ฟุตบอลยูโร 2008 รอบแรก กลุ่มบี นัดสุดท้ายโครเอเชีย (อันดับฟีฟ่า 15) -vs- โปแลนด์ (อันดับฟีฟ่า 28) ....(01.45 น.)
สนาม : เวิร์ทเธอร์เซ่ สตาดิโอน, คลาเกนฟวร์ต, ออสเตรีย
ราคา : โปแลนด์ ต่อ ปป.
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม03/01/06 โครเอเชีย 0-1 โปแลนด์ กระชับมิตร
12/02/03 โครเอเชีย 0-0 โปแลนด์ กระชับมิตร
22/04/98 โครเอเชีย 4-1 โปแลนด์ กระชับมิตร
28/02/96 โครเอเชีย 2-1 โปแลนด์ กระชับมิตร
ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดโครเอเชีย
12/06/08 ชนะ เยอรมนี 2-1 (กลาง) ยูโร 2008
08/06/08 ชนะ ออสเตรีย 1-0 (เยือน) ยูโร 2008
31/05/08 เสมอ ฮังการี 1-1 (เยือน) กระชับมิตร
24/05/08 ชนะ มอลโดวา 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร
26/03/08 เสมอ สก็อตแลนด์ 1-1 (เยือน) กระชับมิตรโปแลนด์
12/06/08 เสมอ ออสเตรีย 1-1 (เยือน) ยูโร 2008
08/06/08 แพ้ เยอรมนี 0-2 (กลาง) ยูโร 2008
31/05/08 เสมอ เดนมาร์ก 1-1 (เหย้า) กระชับมิตร
27/05/08 ชนะ อัลแบเนีย 1-0 (กลาง) กระชับมิตร
26/05/08 เสมอ มาซิโดเนีย 1-1 (เหย้า) กระชับมิตร
ตารางคะแนน กลุ่มบี
ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีมโครเอเชีย
ขุนพล "ตาหมากรุก" ยิ่งถูกจับตามองในฐานะม้ามืดตัวจริงของทัวร์นาเมนท์ หลังจากโชว์ผลงานชนะทั้งออสเตรียเจ้าภาพร่วม และทีมเต็งอย่างเยอรมนี จนได้เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของสายอย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากในเวลานี้มีเพียงเยอรมนีเท่านั้นที่ยังมีลุ้นทำแต้มเทียบเท่า แต่ผลการพบกันนั้นโครเอเชียดีกว่า
เกมนี้เทรนเนอร์หนุ่ม สลาเวน บีลิช จะพักผู้เล่นตัวหลักหลายรายโดยเฉพาะที่มีใบเหลืองคาดโทษติดตัวอยู่ ซึ่งมีด้วยกันถึง 5 คน ได้แก่ โรเบิร์ต โควัช, โจซิป ซิมูนิช, ดาริโอ เซอร์น่า, ลูก้า โมดริช, มลาเดน เพทริช และ อิวิก้า โอลิช ทำให้เป็นโอกาสดีของนักเตะชื่อดังที่เป็นตัวสำรองมาตลอด 2 เกมอย่าง ดาริโอ ซิมิช เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ เอซี มิลาน และ อิวาน คลาสนิช ศูนย์หน้าสังกัด แวร์เดอร์ เบรเมน นอกจากนี้ตัวหลักในแดนกลางอย่าง นิโก้ โควัช และ นิโก้ ครานชาร์ ก็น่าจะได้พักเก็บความฟิตไว้เพื่อลุยเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับทีมชาติตุรกีในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
โปแลนด์
"โปลสก้า" กลายเป็นทีมที่ทำผลงานในรอบสุดท้ายได้น่าผิดหวังที่สุดทีมหนึ่ง เมื่อมีแค่แต้มเดียวจาก 2 นัด และต้องกระเสือกกระสนที่จะเข้ารอบในเกมสุดท้าย ทั้งๆที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมาตลอดในรอบคัดเลือก สำหรับเกมนี้ โปแลนด์ ต้องลุ้นหลายเฮือกทีเดียว ไม่ว่าจะต้องลุ้นให้ตัวเองชนะในเกมนี้ ก็ยังต้องลุ้นให้ออสเตรียเอาชนะเยอรมนีให้ได้ แถมยังต้องเอาชนะด้วยสกอร์ที่มากกว่าที่ออสเตรียชนะอย่างน้อย 2 ประตู เพื่อที่จะให้มีผลต่างประตูได้เสียแซงขึ้นมาอีกด้วย
ลีโอ บีนฮัคเกอร์ กุนซือทีมชาติโปแลนด์ยังคงไม่มีหัวหอกกัปตันทีมอย่าง มาเซียจ ซูรอฟสกี้ ที่มีอาการเจ็บรบกวนจนไม่ได้ลงสนามในนัดล่าสุด นอกจากนี้แล้วขรัวเฒ่าชาวดัตช์ก็อาจตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแนวรุก เนื่องจากยิงได้แค่ประตูเดียวจากสองนัด โดยเฉพาะ ยูเซบิอุสซ์ สโมลาเร็ค ดาวยิงสูงสุดของทีมในรอบคัดเลือกซึ่งโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในรอบสุดท้าย ทำให้ความคาดหวังจะตกอยู่กับ โรเจอร์ เกอร์เรโร่ นักเตะเชื้อสายบราซิเลี่ยนที่ทำประตูแรกในทัวร์นาเมนท์ให้กับทีมได้ในนัดล่าสุด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามโครเอเชีย (4-4-2) : สติเป้ เพลติโกซ่า - เวดราน คอร์ลูก้า, ดาริโอ ซิมิช, ดาริโอ เนเซวิช, ดานิเยล ปรานยิช - อ็อกเยน วูโคเยวิช, นิโคล่า โปกริวัช, เยอร์โก้ เลโก้, อิวาน ราคิติช - นิโคล่า คาลินิช, อิวาน คลาสนิช
