ความน่าจะเป็นของศึกฟุตบอล "ยูโร 2008" กลุ่ม บี
เยอรมัน : โครเอเชีย : ออสเตรีย : โปแลนด์
ทีมชาติเยอรมัน : อัตราคว้าแชมป์กลุ่ม 1 จ่าย 1.65 : อัตราคว้าแชมป์ยูโร : 1 จ่าย 5.12
การกลับมาของบรรดาคีย์แมนของ "อินทรีเหล็ก"
เยอรมัน ถูกยกให้ทีมเต็งประจำกลุ่ม บี โดยบริษัทรับพนันเมืองนอกเปิดเรตการคว้าแชมป์กลุ่มของพวกเขาเพียง 1 จ่าย 1.65 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำสุดของอัตราการคว้าแชมป์กลุ่มในรอบแรกของศึกยูโรหนนี้ เนื่องจากพวกเขาตกอยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก
นอกจากนั้นพลพรรค "อินทรีเหล็ก" ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกของศึก เวิลด์ คัพ 2006 จวบจนถึงการเล่นรอบคัดเลือกรายการนี้ โดยจุดแข็งของแข้งเมืองเบียร์ชุดนี้คือแผงกองกลางที่ครบเครื่องและแนวรุกที่เฉียบคมเพราะ เยอรมัน เป็นทีมที่สอยตาข่ายคู่แข่งได้มากที่สุดในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา
ข่าวดีของเทรนเนอร์ โยอาคิม เลิฟ คือการได้บรรดาผู้เล่นคีย์แมนกลับมาฟิตพร้อมลงช่วยทีมในแมตช์เปิดสนามกับ โปแลนด์ ที่ คลาเกนเฟิร์ต ไม่ว่าจะเป็น มิชาเอล บัลลัค, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, ลูคัส โพดอลสกี้และ คริสโตฟห์ เม็ตเซลเดอร์ ซึ่งการคัมแบ็กของผู้เล่นเหล่านี้นอกจากจะช่วยยกระดับมาตรฐานการเล่นของทีมแล้ว ยังส่งผลด้านบวกต่อกำลังใจของเพื่อนร่วมทีมด้วย
แม้การอุ่นเครื่องที่ผ่านมา (ชนะ ยูเครน 3-0, เสมอ เบลารุส 2-2 และ ชนะ เซอร์เบีย 2-1) อาจไม่ใช่ผลงานที่สุดหรู แต่กระนั้นกองเชียร์ "อินทรีเหล็ก" ยังพออุ่นใจได้ เพราะอย่างน้อยทีมรักของพวกเขายังคงลงสนามด้วยความมุ่งมั่นและเล่นได้อย่างดุดัน
ถึงแนวรับของ เยอรมัน จะยังดูไม่ค่อยลงตัว แต่เทียบกับมาตรฐานของทีมร่วมกลุ่มแล้ว ทีมของ เลิฟ ยังเหนือกว่าทั้งศักยภาพและประสบการณ์ ดูแล้วการผ่านรอบแรกคงไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งหากตัวจอมทัพอย่าง บัลลัค ยังคงความยอดเยี่ยมเหมือนดั่งที่เล่นให้กับ เชลซี ในช่วงปลายซีซั่นล่ะก็ ความสำเร็จในศึก "ยูโร 2008" คงไม่ใช่สิ่งเกินความฝันของแฟนบอลเยอรมันอย่างแน่นอน
ทีมชาติออสเตรีย : อัตราคว้าแชมป์กลุ่ม 1 จ่าย 14.63 : อัตราคว้าแชมป์ยูโร : 1 จ่าย 131
เป้าหมายสูงสุดคือหลีกเลี่ยงการตกรอบแรก
โจเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ เทรนเนอร์ทีมชาติออสเตรีย จะต้องเผชิญงานหนักที่สุดในเส้นทางอาชีพเมื่อต้องพาทีมลงทำศึก
"ยูโร 2008" ในฐานะเจ้าภาพ โดยเป้าหมายสูงสุดของขุนพลลูกหนังแห่งลุ่มน้ำดานู้บไม่ใช่การคว้าแชมป์หรือเข้ารอบลึก ๆ แต่เป็นการเล่นให้สมศักดิ์ศรีมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการตกรอบแรกแบบน่าขายหน้า
สิ่งที่ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ จำเป็นต้องทำคือรีดศักยภาพของขุมกำลังที่มีอยู่ออกมาให้ได้มากที่สุด เพราะวัดกันตามหน้าเสื่อแล้วระดับฝีเท้าของ ออสเตรีย ยังดูเป็นรองคู่แข่งร่วมกลุ่มทั้ง 3 ชาติ ทว่ามองในแง่ดีพวกเขากุมความได้เปรียบเหนือทีมอื่นตรงที่ได้เล่นภายใต้สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและมีผู้เล่นหมายเลข 12 คอยให้การสนับสนุนก็คือกองเชียร์นั่นเอง
