ฟุตบอล "ยูโร 2008" รอบรองชนะเลิศ
เยอรมัน (อันดับโลก, 5) -vs- ตุรกี (อันดับโลก, 20).....(01.45 น.)
สนาม : เซนต์ ยาค็อบ พาร์ค
ราคา : เยอรมัน ต่อ ลูกควบลูกครึ่งลบห้า
เกมคู่นี้ถูกวางคิวให้หวดกันที่ เซนต์ ยาค็อบ พาร์ค ในเมืองบาเซิ่ล
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
08-10-05 ตุรกี ชนะ เยอรมัน 2-1
09-10-99 เยอรมัน เสมอ ตุรกี 0-0
10-10-98 ตุรกี ชนะ เยอรมัน 1-0
30-05-92 เยอรมัน ชนะ ตุรกี 1-0
26-10-83 เยอรมัน ชนะ ตุรกี 5-1
23-04-83 ตุรกี แพ้ เยอรมัน 0-3
22-12-79 เยอรมัน ชนะ ตุรกี 2-0
01-04-79 ตุรกี เสมอ เยอรมัน 0-0
20-12-75 ตุรกี แพ้ เยอรมัน 0-5
ผลงานในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบสุดท้าย
เยอรมัน
"ศึกยูโร 2000"
12-06-00 เสมอ โรมาเนีย 1-1
17-06-00 แพ้ อังกฤษ 0-1
20-06-00 แพ้ โปรตุเกส 0-3
"ศึกยูโร 2004"
15-06-04 เสมอ ฮอลแลนด์ 1-1
19-06-04 เสมอ ลัตเวีย 0-0
23-06-04 แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 1-2
"ศึกยูโร 2008"
08-06-08 ชนะ โปแลนด์ 2-0
12-06-08 แพ้ โครเอเชีย 1-2
16-06-08 ชนะ ออสเตรีย 1-0
19-06-08 ชนะ โปรตุเกส 3-2
ตุรกี
"ศึกยูโร 1996"
11-06-96 แพ้ โครเอเชีย 0-1
14-06-96 แพ้ โปรตุกส 0-1
19-06-96 แพ้ เดนมาร์ก 0-3
"ศึกยูโร 2000"
11-06-00 แพ้ อิตาลี 1-2
15-06-00 เสมอ สวีเดน 0-0
19-06-00 ชนะ เบลเยียม 2-0
24-09-00 แพ้ โปรตุเกส 0-2
07-06-08 แพ้ โปรตุเกส 0-2
11-06-08 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
15-06-08 ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 3-2
20-06-08 เสมอ โครเอเชีย 1-1
เยอรมนี
16/05/08 ชนะ ออสเตรีย 1-0
12/06/08 แพ้ โครเอเชีย 1-2
08/06/08 ชนะ โปแลนด์ 2-0
(เข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่มบี : ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 4 เสีย 2 มี 6 คะแนน)
ตุรกี
07-06-08 แพ้ โปรตุเกส 0-2
11-06-08 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
15-06-08 ชนะ เช็ก 3-2
(เข้ารอบเป็นอันดับสองของกลุ่ม เอ : ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 5 มี 6 คะแนน)
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
เยอรมัน
19-06-08 ชนะ โปรตุเกส 3-2 (กลาง) ศึกยูโร 2008
12-06-08 ชนะ ออสเตรีย 1-0 (กลาง) ศึกยูโร 2008
08-06-08 แพ้ โครเอเชีย 1-2 (กลาง) ศึกยูโร 2008
31-05-08 ชนะ โปแลนด์ 2-0 (กลาง) ศึกยูโร 2008
27-05-08 ชนะ เซอร์เบีย 2-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
ตุรกี
20-06-08 เสมอ โครเอเชีย 1-1 (กลาง) ศึกยูโร 2008
15-06-08 ชนะ เช็ก 3-2 (กลาง) ศึกยูโร 2008
11-06-08 ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1 (เยือน) ศึกยูโร 2008
07-06-08 แพ้ โปรตุเกส 0-2 (กลาง) ศึกยูโร 2008
29-05-08 ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
ฟาติห์ เตริม ติวเข้มลูกทีมก่อนลงฉะ เยอรมัน ในช่วงค่ำคืนนี้
สภาพความพร้อมล่าสุด
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" ดำเนินมาถึงรอบตัดเชือกอย่างรวดเร็ว โดยคืนนี้เป็นคิวของเกมรอบรองชนะเลิศคู่แรกระหว่างทีมบ้านใกล้เรือนเคียงกันอย่าง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน กับ ตุรกี ที่ เซนต์ ยาค็อบ พาร์ค ในเมืองบาเซิ่ล เริ่มคิ๊กอ๊อฟเวลา 01.45 น.ตามเวลาประเทศไทย
