Lawro's predictions |
HOW DID LAWRO DO LAST TIME? Lawro's predictions
Arsenal 2-1 Newcastle
Bolton 2-0 West Brom
Everton 1-0 Portsmouth
Hull 1-1 Wigan
Middlesbrough 2-0 Stoke
West Ham 2-2 Blackburn
Aston Villa 2-1 Liverpool
Chelsea 2-0 Tottenham
Sunderland 2-1 Man City
|  | Actual results
Arsenal 3-0 Newcastle
Bolton 0-0 West Brom
Everton 0-3 Portsmouth
Hull 0-5 Wigan
Middlesbrough 2-1 Stoke
West Ham 4-1 Blackburn
Aston Villa 0-0 Liverpool
Chelsea 1-1 Tottenham
Sunderland 0-3 Man City
|
Lawro got two results right but no perfect scores. THIS WEEK'S PREDICTIONS (All kick-offs are 1500 BST unless specified) |
ทีเด็ด มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธงบอลพรีเมียร์ชิพ นัดที่ 4
ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ปัญหาที่น่าหนักใจสำหรับ ลิเวอร์พูล คือต้องลุ้นความพร้อมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ดกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เพิ่งหายเจ็บและ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องคำนวณดี ๆ ว่าจะเป็นการเสี่ยงเกินไปหรือเปล่าที่จะเข็นทั้งคู่ลงสนามทั้งที่ความฟิตไม่เต็มร้อย เพราะหลังจากแมตช์นี้แล้ว "หงส์แดง" ยังมีเกมหนักกับ โอลิมปิก มาร์กเซย รออยู่ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์หน้าด้วย
สำหรับ แมนฯยูไนเต็ด การได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาร่วมทีมนับเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมและผมคิดว่าเขาจะประสานงานกับ เวย์น รูนี่ย์ ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญ รูนี่ย์ กำลังมั่นใจภายหลังโชว์ฟอร์มสุดยอดให้กับ อังกฤษ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีนี่เป็นการเผชิญหน้าของสองทีมใหญ่ ซึ่งผลการแข่งขันนั้นมีความหมายมากกว่าเกมปกติ ทำให้ผมคิดว่าเกมอาจจะดำเนินไปด้วยความอึดอัด เพราะต่างเล่นด้วยความรัดกุมและท้ายที่สุดศึกแดงเดือดหนนี้อาจจบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีสกอร์
สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
--------------------------------------------------------------------------------
แบล็คเบิร์น -vs- อาร์เซน่อล
แบล็คเบิร์น ทำผลงานช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลได้ดี ขณะที่ทาง อาร์เซน่อล ก็น่าจับตาไม่น้อยโดยเฉพาะในรายของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ระเบิดแฮตทริกให้ทีมชาติอังกฤษ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีพลิกปูมหลัง อาร์เซน่อล มักจะเจองานหนักเสมอยามมาเยือนภาคตะวันตกเฉียงเหนือในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและผมคิดว่านัดนี้ แบล็คเบิร์น จะต้อนรับผู้มาเยือนด้วยสไตล์การเล่นอันดุดันเหมือนอย่างเคย ซึ่งการที่ขุมกำลังของ อาร์เซน่อล คับคั่งไปด้วยตัวทีมชาติที่อ่อนล้ามาจากเกมคัดบอลโลก อาจเป็นข้อเสียเปรียบและทำให้ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ เก็บได้เพียงแต้มในนัดนี้
สกอร์ที่คาด : แบล็คเบิร์น 1-1 อาร์เซน่อล