ถึงตอนนี้เชื่อว่า ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ รู้ดีว่าเขาจำเป็นต้องทำอะไร หากหวังพาทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด เพราะเทรนเนอร์มากประสบการณ์รายนี้เคยผ่านศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกมาแล้วทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม แต่ปัญหาก็คือลูกทีมของเขานั้นขาดประสบการณ์ในเกมระดับนี้ เพราะไม่เคยสัมผัสบรรยากาศการเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ เลย แถมมีโอกาสทดลองทีมน้อยกว่าคู่แข่ง เนื่องจากได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบอัตโนมัติในฐานะเจ้าบ้าน
ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา ออสเตรีย แทบไม่ได้จัดคิวอุ่นแข้งกับคู่แข่งเกรด เอ เลย เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเลือกคู่แข่งที่อยู่ระดับเดียวกันหรือทีมที่เป็นรอง เพื่อเน้นการลองแท็คติกและเรียกความมั่นใจของนักเตะมากกว่า อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการทดสอบทีมของ
ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ นั้นยังไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไร เนื่องจาก ออสเตรีย เพิ่งชนะคู่แข่งหนเดียวจากการลงอุ่นเครื่อง 14 นัดที่ผ่านมา
จากผลงานข้างต้นทำให้หลายฝ่ายมองว่า ออสเตรีย คงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากการแจกแต้มให้คู่แข่งร่วมกลุ่มและด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่ส่งผลให้บริษัทรับพนันดีดทีมเจ้าภาพร่วมออกไปเป็นทีมม้านอกสายตา โดยเปิดอัตราเต็งแชมป์ล่อตาล่อใจแฟนบอล ออสเตรีย แพงหูฉี่ถึง 1 จ่าย 131 เลยทีเดียว
กระนั้นก็ดีแม้ตอนนี้ชื่อของนักเตะทีมชาติออสเตรียยังไม่เป็นที่รู้จักของแฟนบอลในยุโรป แต่สิ่งเหล่านี้แหละถือเป็นตัวแปรชั้นดี เพราะสังเวียนแข้ง "ยูโร 2008" นับเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นแต่ละคนได้สร้างชื่อและยกระดับวงการฟุตบอลของประเทศได้ ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยปลอบใจชาวออสเตรียหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้
ทีมชาติโครเอเชีย : อัตราคว้าแชมป์กลุ่ม 1 จ่าย 3.64 : อัตราคว้าแชมป์ยูโร : 1 จ่าย 15.50
โครเอเชีย ม้ามืดจอมเซอร์ไพรส์
ภายหลังจากที่ทีมชาติโครเอเชียปิดฉากรอบคัดเลือกของศึก "ยูโร 2008" ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม อี พร้อมกับเขี่ยทีมขวัญใจมหาชนอย่าง ทีมชาติอังกฤษ ตกรอบ บุคคลที่ได้รับเครดิตไปเต็ม ๆ หนีไม่พ้นกุนซือ สลาเวน บิลิช อดีตกองหลัง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ที่ถูกบรรดาทีมชั้นนำของยุโรปทาบทามไปนั่งแท่นคุมทีมหลังจากสร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบแดง
นอกเหนือจากตัว บิลิช แล้ว บรรดานักเตะภายในทีมก็เริ่มได้รับการจับตามากขึ้น โดยเฉพาะในรายของ ลูก้า โมดริช เพลย์เมคเกอร์วัย 22 ปี ที่ถูก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ชิพ สอยตัวไปร่วมทัพเป็นที่เรียบร้อย ด้วยค่าตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ "ไก่เดือยทอง" ที่ 21.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,505 ล้านบาท) และก่อนหน้านั้น เวดราน คอร์ลูก้า กองหลังดาวรุ่งของทีมได้เดินทางมาแสวงโชคบนเมืองผู้ดีกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้และสามารถแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในช่วงฤดูกาล 2007-08 ที่ผ่านมา