เริ่มกันที่สภาพความพร้อมเกมนี้ดูเหมือนว่าทาง ฟาติห์ เตริม เทรนเนอร์ทัพลูกหนังแดนไก่งวงต้องเผชิญปัญหารุมเร้ารอบด้าน เพราะมีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บและติดโทษพักแข้งรวมกันเกือบครึ่งทีม ไล่มาตั้งแต่ผู้รักษาประตูหมายเลขหนึ่ง วอลคาน เดมิเรล ที่ถูกคณะกรรมการฝ่ายวินัยของ ยูฟ่า สั่งแบนเป็นเกมที่ 2 เนื่องจากถูกไล่ออกในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับ สาธารณรัฐ กรณีแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในสนาม
นอกจากนั้นทัพเติร์กจะปราศจาก เอ็มเร่ อาซิค กองหลังตัวสำคัญ รวมถึงคู่มิดฟิลด์เชิงรุกทั้ง ตุนกาย ซานลี่และ อาร์ดา
ตูราน ที่โดนแบนทั้งหมด หลังจากสะสมใบเหลืองครบโควต้า ขณะเดียวกันทีมยังถูกปัญหาไข้เดี้ยงรุมเร้าขุมกำลังหลักทั้ง เอ็มเร่ เบโลโซกลู มิดฟิลด์กัปตันทีมที่มีปัญหาบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าตั้งแต่เกมนัดเปิดสนามและแม้เกมนี้หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ยังต้องรอลุ้นกันในเรื่องของสภาพความฟิต
ขณะที่ เอ็มเร่ กุนกอร์, เซอร์เว็ต เซตินและ ตูเมอร์ เมติน ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งหมด ซึ่งจากทั้งสามรายนี้มี เซติน รายเดียวที่ยังพอมีลุ้นหายทันลงช่วยทีม ที่สำคัญที่สุดคือเกมนี้ทีมหมดสิทธิ์ใช้งาน นิฮัต คาห์เวซี่ ดาวยิงความหวังสูงสุดที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขามาจากเกมรอบก่อนรองฯ และถูกส่งตัวกลับไปพักฟื้นที่ สเปน เป็นที่เรียบร้อย
ข่าวดีของ เยอรมัน นอกจากจะฟูลทีมแล้วยังได้ โยอาคิม เลิฟ พ้นโทษแบนกลับมาด้วย
ในทางกลับกันความพร้อมของ เยอรมัน ค่อนข้างสมบูรณ์ โดยตัวแปรสำคัญที่สุดคือการได้ โยอาคิม เลิฟ
บุนเดสเทรนเนอร์กลับมาคุมทีมข้างสนามหลังจากพ้นโทษแบนและมีแนวโน้มว่า เลิฟ สามารถเลือกใช้งานลูกทีมได้เกือบเต็มอัตราศึก
ปกติแล้ว เยอรมัน จะยึดรูปแบบการเล่น 4-4-2 แต่เกมนี้ เลิฟ กล่าวเป็นนัยว่าอาจต้องปรับทัพมาเป็น 4-5-1 ที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีในเกมปะทะ โปรตุเกส โดยจะส่ง ไซม่อน โรลเฟสและ โธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์ ลงเป็นตัวเก็บบอลในแดนกลางยามปราศจาก ทอร์สเท่น ฟริงก์ส ที่กระดูกซี่โครงร้าว ซึ่งแม้แผนนี้ทำให้ต้องถอดหัวหอกออกหนึ่งราย แต่ในทางกลับกันทำให้ มิชาเอล บัลลัค มีอิสระในการทำเกมมากขึ้น เพราะไม่ต้องมัวพะวงกับการถอยลงมาช่วยเกมรับ
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เยอรมัน (4-5-1) : เยนส์ เลห์มันน์ - อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, คริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ไซม่อน โรลเฟส, โธมัส ฮิตเซิ่ลสแปร์เกอร์ - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มิชาเอล บัลลัค, ลูคัส โพดอลสกี้ - มิโรสลาฟ โคลเซ่
ตุรกี (4-2-3-1) : รุสตู เร็คเบอร์ - ซาบรี ซาริโอกลู, ก็อคฮาน ซาน, เมห์เม็ต ออเรลิโอ, ฮาคาน บัลต้า - ฮามิต อัลตินท็อป, เมห์เม็ต โทปาล - คาซิม คาซิม, ก็อคเดนิซ คาราเดนิซ, อูกูร์ โบราล - เซมิห์ เซนเติร์ก