--------------------------------------------------------------------------------
ฟูแล่ม -vs- โบลตัน
ข่าวร้ายของ โบลตัน คือจะไม่มี โยฮัน เอลมานเดอร์ คีย์แมนตัวใหม่ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ทำให้พลพรรค "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ต้องเจองานที่ยากขึ้น เมื่อต้องมาเยือน ฟูแล่ม ที่แทบไม่ถูกผลกระทบจากเกมคัดบอลโลกเลย
การเข้ามาของ รอย ฮ็อดจ์สัน บวกกับการเสริมทัพแบบยกเครื่องทีม ช่วยให้ ฟูแล่ม พัฒนาขึ้นมามากและตอนนี้พวกเขาดูมีภาษีดีกว่า โบลตัน ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมา "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" มักจะมีปัญหากับเกมเยือนและในยามปราศจาก เอลมานเดอร์ แบบนี้ ผมมองไม่เห็นว่าพวกเขาจะทำประตูได้จากตรงไหน
สกอร์ที่คาด : ฟูแล่ม 2-0 โบลตัน
--------------------------------------------------------------------------------
นิวคาสเซิ่ล -vs- ฮัลล์ ซิตี้
แม้จะมีเรื่องยุ่งเหยิงเกิดขึ้นมากมายกับ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มองในแง่ดีอย่างน้อยที่สุดทัพ "เดอะ แม็กพายส์" ก็ยังมีกองเชียร์ "ทูน อาร์มี่" คอยให้การหนุนหลังอย่างเต็มที่และด้วยศักยภาพทีมแล้วเกมนี้พวกเขายังเหนือกว่า ฮัลล์ ที่เพิ่งพ่าย วีแกน คาถิ่นแบบหมดรูป 0-5 ซึ่งถ้าผมเป็นแฟน ฮัลล์ ผมคงรู้สึกกังวลกับแนวรับที่หละหลวมของทีมไม่น้อยและเกมนี้ผมมองผลการแข่งขันเป็นอื่นไม่ได้นอกจากชัยชนะของ นิวคาสเซิ่ล
สกอร์ที่คาด : นิวคาสเซิ่ล ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2-0
--------------------------------------------------------------------------------
ปอร์ทสมัธ -vs- มิดเดิ้ลสโบรช์
มิดเดิ้ลสโบรช์ โชว์ฟอร์มช่วงต้นฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมและโดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกประทับใจแนวทางการเล่นของพวกเขาที่ยกระดับความเร็วของเกมขึ้นอย่างน่าชื่นชม
ที่สำคัญ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ต้องหนักใจกับการผลิตประตูเหมือนเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกต่อไป เพราะมีศูนย์หน้าระดับพระกาฬไว้ใช้งาน 3-4 รายในทุก ๆ สัปดาห์ ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับ มิดเดิ้ลสโบรช์
อย่างไรก็ตามการมาเยือน ปอร์ทสมัธ ที่ เฟร็ตตัน ปาร์ค ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ "ปอมปีย์" น่าจะกลับมาลงสนามอย่างมั่นใจอีกครั้ง หลังจากบุกชนะ เอฟเวอร์ตัน แบบสวยหรู 3-0
เป้าหมายหลักของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์และลูกทีมคือการติดท๊อปซิกซ์ของตารางให้ได้ ซึ่งด้วยศักยภาพแล้วพวกเขามีโอกาสที่จะทำเสร็จ เพราะถึง "เดอะ โบโร่" จะพัฒนาขึ้นมามาก แต่ก็ยังขาดความลงตัวและจะว่าไปวิวัฒนาการของพวกเขานั้นคล้ายกับการเติบโตของ ปอร์ทสมัธ เมื่อ 2-3 ฤดูกาลก่อนและคาดว่า เซาธ์เกต คงต้องใช้เวลาบ่มทีมอีกพักใหญ่เลยทีเดียวกว่าจะตาม ปอมปีย์ ทัน
สกอร์ที่คาด : ปอร์ทสมัธ 2-0 มิดเดิ้ลสโบรช์
--------------------------------------------------------------------------------
เวสต์บรอมวิช -vs- เวสต์แฮม
