วนตัว มองเห็นว่าเหนือกว่า ฉะนั้นขอเข้าสู่เกม...แมนยู เปิดเกมมาที่ระบบ 4-2-3-1 ขอแปลความหมายของ ระบบ 4-2-3-1 เฟอร์กูสันมองเห็นเกมที่จะเกิดขึ้นพอสมควรสำหรับเกมนัดนี้นั้นคือการเซฟพาร์สำหรับเกมคือเหนียวแน่น ระบบ 4-2-3-1 มองดูเหมือนการเปิดเกมรุกหากแต่หลังจากรุกป้องกันการโต้กลับด้วย 4-2 คือเกมรับ 6 ตัวผู้เล่นที่จะ delay เกมของเชลซีไม่ให้เข้ามาถึง ริโอและวิดิซ อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อผันไปมองแนวรุกของเชลซี จะเห็นว่าแกรม จัดหน้า 3 คือ กาลู/โคลและดร็อกบา หรือมาลูด้า เห็นชัดมากตรงที่แกรนท์ต้องการที่จะเปิดแนวรุกที่ความรวดเร็ว และใช้ความเร็วของกาลูและโคลเข้าทำเพื่อเปิดทางให้แถวสองคือบัคลัคและแฟร้งค์ แลมพ์พาร์ต นั้นมุมมองของผมส่วนของกองหลังผมมองว่าเฟอร์กูสัน ค่อนข้างที่จะรัดกุมพอสมควรสำหรับเกมที่ทิ้ง คาร์ริคและพอล สโคลส์ ในการเป็นตัว HOLD เกมเพื่อป้องกันการเข้าทำของ บัคลัคและแลมพ์พาร์ต ผมปิดมุมเสียประตูของเกมวันนี้ของแมนยูที่รัดกุม หากแต่ต้องมองย้อนกลับไปที่เชลซี ที่วางระบบ 4-3-3 ผมมองว่าแน่จริงหรือไม่ๆๆ 4-3-3 แปลเป็นภาษาบอลได้ว่าข้าจะเปิดเกมรุกแลกเพื่อต้องการประตู เช่นเดียวกันเป็นการเสี่ยงต่อการที่จะเสียประตูอย่างยิ่งตรงที่ การใช้มาเกเลเล่ ที่เป็นตัว hold เพียงตัวเดียว ที่ยังคงจะโดดเดี่ยวพอสมควรในเกมรับ แกรนท์ป้องกันแนวรุกของแมนยูโดยใช้ เอสเซียงเพื่อดักทางของโรนัลโด้ ส่วนตัวผมมองว่าแกรนท์มองเกมสั้นพอสมควร แกรนท์มองแค่โรนัลโด้ คือตัวรุกที่อันตรายหากแต่แกรนท์ ลืมไปว่านั้นหมายถึง มาเกเลเล่ ต้องประคองเกมทั้งเกม 90 นาที สำหรับที่จะวิ่งสู้ฟัดกับ สโคลส์/พาร์ค ชีซอง/โรนัลโด้/คาร์ริค และแน่นอนที่สุดแกรนท์เสี่ยงต่อการโดนยิงแถวสองเป้นอย่างยิ่ง เฟอร์กี้วางเกมไว้เพื่อ COVER เกมทั้งหมดในแดนกลาง และช่วงชิงความได้เปรียบมาเป็นเกมของตัวเอง มองดูเกมแดนกลางของเชลซี ดูเหมือนลงตัวหากแต่ยังคงจะขาดที่ผมมองเห็นชัดมากคือ ความสัมพันธ์ภายในเกมที่ดูเหมือนเชลซีจะเป็นรองมากยิ่งขึ้น หลายๆครั้งที่บัคลัคและแลมพ์พาร์ตต้องวิ่งชนกัน หลายๆครั้งแลมพ์พาร์ตและกาลูซับซ้อนทางด้านตำแหน่งการยืนที่บ่อยมากๆตรงที่แลมพ์ชอบที่จะหนีตัวประกอบและถ่างตัวเองออกริมเส้น และหลายๆครั้งที่ดร็อกบาไม่มีส่วน SUPPORT สำหรับเกมและไม่มี PARTNER ที่รู้ใจและเดียวดาย
สรุป...หลังจากที่ผมวิเคราะห์แดนสำคัญของทีม คือแดนกลาง เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่าในปัจจุบันทีมบอลที่จะเหนือกว่าทีมอื่นได้ นอกจากกองหน้าที่คมแล้วแดนกลางถือเป็นหัวใจในการกำหนดเกมและเดินเกมทั้งสิ้นเพื่อช่วงชิงเกม เฟอร์กี้วางเกมเพื่อไม่ต้องการแพ้และหนักไปยังการโต้กลับ ซึ่งแตกต่างกับแกรนท์ที่วางเกมเพื่อที่จะต้องเปิดเกมแลก เพราะองค์ประกอบของแนวหลังค่อนข้างจะน้อยและเชื่องช้า ใครมองว่าระบบไม่เกี่ยวต่อการแข่งขันส่วนตัวระบบคือตัวกำหนดทิศทางของเกมว่าควรจะวางฝั่งใด ยิ่งเมื่อมองถึง เฟอร์กี้และแกรนท์ ประสบการณ์บวกกับการมองเกมและการ applyยิ่งมองเห็นว่าแกรนท์เป็นรองอย่างมาก ผิดไม่ด่ากันนะ แค่ความเห็น...ต่อแมนยูๆๆ
แค่ความเห็น...ไม่ใช่ทั้งหมดของเกม 90 นาที....สะตอเมืองตรัง...POOSARA
21 / 05 / 2008 17:52