มาตรฐานการเล่นฟุตบอลของทีม "ตราหมากรุก" พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ผลพวงความสำเร็จของนักเตะรุ่นพี่ในศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ ฝรั่งเศส (บิลิช เล่นอยู่ในชุดดังกล่าวด้วย) มาในครั้งนี้ บิลิชและลูกทีมจึงตั้งเป้าพาทีมบ้านเกิดสร้างประวัติศาสตร์ที่ ออสเตรีย & สวิตเซอร์แลนด์ ให้จงได้
อย่างไรก็ตาม โครเอเชีย ต้องเผชิญข่าวร้าย เมื่อทัวร์นาเมนต์นี้จะปราศจากผู้เล่นตัวคีย์แมนอย่าง เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ดาวยิงลูกครึ่งโครแอต-บราซิเลี่ยน ที่โชคร้ายขาหักระหว่างเล่นให้กับต้นสังกัด อาร์เซน่อล แต่กระนั้นด้วยขุมกำลังที่เหลือ ขุนพลลูกหนังธง "ตราหมากรุก" ยังถูกมองว่าน่ากลัวทุกตำแหน่งและ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า บิลิช น่าจะพาทีมตีตั๋วทะยานเข้าสู่รอบสองตาม เยอรมัน ไปได้ สมฉายา "ม้ามืดจอมเซอร์ไพรส์"
ทีมชาติโปแลนด์ : อัตราคว้าแชมป์กลุ่ม 1 จ่าย 9.95 : อัตราคว้าแชมป์ยูโร : 1 จ่าย 64
ขุนพลโปลกับยูโรรอบสุดท้ายหนแรก
ถึงแม้ว่าทีมชาติโปแลนด์จะเคยสัมผัสความสำเร็จในศึกฟุตบอลโลกมาแล้ว เมื่อครั้งคว้าอันดับ 3 ในปี 1982 แต่การเข้าร่วมศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหนนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับชาวโปล เพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโร
ฮีโร่ของพวกเขาในครั้งนี้คือ ยูเซบิอุสซ์ สโมลาเร็ค ศูนย์หน้าจากสโมสร ราซิ่ง ซานตานเดร์ แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ที่ยิง 8 ประตูในรอบคัดเลือก ซึ่งดาวเตะรายนี้เข้าข่ายลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเขาคือบุตรชายของ ล็อดซิเมียร์ซ สโมลาเร็ค ผู้เล่นชุดประวัติศาสตร์ที่สอยอันดับ 3 ใน เวิลด์ คัพ 82 นั่นเอง
จุดแข็งของทีมโปลคือการวางหมากของเทรนเนอร์ ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ที่มีประสบการณ์อันล้นเหลือทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยกุนซือชาวดัตช์ยืนยันชัดว่า โปแลนด์ ไม่รู้สึกกดดันเพราะมาแบบไม่มีอะไรจะเสีย เนื่องจากก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นไม่มีใครมองว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว
หากเทียบศักยภาพกันเกือกต่อเกือกแล้ว โปแลนด์ อาจยังเป็นรอง เยอรมันและ โครเอเชีย แต่เชื่อว่าแมตช์ปะทะ "อินทรีเหล็ก" รวมถึง "เจ้าภาพ" ออสเตรีย นั้น ขุนพลโปลจะมุ่งมั่นเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของทีมบ้านใกล้เรือนเคียงและนี่จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยยกระดับการเล่นของนักเตะในทีมได้ ทว่าท้ายที่สุดพวกเขาคงทำได้แค่จอดป้ายที่รอบแรกเท่านั้น
คำพิพากษาของกลุ่ม บี : เยอรมัน และ โครเอเชีย กอดคอกันเข้ารอบ
เดิมพันที่น่าลงทุน : วาง โครเอเชีย เป็นแชมป์กลุ่ม / ถึงแม้ชื่อชั้นของ โครแอต จะเป็นรอง เยอรมัน แต่ด้วยศักยภาพแล้วชั่วโมงนี้ช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมไม่ห่างกันสักเท่าไร ซึ่งสนนราคาคว้าแชมป์กลุ่มที่ 1 จ่าย 3.64 ถือเป็นเรตที่คุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
02 / 06 / 2008 17:00