การเข้ามาของ จานฟรังโก้ โซล่า ช่วยทำให้ เวสต์แฮม มีชีวิตชีวามากขึ้นและหลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจว่าอดีตสตาร์ทีมชาติอิตาลีจะทำหน้าที่บนแดนผู้ดีได้เหมือนเมื่อครั้งที่ยังค้าแข้งหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ปัญหาหนักอกที่ โซล่า ไม่อาจเลี่ยงได้ก็คืออาการบาดเจ็บของบรรดาตัวหลัก
ขณะที่ทาง เวสต์บรอมฯ เป็นทีมที่มีระบบทีมดี แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่สามารถจบสกอร์ได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกหนักใจแทนเหลือเกิน ดูแล้วเกมนี้ทั้งสองทีมมีปัญหาคนละแบบ
แต่กระนั้นผมมองว่า เวสต์แฮม มีภาษีดีกว่า เพราะการเข้ามาของ โซล่า น่าจะทำให้ผู้เล่น "เดอะ แฮมเมอร์ส" คึกคักและมุ่งมั่นที่จะสร้างความประทับใจในเกมประเดิมเก้าอี้ของเขา ซึ่งด้วยความเก๋าเกมบวกกับศักยภาพที่ครบเครื่องกว่าผมมองว่าเกมนี้ เวสต์แฮม มีลุ้นถึงชนะได้เลย
สกอร์ที่คาด : เวสต์บรอมวิช 1-2 เวสต์แฮม
--------------------------------------------------------------------------------
วีแกน -vs- ซันเดอร์แลนด์
ผมคิดว่าทั้งสองทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน แต่ดูเหมือนว่า ซันเดอร์แลนด์ กำลังมีปัญหาตรงที่ รอย คีน ยังไม่อาจเฟ้นหาขุมกำลังที่ดีที่สุดได้ หลังจากที่ดึงผู้เล่นมาเสริมทัพมากมายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาและคาดว่าเขาจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการหาคำตอบเหล่านั้น
ผิดกับทาง วีแกน แอธเลติก ที่กุนซือ สตีฟ บรูซ รู้จักทีมมาพักใหญ่และแก้ปัญหาด้วยการดึงผู้เล่นฝีเท้าดีมาเสริมหลายรายในช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมา โดยจุดแข็งของ วีแกน คือมีแผงกองกลางที่แข็งแกร่งและเมื่อแนวรุกได้ เอมิล เฮสกี้ กลับมาเป็นตัวหลักร่วมกับคู่ขาใหม่อย่าง อาเมียร์ ซากี้ การผลิตสกอร์ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขาอีกต่อไป
สกอร์ที่คาด : วีแกน 2-1 ซันเดอร์แลนด์
--------------------------------------------------------------------------------
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- เชลซี
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังต้องทำอะไรอีกเยอะหากหวังจะทาบรัศมีของ เชลซี เพราะ เชลซี สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ในวันที่ฟอร์มไม่ดี ซึ่งในตอนนี้ผมไม่คิดว่า แมนฯซิตี้ มีศักยภาพที่จะทำเช่นนั้นได้
ความน่าสนใจอีกอย่างคือนี่เป็นเกมเปิดตัว โรบินโญ่ ที่ยอมรับว่าย้ายออกจาก เรอัล มาดริด มาฝากอนาคตที่ ซิตี้ อ๊อฟ แมนเชสเตอร์ โดยที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ แมนฯซิตี้ เลย
เกมนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของสตาร์แซมบ้า แต่ดูแล้วคงคาดหวังอะไรยากเมื่อต้องมาเจอทีมที่แกร่งทั่วแผ่นของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือที่รู้จัก โรบินโญ่ เป็นอย่างดีและคงต้องดูกันยาว ๆ ต่อไปว่า แผนการทุ่มเงินซื้อความสำเร็จของ สุไลมาน อัลฟาฮิม จะประสบความสำเร็จหรือไม่
สกอร์ที่คาด : แมนฯซิตี้ 1-2 เชลซี
--------------------------------------------------------------------------------
