เจาะลึก ยูโร 2008 : สเปน -vs- กรีซ

ฟุตบอลยูโร 2008 รอบแรก กลุ่มดี นัดสุดท้าย

สเปน (อันดับฟีฟ่า 4) -vs- กรีซ (อันดับฟีฟ่า 8) ....(01.45 น.)

สนาม : สตาดิโอน วัลส์ซีเซนไฮม์, ซัลซ์บวร์ก, ออสเตรีย

ราคา : สเปน ต่อ ครึ่งควบลูกลบห้า

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม

22/08/07 กรีซ 2-3 สเปน  กระชับมิตร
16/06/04 กรีซ 1-1 สเปน  ยูโร 2004
07/06/03 สเปน 0-1 กรีซ  ยูโร 2004 รอบคัดเลือก
17/09/02 กรีซ 0-2 สเปน  ยูโร 2004 รอบคัดเลือก
21/02/73 สเปน 3-1 กรีซ  ฟุตบอลโลก 1974 รอบคัดเลือก
17/01/73 กรีซ 2-3 สเปน  ฟุตบอลโลก 1974 รอบคัดเลือก

ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุด

สเปน

14/06/08 ชนะ สวีเดน 2-1 (กลาง)  ยูโร 2008
10/06/08 ชนะ รัสเซีย 4-1 (กลาง)  ยูโร 2008
04/06/08 ชนะ สหรัฐอเมริกา 1-0 (เหย้า)  กระชับมิตร
31/05/08 ชนะ เปรู 2-1 (เหย้า)  กระชับมิตร
26/03/08 ชนะ อิตาลี 1-0 (เหย้า)  กระชับมิตร

กรีซ

14/06/08 แพ้ รัสเซีย 0-1 (กลาง)  ยูโร 2008
10/06/08 แพ้ สวีเดน 0-2 (กลาง)  ยูโร 2008
01/06/08 แพ้ ยูเครน 0-1 (เหย้า)  กระชับมิตร
26/05/08 ชนะ สโลวีเนีย 1-0 (เหย้า)  กระชับมิตร
26/03/08 แพ้ บราซิล 0-1 (กลาง)  กระชับมิตร

ตารางคะแนน กลุ่มดี

ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีม

สเปน

     "กระทิงดุ" แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่สิงห์รอบคัดเลือกอีกต่อไป เมื่ออาศัยความมุ่งมั่นอุตสาหะจนได้ประตูชัยของ ดาบิด บีญ่า เฉือนสวีเดน 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง คว้าตั๋วเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มดีไปอย่างสวยงามด้วยชัยชนะ 2 นัดรวด ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับทีมชาติอิตาลี ทีมอันดับ 2 ของกลุ่มซี

     หลุยส์ อราโกเนส จะหมุนเวียนให้ผู้เล่นสำรองในสองเกมแรกได้ลงสนามเป็นตัวจริงในวันนี้ เว้นแต่ ซานจิ กาซอร์ล่า กองกลางจากบียาร์เรอัลที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ยังต้องใช้งาน อันเดรส อิเนสต้า เพลย์เมกเกอร์ของบาร์เซโลน่าต่อไป ขณะที่ตัวหลักที่มีอาการเจ็บอย่าง คาร์เลส ปูโยล และ ดาบิด ซิลบา ก็จะได้พักรักษาความฟิตไว้สำหรับศึกหนักที่กำลังจะมาถึงเช่นกัน ในตำแหน่งนายทวารจะใช้งาน โฆเซ่ เรน่า นายด่านจากลิเวอร์พูลลงเป็นตัวจริง ขณะที่ อันเดรียส ปาล็อป โกล์จอมเก๋าของเซบีย่ามีลุ้นจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาประเดิมสนามในนามทีมชาติในช่วงครึ่งหลัง

กรีซ

     "ทวยเทพโอลิมปัส" พลาดท่าตกรอบแรกไปแบบหมดลายแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อแพ้รวดทั้งสองนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มโดยที่ยังยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว และต่อให้ชนะในเกมนี้ได้ก็ต้องรับตำแหน่งทีมบ๊วยของตารางอยู่ดี เพราะสถิติการพบกันเป็นรองทั้ง สวีเดน และ รัสเซีย

     อ๊อตโต้ เรห์ฮาเกล กุนซือสูงวัยของทีมชาติกรีซ จะขาดตัวหลักหลายรายเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนได้แก่ ฟูลแบ็คสองข้างอย่าง ยอร์คาส ไซตาริดิส กับ วาสซิลิออส โตโรไซดิส, จอร์จอส คารากูนิส กองกลาง และ ธีโอฟานิส เกคัส ศูนย์หน้าคนสำคัญ ทำให้เป็นโอกาสของตัวสำรองอย่าง ลูคัส วินตรา, นิคอส สไปโรปูลอส, อเล็กซานดรอส ทีโซลิส และ ดิมิทริออส ซัลปิจิดิส ได้ลงทำหน้าที่แทนตามลำดับ ส่วนตำแหน่งนายทวารแม้ว่า อันโตนิส นิโคโปลิดิส จะก่อความผิดพลาดทำให้ทีมแพ้รัสเซีย ก็จะยังได้ลงเฝ้าเสาในวันนี้เนื่องจากจะเป็นเกมอำลาทีมชาติของเขา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปน (4-1-3-2) : โฆเซ่ เรน่า - อัลวาโร่ อาร์เบลัว, รูเบน นาบาร์โร่, ฆัวนิโต้ กูเตียเรซ, ราอูล อัลบิโอล - ซาบี อลองโซ่ - อันเดรส อิเนสต้า, รูเบน เด ลา เร้ด, เชสก์ ฟาเบรกัส - เซร์คิโอ การ์เซีย, ดานี กีซา