โปแลนด์ (4-4-2) : อาร์ตูร์ โบรุค - มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, ยาเซ็ค บัค, มาริอุสซ์ ย็อป, มิซาล เชฟคาลอฟ - ดาริอุสซ์ ดุ๊ดก้า, มาริอุสซ์ เลวานดอฟสกี้, มาเร็ค ซากานอฟสกี้, ยาเซ็ค เคอร์ซิโนเว็ค - โรเจอร์ เกอร์เรโร่, ยูเซบิอุสซ์ สโมลาเร็ค
ผลการแข่งขัน : โครเอเชีย 0-2 โปแลนด์
ผู้เล่นที่น่าจับตามองในเกมนี้โครเอเชีย - อิวาน ราคิติช
เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งสังกัด ชาลเก้ 04 โชว์ฟอร์มได้สวยงามในการพาทีมเอาชนะเยอรมนีจนผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มได้สำเร็จ เป็นกองกลางที่มีพรสวรรค์และวิสัยทัศน์อันเฉียบแหลมในการทำเกม จนก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมใหญ่อย่าง "ราชันสีน้ำเงิน" ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น และถือเป็นความโชคดีของโครเอเชียที่ได้ ราคิติช มาร่วมทีม เนื่องจากเจ้าของฉายา "เดอะ ร็อคเก็ต" เกิดในสวิตเซอร์แลนด์และเคยเล่นทีมชาติชุดยู 21 ให้ทีมแดนนาฬิกามาแล้ว
โปแลนด์ - โรเจอร์ เกอร์เรโร่
นักเตะคนแรกที่ทำประตูให้ทีมชาติโปแลนด์ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เป็นนักเตะชาวบราซิเลี่ยนนามว่า โรเจอร์ เกอร์เรโร่ ซึ่งเพิ่งจะได้สัญชาติโปลิชเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง โดยปีกวัย 26 ปีย้ายมาเล่นในลีกโปแลนด์กับ ลิเกีย วอร์ซอว์ เมื่อปี 2006 และได้รับอนุญาตให้โอนสัญชาติอย่างรวดเร็วเพื่อลุยศึกชิงแชมป์ยุโรปครั้งแรกโดยเฉพาะ ซึ่งเพียงการลงเล่นทีมชาตินัดที่ 4 เขาก็ทำประตูแรกในนามทีมชาติในเกมเสมอกับเจ้าภาพร่วมอย่างออสเตรีย และได้กลายเป็นความหวังสูงสุดในแนวรุกของทีมทันทีในยามที่หัวหอกรายอื่นต่างพากันปืนฝืดพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของทั้งสองทีมโครเอเชีย
-เข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มบีเป็นที่แน่นอนแล้ว และจะพบกับตุรกีซึ่งเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ ที่เวียนนา ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้
-ทำผลงานได้เทียบเท่ากับสถิติที่ดีที่สุดของทีม คือเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เช่นเดียวกับใน ยูโร 1996 ซึ่งในครั้งนั้น สลาเวน บีลิช ก็เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงของทีม
-ไม่แพ้เกมทีมชาติมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว
-หาก ดาริโอ ซิมิช ได้ลงสนาม ก็จะเป็นนักเตะชาวโครแอตคนแรกที่ได้ลงเล่นยูโรรอบสุดท้าย 3 สมัย และยังเป็นการลงเล่นให้ทีมชาติเป็นนัดที่ 99 อีกด้วยโปแลนด์
-การเสมอกับออสเตรีย ทำให้ ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ยังไม่สามารถคุมทีมใดๆให้คว้าชัยชนะในรอบสุดท้ายรายการใหญ่ได้เลย นับตั้งแต่คุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในฟุตบอลโลก 1990, ทีมชาติทรินิแดด แอนด์ โทเบโก ในฟุตบอลโลก 2006 และทีมชาติโปแลนด์ในยูโร 2008 รวม 9 นัดติดต่อกัน
-นอกจาก โรเจอร์ เกอร์เรโร่ จะเป็นักเตะคนแรกที่ทำประตูให้ทีมชาติโปแลนด์ในยูโรรอบสุดท้ายแล้ว เขายังเป็นผู้เล่นเชื้อสายบราซิเลี่ยนรายที่ 3 ที่ทำประตูในรอบสุดท้ายของศึกชิงแชมป์ยุโรปอีกด้วย ถัดจาก เปเป้ และ เดโก้ สองผู้เล่นทีมชาติโปรตุเกสที่ทำประตูได้ในยูโร 2008 เช่นกัน
-มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, มาริอุสซ์ เลวานดอฟสกี้, ยูเซบิอุสซ์ สโมลาเร็ค, ยาเซ็ค เคอร์ซิโนเว็ค และ ยาเซ็ค บัค คือผู้เล่นทีมชาติโปแลนด์ที่มีใบเหลืองคาดโทษติดมาจากสองเกมแรก
16 / 06 / 2008 20:09