ผู้ตัดสิน : มัสซิโม บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง
เยอรมัน : มิชาเอล บัลลัค
บัลลัค เดินทางมาเล่นรายการนี้แบบถูกที่ ถูกเวลา เพราะปิดฉากฤดูกาลปกติด้วยฟอร์มอันร้อนแรง แม้ในการเล่นรอบแรกผลงานของจอมทัพกัปตันทีม "อินทรีเหล็ก" จะดูยังไม่ค่อยลงตัว แต่นัดปะทะ โปรตุเกส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าการเล่นของ บัลลัค เปรียบได้ดั่งกระดูกสันหลังของ เยอรมัน เพราะมีบทบาทสำคัญทั้งในเกมรุก-รับ
จุดแข็งของ "ไกเซอร์น้อย" คือการเปิดบอลที่แม่นยำทั้งสองเท้า นอกจากนั้น บัลลัค ยังมีความอันตรายในจังหวะลูกตั้งเตะ ทั้งการยิงฟรีคิกเอง รวมถึงลูกกลางอากาศอีกด้วย ที่สำคัญเขามีประสบการณ์ในเกมระดับสูงมาอย่างโชกโชนและความเก๋าของ บัลลัค น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลการแข่งขันของ เยอรมัน ในเกมนี้
ตุรกี: ก็อคฮาน ซาน
แม้ สต๊อปเปอร์จากค่าย เบซิคตัส จะเพิ่งผ่านการติดธงเพียง 20 ครั้ง แต่ในทุกครั้งที่ผ่านมาหากไม่โดนอาการบาดเจ็บหรือติดโทษแบนทีมของ ฟาติห์ เตริม มักจะมี ซาน ลงเป็นตัวจริงในแนวรับมาอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเด่นของปราการหลังวัย 26 ปีรายนี้อยู่ที่การเข้าปะทะที่หนักหน่วงและได้เปรียบในเรื่องของลูกกลางอากาศ เพราะมีส่วนสูงถึง 194 ซม. ซึ่งหากจะหาผู้เล่นที่จะมารับมือกับทีมเจ้าเวหาอย่าง "อินทรีเหล็ก" คงหนีไม่พ้น เซนเตอร์ฮาล์ฟพลังหนุ่มรายนี้
เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- คู่นี้ลงดวลแข้งกันมาทั้งหมด 17 ครั้ง ปรากฏว่า เยอรมัน ครองสถิติเหนือกว่า เพราะชนะ 11 ครั้งและเสมอกับแพ้อย่างละ 3 นัด แต่ ตุรกี ยังไม่เพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งจากเมืองเบียร์ในการปะทะกัน 3 หนท้าย โดยแข้งเติร์ก ชนะ 2 เสมอ 1 ส่วนหนสุดท้ายที่ เยอรมัน ชนะ ตุรกี ต้องย้อนไปเมื่อเกมกระชับมิตรในปี 1992 ซึ่งในครั้งนั้น "อินทรีเหล็ก" เฉือนชนะไป 1-0
- เยอรมัน ถือว่ามีสถิติการเล่นรอบตัดเชือกที่ยอดเยี่ยม เพราะผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึกยูโร มาทั้งหมด 5 นัด และผ่านเข้าชิงชนะเลิศถึง 4 หน โดยครั้งเดียวที่ต้องซดแห้วคือปี 1988 ที่เสียท่าให้กับ ฮอลแลนด์ 1-2 และท้ายที่สุดทัพ "ฟลายอิ้งค์ดัตช์แมน" คว้าแชมป์ไปครองในยุคสามทหารเสือ
- ทั้ง เยอรมัน และ ตุรกี ต่างผ่านเข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่แชมป์ยูโร 2 ครั้งหลังสุดทั้ง ฝรั่งเศส (2000) และ กรีซ (2004) ต่างเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มทั้งคู่
- นี่เป็นครั้งแรกที่ ตุรกี ผ่านเข้าลึกถึงรอบตัดเชือกของศึกชิงจ้าวลูกหนังแห่งทวีปยุโรป โดยก่อนหน้านี้ทีมไก่งวงเคยทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เพียงรายการเดียวก็คือ ศึกฟุตบอลโลก 2002 โดยในครั้งนั้นกองเชียร์แดนเติร์กต้องอกหัก เพราะทีมเสียท่า บราซิล 0-1 แต่กระนั้นก็จบทัวร์นาเมนต์ด้วยอันดับ 3
- แม้ตุรกีจะสามารถผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศสำเร็จ แต่ทว่าเกมรุกของพวกเขายังน่าเป็นห่วง เพราะนับตั้งแต่ลงสนามรอบแรกเป็นต้นมา ทีมยังไม่สามารถยิงคู่แข่งในช่วงครึ่งแรกได้เลย
- บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เป็นผู้เล่นรายที่ 2 ต่อจาก เคล้าส์ เบิร์กกรีน นักเตะเดนส์ ที่ยิงประตู, ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู, ได้รับใบเหลืองและใบแดง ในศึกยูโรหนเดียว โดยสถิตินี้ เบิร์กกรีน ทำไว้เมื่อลุยศึก "ยูโร 1984"
- มิชาเอล บัลลัค ยิงประตูมาสองนัดติดต่อกันในรายการนี้ (โปรตุเกส และ ออสเตรีย) และถึงตอนนี้เขาและ โพดอลสกี้ ยังมีลุ้นทำสถิติยิงประตูในศึกยูโรเทียบเท่า เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ หัวหอกรุ่นน้าร่วมสัญชาติที่ครองสถิติยิง 5 ประตูในรอบสุดท้าย โดย บัลลัค เป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 7 ของ "อินทรีเหล็ก" ต่อจาก แกร์ด มุลเลอร์, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, รูดี้ โฟลเลอร์, คาร์ล ไฮน์ รุมเมนิกเก้, อเล็กซานเดอร์ ซีกเลอร์และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โดย "ไกเซอร์น้อย" ยิงให้ทีมชาติแล้วทั้งหมด 38 ประตู
- ขณะที่ทางฝั่ง ตุรกี มี อาร์ดา ตูราน, นิฮัต คาห์เวซี่ รวมถึง เซมิห์ เซนเติร์ก ที่มีลุ้นยิงสถิติในเวทียูโร เทียบเท่า ฮาคาน ซูเคอร์ หากคนใดคนหนึ่งยิงเพิ่มได้อีกสองประตู แต่สองรายแรกดูท่าจะลำบาก เพราะเกมนี้ ตูราน โดนแบนและ นิฮัต บาดเจ็บและถูกส่งตัวกลับสเปนไปแล้ว
- ทีมไก่งวงเป็นทีมที่มีระเบียบวินัยแย่ที่สุดของศึก "ยูโร 2008" เพราะได้รับใบเหลือง-แดง มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์คือ 15 ใบ โดยสถิติสูงสุดอยู่ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ที่ได้รับรวม 19 ใบในศึก "ยูโร 1996" ที่พวกเขาได้ตำแหน่งรองแชมป์
ซอคเกอรูส์ ฟันธง
ต้องขอยกนิ้วชื่นชมแนวทางการเล่นและความใจสู้ของแข้งเติร์กที่ไม่เคยถอดใจแม้ตกอยู่สถานการณ์ที่ย่ำแย่แค่ไหน แต่ทว่าเกมนี้ดูเหมือนสภาพทีมของ ฟาติห์ เตริม จะบอบช้ำมากเกินไป เพราะบรรดาตัวหลักค่อย ๆ ร่อยหรอไปกับโทษแบนและอาการบาดเจ็บเกือบครึ่งค่อนทีมและแต่ละรายนั้นถือเป็นคีย์แมนแต่ละขุมกำลังทั้งสิ้น
ผิดกับ เยอรมัน ที่มาแบบสมบูรณ์สุดขีด แถมเกมนี้จะได้ โยอาคิม เลิฟ กลับมาคุมทีมอีกด้วย ที่สำคัญผู้เล่นในทีมกำลังมั่นใจ ภายหลังโค่นทีมเต็งร่วมอย่าง โปรตุเกส มาแบบสวยงาม เกมนี้มองมุมไหน "อินทรีเหล็ก" ก็มีภาษีดีกว่าเพราะมีตัวผู้เล่นที่พลิกเกมได้อยู่หลายรายทั้ง บัลลัค, โพดอลสกี้, ชไวน์สไตน์เกอร์ สวนทางกับทีมไก่งวงที่ดูเหมือนว่าตอนนี้ต้องฝากความหวังไว้กับการทำเกมของ ฮามิต อัลตินท๊อป เพียงรายเดียว
และถือเป็นโชคร้ายของ อัลตินท๊อปผู้น้อง ที่วันนี้ต้องมาเจอกับ เยอรมัน เพราะแนวรับของทัพด๊อยช์ลันด์ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับรูปแบบการเล่นของเขาเป็นอย่างดีจากเกมบุนเดสลีก้า ผิดกับคู่แข่งรอบผ่าน ๆ มา ที่ประเมินค่าของ อัลตินท็อป ต่ำไปและปล่อยให้เขาได้เล่นตามถนัด ซึ่งผมมองว่าหากเกมนี้ เลิฟ วางหมากปิดการขึ้นเกมของมิดฟิลด์รายนี้ได้ แม้ เตริม จะวางแท็คติกมาแบบไหน ตุรกี ก็คงรอดยากและหากโดนเร็วอาจมีลูกที่ 2-3 ตามมาด้วย.....ลูกควบ ก็ต้องต่อ เยอรมัน ครับ
สกอร์ที่คาด : อินทรีเหล็ก เผด็จศึก ไก่งวง 2-0
25 / 06 / 2008 14:02