กรีซ (4-4-2) : อันโตนิส นิโคโปลิดิส - ลูคัส วินตรา, โซติริส คีร์เกียคอส, ตรายานอส เดลลาส, นิคอส สไปโรปูลอส - อันเจลอส บาซินาส, คอนสตานตินอส คัตซูรานิส, อเล็กซานดรอส ทีโซลิส, ยอนนิส อมานาติดิส - ดิมิทริออส ซัลปิจิดิส, อันเกลอส ชาริสเตอัส

ผลการแข่งขัน : สเปน 2-0 กรีซ

---

ผู้เล่นที่น่าจับตามองของทั้งสองทีม

สเปน - เชสก์ ฟาเบรกัส

     มิดฟิลด์วัยเพียง 21 ปีที่ก้าวพ้นจากคำจำกัดความว่า "ดาวรุ่ง" ไปแล้ว เนื่องจากก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญที่ อาร์เซน่อล จะขาดไปไม่ได้โดยเด็ดขาด ฟอร์มที่คงเส้นคงวาทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีแห่งลีกสูงสุดอังกฤษมาถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน จนเป็นนักเตะที่แฟนบอล "ปืนใหญ่" แต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในอนาคตไปแล้ว และเมื่อสัปดาห์ก่อน ฟาเบรกัส ก็เพิ่งประเดิมสกอร์แรกในทีมชาติด้วยการโหม่งประตูสุดท้ายในเกมถล่มรัสเซีย

กรีซ - อันเจลอส บาซินาส

     กัปตันทีมชาติกรีซที่ค้าแข้งอยู่ในสเปนกับสโมสร เรอัล มายอร์ก้า เขาเป็นกำลังสำคัญในการรอดพ้นการตกชั้นของ "ทีมชาวเกาะ" เมื่อสองฤดูกาลก่อน และยังคงรักษาตำแหน่งตัวจริงในสโมสรและทีมชาติไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งขุนพลกรีซหวังว่าประสบการณ์ของกองกลางวัย 32 ในการผ่านเกมฟาดแข้งกับขุนพลกระทิงดูในระดับสโมสร จะถูกนำมาช่วยลูกทีมสั่งลาศึก ยูโร ครั้งนี้แบบไว้ลายแชมป์เก่า

---

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของทั้งสองทีม

สเปน

-ชนะรวดในเกมทีมชาติมา 7 นัดในทุกรายการ และ 6 นัดรวดเฉพาะในรายการสำคัญ และจะเทียบเท่าสถิติตลอดกาลของทีมทั้งในทุกรายการและเฉพาะในรายการใหญ่ หากเอาชนะได้ในเกมนี้
-ไม่แพ้มา 18 นัดนับตั้งแต่แพ้โรมาเนีย 0-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 โดยชนะถึง 16 นัดและเสมอ 2 นัด
-แพ้เพียงแค่ 4 นัดภายใต้การทำทีมรวม 50 นัดของ หลุยส์ อราโกเนส
-ดาบิด บีญ่า คือผู้ทำประตูสูงสุดของทัวร์นาเมนท์ด้วยจำนวน 4 ประตู
-คาร์ลอส มาเชน่า คือผู้เล่นทีมชาติสเปนรายเดียวที่มีใบเหลืองคาดโทษติดมาจากสองเกมแรก

กรีซ

-เป็นแชมป์เก่าทีมที่ 2 ที่ตกรอบแรกในยูโรครั้งต่อมาด้วยการเป็นทีมบ๊วยของกลุ่ม นับตั้งแต่ปี 1980 ที่มีการจัดให้รอบแรกเป็นรอบแบ่งกลุ่ม โดยทีมแรกคือ ทีมชาติเยอรมนี แชมป์ยูโร 1996 ที่ตกรอบยูโร 2000 ในฐานะทีมบ๊วยของกลุ่มเอ
-การตกรอบของกรีซทำให้ยังไม่มีแชมป์เก่าทีมใดที่มาป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จ
-เป็นทีมเดียวในยูโร 2008 ที่ยังยิงประตูไม่ได้ โดยในประวัติศาสตร์มีเพียงทีมเดียวที่ตกรอบไปแบบยิงไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว คือเดนมาร์กในยูโร 2000
-ในเกมกับรัสเซีย จอร์จอส คารากูนิส รับใบเหลืองที่ 5 ในการลงสนามรอบสุดท้ายของยูโรทั้ง 2 สมัย ทำสถิติสะสมใบเหลืองสูงสุดเท่ากับ จอร์จี้ ฮาจี้ (โรมาเนีย), พาเวล เนดเวด (สาธารณรัฐเชก) และ จานลูก้า ซามบร็อตต้า (อิตาลี)
-ยังไม่เคยมีผู้เล่นทีมชาติกรีซโดนใบแดงในยูโรรอบสุดท้าย