ฟุตบอลยูโร 2008 รอบแรก กลุ่มซี นัดสุดท้ายอิตาลี (อันดับฟีฟ่า 3) -vs- ฝรั่งเศส (อันดับฟีฟ่า 7) ....(01.45 น.)
สนาม : เล็ตซิกรุนด์ สตาดิโอน, ซูริค, สวิตเซอร์แลนด์
ราคา : อิตาลี ต่อ บวกสิบ
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม08/09/07 อิตาลี 0-0 ฝรั่งเศส ยูโร 2008 รอบคัดเลือก
06/09/06 ฝรั่งเศส 3-1 อิตาลี ยูโร 2008 รอบคัดเลือก
09/07/06 อิตาลี 1-1 ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2006 (อิตาลีชนะจุดโทษ 5-3)
02/06/00 ฝรั่งเศส 1-1 อิตาลี ยูโร 2000 (ฝรั่งเศสชนะต่อเวลา 2-1)
03/07/98 อิตาลี 0-0 ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 1998 (ฝรั่งเศสชนะจุดโทษ 3-4)
11/06/97 ฝรั่งเศส 2-2 อิตาลี กระชับมิตร
16/02/94 อิตาลี 0-1 ฝรั่งเศส กระชับมิตร
17/06/86 อิตาลี 0-2 ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 1986
02/06/78 อิตาลี 2-1 ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 1978
12/06/38 อิตาลี 3-1 ฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 1938
ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดอิตาลี
13/06/08 เสมอ โรมาเนีย 1-1 (กลาง) ยูโร 2008
09/06/08 แพ้ ฮอลแลนด์ 0-3 (กลาง) ยูโร 2008
30/05/08 ชนะ เบลเยียม 3-1 (เหย้า) กระชับมิตร
26/05/08 แพ้ สเปน 0-1 (เยือน) กระชับมิตร
06/02/08 ชนะ โปรตุเกส 3-1 (กลาง) กระชับมิตรฝรั่งเศส
13/06/08 แพ้ เนเธอร์แลนด์ 1-4 (กลาง) ยูโร 2008
09/08/08 เสมอ โรมาเนีย 0-0 (กลาง) ยูโร 2008
03/06/08 ชนะ โคลอมเบีย 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร
31/06/08 เสมอ ปารากวัย 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร
27/05/08 ชนะ เอกวาดอร์ 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร
ตารางคะแนน กลุ่มซี
ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีมอิตาลี
แชมป์โลกรายล่าสุดมีเพียง 1 คะแนนจากการเสมอกับโรมาเนีย 1-1 ชนิดที่เกือบทั้งชนะและแพ้ เมื่อมีโอกาสทำประตูแบบล้นหลามและส่งบอลเข้าไปในประตูได้สองครั้งแต่ลูกยิงในช่วงต้นเกมของ ลูก้า โทนี่ ถูกตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า นอกจากนี้ยังเกือบพลาดท่า โชคดีที่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งเซฟลูกจุดโทษของ อาเดรียน มูตู ได้หวุดหวิด
โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ เทรนเนอร์ทีม"อัซซุรี่" ทำการเปลี่ยนแปลงทีมถึง 5 ตำแหน่งมาแล้วในเกมรับมือโรมาเนีย และคาดว่าจะเปลี่ยนนักเตะในบางตำแหน่งอีกในวันนี้ โดยมีแนวโน้มว่าจะส่ง อันโตนิโอ คาสซาโน่ หัวหอกแบดบอยลงไปเสริมแนวรุก เช่นเดียวกับ อัลแบร์โต้ อควิลานี่ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งไปช่วยงาน อันเดรีย ปีร์โล่ ในการปั้นเกม ซึ่งหากทั้งสองรายได้ลงสนามจริงก็จะหมายความว่า อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ กับ ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า ต้องเริ่มเกมที่ม้านั่งสำรอง
ฝรั่งเศส
อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อ 8 ปีก่อน ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากไม่แพ้กันเมื่อโดนเนเธอร์แลนด์ถล่มยับเยิน 1-4 ทำให้ในเวลานี้มีแค่คะแนนเดียวจากการเสมอกับโรมาเนียแบบไร้สกอร์ในเกมแรก ทำให้มีทั้งคะแนนและผลต่างประตูได้เสียเท่ากับอิตาลีที่แพ้ต่ออัศวินสีส้ม 0-3 ในเกมแรกมาเช่นกัน แต่รั้งอันดับ 4 เนื่องจากมีค่าสัมประสิทธิ์ในรอบคัดเลือกที่ต่ำกว่าอิตาลี
เรย์มงต์ โดเมอเน็ต กุนซือทีม"ตราไก่" มีปัญหาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่มารบกวนความฟิตของผู้เล่นตัวหลัก ไม่ว่าจะเป็นกัปตันทีม ปาทริค วิเอร่า ที่ยังไม่ได้ลงสนามในสองนัดแรกและน่าจะพลาดเกมนี้ไปอีกเช่นกัน ขณะที่ วิลเลี่ยม กัลลาส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่งก็มีอาการเจ็บข้อเท้าและไม่ได้ซ้อมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังน่าจะได้ลงทำศึกใหญ่วันนี้ ขณะที่แดนหน้าน่าจะส่ง ซามีร์ นาสรี่ ลงเป็นกองหน้าตัวต่ำ คอยสนับสนุนหัวหอกตัวเป้าอย่าง เธียร์รี่ อองรี
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามอิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - จานลูก้า ซามบร็อตต้า, จอร์จิโอ เชลลินี่, คริสเตียน ปานุชชี่, ฟาบิโอ กรอสโซ่ - อัลแบร์โต้ อควิลานี่, อันเดรีย ปีร์โล่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - เมาโร คาโมนาเรซี่, ลูก้า โทนี่, อันโตนิโอ คาสซาโน่
ฝรั่งเศส (4-4-1-1) : เกรกอรี่ กูเป้ต์ - ลาซาน่า ดิยาร์ร่า, ลิลิยง ตูราม, วิลเลี่ยม กัลลาส, ปาทริซ เอฟร่า - ฟร็องค์ ริเบรี่, โคล้ด มาเกเลเล่, เฌเรมี่ ตูลาล็อง, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ซามีร์ นาสรี่ - เธียร์รี่ อองรี
ผลการแข่งขัน : อิตาลี 2-1 ฝรั่งเศส
ผู้เล่นที่น่าจับตามองของทั้งสองทีมอิตาลี - ลูก้า โทนี่
ศูนย์หน้าคนดังที่ยังยิงไม่ได้เลยในรอบสุดท้ายนี้ โดยเขาเป็นคนที่มีโอกาสทำประตูมากที่สุดในเกมกับโรมาเนีย ซึ่ง โทนี่ สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้ครั้งหนึ่งในช่วงต้นเกม แต่ถูกผู้ตัดสินจับเป็นลูกล้ำหน้าซึ่งภาพรีเพลย์แสดงให้เห็นว่าเป็นการตัดสินที่ผิดพลาด อย่างไรก็ดี โทนี่ ก็ยังคงได้รับคววามไว้วางใจให้เป็นขุนทะลวงฟัน แบกความหวังสูงสุดในการทำประตูเพื่อลุ้นตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้
ฝรั่งเศส - ฟร็องค์ ริเบรี่
หนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่มขึ้น ยังไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่ถูกคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้เช่นเดียวกับกับเพื่อนร่วมสโมสร บาเยิร์น มิวนิค อย่างโทนี่อีกด้วย อย่างไรก็ดีเทคนิคและความเร็วของ"ปีกหน้าบาก"นั้นถือว่าประมาทไม่ได้ และจะเป็นกุญแจสำคัญในการเดินเกมของฝรั่งเศสอย่างแน่นอน เกมชี้เป็นชี้ตายครั้งนี้จึงเป็นการดวลกันระหว่างสองเพื่อนรักที่ช่วยกันพา "เสือใต้" คว้าดับเบิ้ลแชมป์เมืองเบียร์ในฤดูกาลล่าสุด
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของทั้งสองทีมอิตาลี
-จะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ด้วยเงื่อนไขต่อไปนี้ 1.) ชนะฝรั่งเศส ขณะที่โรมาเนียแพ้หรือเสมอเนเธอร์แลนด์ 2.) ถ้าเสมอแบบมีสกอร์กับฝรั่งเศส ต้องลุ้นให้ โรมาเนีย แพ้เนเธอร์แลนด์ และ 3.) ถ้าเสมอ 0-0 กับฝรั่งเศส ต้องลุ้นให้ โรมาเนีย แพ้เนเธอร์แลนด์ด้วยสกอร์ 0-3 เป็นอย่างน้อย โดยอิตาลีจะเข้ารอบได้ในเงื่อนไขที่ 2 และ 3 ได้เนื่องจากมีค่าสัมประสิทธิ์ในรอบคัดเลือกสูงสุดในระหว่าง 3 ทีม
-มีลุ้นจะเป็นทีมแรกที่เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศทั้งที่ไม่ชนะในรอบแรกแม้แต่เกมเดียว
-ตกรอบแรก 2 ใน 3 ครั้งหลังสุดที่มาเล่นยูโรรอบสุดท้าย
-ทีมแชมป์ฟุตบอลโลกจากทวีปยุโรป 2 ทีมก่อนหน้านี้สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูโรได้ทั้งสิ้น ได้แก่ เยอรมนี แชมป์ฟุตบอลโลก 1990 ที่ได้รองแชมป์ยูโร 1992 และฝรั่งเศส แชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ที่คว้าแชมป์ยูโร 2000
-อิตาลีกับตุรกีเป็นทีมที่ใช้ผู้เล่นลงสนามมากที่สุดในทัวร์นาเมนท์ โดยจาก 2 นัด ใช้ผู้เล่นไปแล้ว 18 คนเท่ากัน
-ถ้า อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ได้ลงสนา จะเป็นการลงเล่นยูโรรอบสุดท้ายนัดที่ 13 เป็นสถิติสูงสุดของทีมชาติอิตาลี เทียบเท่ากับ เปาโล มัลดินี่
-ถ้า เดล ปิเอโร่ ทำประตูได้ จะเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ยิงประตูได้ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกและยูโรรวมกันได้ 4 สมัย
-ประตูตีเสมอในเกมกับโรมาเนีย ทำให้ คริสเตียน ปานุชชี่ กลายเป็นนักเตะที่มีอายุมากที่สุดเป็นอันดับสองที่ทำประตูได้ในยูโร ด้วยวัย 35 ปี
-หาก จานลูก้า ซามบร็อตต้า รับใบเหลืองในเกมนี้ จะทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ยูโรรอบสุดท้ายที่ได้ใบเหลืองรวมกันถึง 6 ใบ
-ซามบร็อตต้า, โทนี่, ปีร์โล่, เด รอสซี่ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ คือนักเตะทีมชาติอิตาลีที่มีใบเหลืองคาดโทษติดมาจาก 2 นัดแรกฝรั่งเศส
-จะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ก็ต่อเมื่อเอาชนะอิตาลี ขณะที่โรมาเนียต้องไม่ชนะเนเธอร์แลนด์ เท่านั้น
-11 ตัวจริงในเกมกับเนเธอร์แลนด์ ทำสถิติเป็นทีมที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรรอบสุดท้าย โดยมีอายุเฉลี่ย 30 ปี 133 วัน
-ประตูในเกมกับเนเธอร์แลนด์ ทำให้ เธียร์รี่ อองรี เป็นนักเตะคนที่สามที่ทำประตูได้ในยูโรรอบสุดท้าย 3 สมัย ตามหลัง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ (เยอรมนี) และ วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ (สาธารณรัฐเชก)
-อองรี ยังทำสถิติเป็นนักฟุตบอลคนที่ 4 ที่ทำประตูได้ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกและยูโรรวมกัน 5 สมัย ตามหลัง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, รูดี้ โฟลเลอร์ (เยอรมนี) และ เฮนริค ลาร์สสัน (สวีเดน) โดยสถิติการทำประตูในสองรายการใหญ่รวมกันมากสมัยที่สุดเป็นของ คลิ้นส์มันน์ ด้วยจำนวน 6 สมัย
-วิลลี่ ซาญอล, เฌเรมี่ ตูลาล็อง และ โคล้ด มาเกเลเล่ คือนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่มีใบเหลืองคาดโทษติดมาจากสองเกมแรก
17 / 06 / 2008 15:57