ล้วงลึกศึกพรีเมียร์ : เชลซี -vs- แมนฯ ยูไนเต็ด

เชลซี (1) -vs- แมนฯ ยูไนเต็ด (14) ....(20.00 น.)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ราคา : เชลซี ต่อ ปปลบสิบ

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - ที่ ลุซนิกี สเตเดี้ยม, เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (แมนฯ ยูฯ ชนะจุดโทษ 6-5)

พรีเมียร์ลีก - ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
                 - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

สถิติการพบกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

ฤดูกาล                    ผลการแข่งขัน
2007-2008 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
2006-2007 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 (เอฟเอ คัพ)
               เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (คาร์ลิ่ง คัพ)
               เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

เชลซี
16-09-08 ชนะ บอร์กโดซ์ 4-0 (เหย้า) (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
14-09-08 ชนะ แมนฯซิตี้ 3-1 (เยือน)
31-08-08 เสมอ สเปอร์ส 1-1 (เหย้า)
24-08-08 ชนะ วีแกน 1-0 (เยือน)
17-08-08 ชนะ ปอร์ทสมัธ 4-0 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ เชลซี : แข่ง 2 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 1 แต้ม 4

แมนฯ ยูไนเต็ด
17-09-08 เสมอ บียาร์เรอัล 0-0 (เหย้า) (แชมเปี้ยนส์ ลีก)
13-09-08 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 (เยือน)
30-08-08 แพ้ เซนิตฯ 1-2 (กลาง) (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ)
26-08-08 ชนะ พอร์ทสมัธ 1-0 (เยือน)
17-08-08 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ แมนฯยูไนเต็ด : แข่ง 2 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 2 แต้ม 3

สภาพความพร้อมล่าสุด

เชลซี

      หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ เทรนเนอร์ชาวบราซิเลี่ยนของทีม "สิงห์บูลส์" เรียกความมั่นใจก่อนพาลูกทีม ลงหวดเกมใหญ่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ได้เป็นอย่างดี หลังเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่มเอาชนะ บอร์กโดซ์ ทีมดังจากศึก ลีก เอิง ไปอย่างราบคาบ 4-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์

      แถมเกมนี้ ยังมีข่าวดี เมื่อ จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังจอมแกร่ง ได้รับการยกเลิกโทษใบแดง ในเกมลีก ที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ทำให้เตรียมกับมาประจำการเกมรับได้เหมือนเดิม ขณะที่  มิชาเอล บัลลัค จอมทัพทีมชาติเยอรมัน กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เพชฌฆาตไอวอรี่โคสต์ ที่ฟิตกลับมาพร้อมลงสนามอีกครั้ง ยังคงต้องรอโอกาสเป็น 11 ตัวจริงต่อไป เพราะเชื่อว่า "บิ๊กฟิล" ยังคงพอใจกับผู้เล่นชุดเดิมๆ ที่ทำผลงานได้ดี แต่ มิชาเอล เอสเซียง ห้องเครื่องชาวกานาที่เข่าพัง ยังต้องพักแข้งราวครึ่งปี

      คาดว่าเกมนี้ เชลซี จะเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยมี ปีเตอร์ เช็ก ยืนเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบด้วย โชเซ่ โบซิงวา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางสามประสานเป็น เดโก้, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แนวรุกมี โจ โคล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า

แมนฯ ยูไนเต็ด

       เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เนมานย่า วิดิช กองหลังตัวหลักชาวเซิร์บ ที่ติดโทษแบน หลังโดนไล่ออกในเกมลีก แพ้ลิเวอร์พูล 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ จอนนี่ อีแวนส์ กองหลังตัวรุ่ง น่าจะได้โอกาสยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ต่อไป หลังจากที่ ดาวเตะชาวไอร์แลนด์เหนือ ได้โชว์ฟอร์มมาแล้วในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ อาจหุบ เวส บราวน์ เข้ามาอยู่ตรงกลาง แล้วให้ แกรี่ เนวิลล์ เล่นแบ็กขวาแทน
 
       อย่างไรก็ตาม ทีมจะได้ พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ตัวเก๋า พ้นโทษแบน กลับคืนสู่ทีม เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับชาวโปรตุกีส ที่เพิ่งกลับมาลงเล่นได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือน ในเกมเสมอกับ บียาร์เรอัล 0-0 ทำให้ นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หรือ พาร์ค จี-ซอง อาจต้องหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองเช่นเดิม

       ส่วน ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงบัลแกเรีย น่าจะกลับมาฟิตอีกครั้ง หลังมีอาการเจ็บเข่าเล่นงานจนชวดช่วยทีมเมื่อกลางสัปดาห์  แต่ยังไม่แน่ว่า เฟอร์กี้ จะเสี่ยงส่งอดีตดาวยิงสเปอร์ส ลงสนามตั้งแต่ต้นเกมหรือไม่ ขณะที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่เจ็บข้อเท้า กับ เบน ฟอสเตอร์ โกล์ดาวรุ่ง ที่เจ็บเอ็นกล้ามเนื้อ และต้องพักยาวไปก่อนหน้านี้ ยังชวดลงสนามเช่นเดิม 

       คาดว่าเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังมี เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, จอห์น โอเช แดนกลางใช้งาน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, อันแดร์สัน, นานี่ ส่วนคู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ คาร์ลอส เตเวซ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล -  แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเกล, เดโก้ - โจ โคล, ฟลอร็องต์ มาดูด้า, โกล่าส์ อเนลก้า

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ

จับยามสามตา

       แม้ฟอร์มจะห่างกัน แต่เนื่องด้วยเป็นทีมใหญ่ทั้งคู่ จึงเชื่อว่า อะไรๆ ก็ยังเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มบู่เหลือเกิน แต่ความที่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ พวกเขาก็คงวางแผนมาเล่นเกมนี้กันเต็มสูบ ทั้งไล่บอล เข้าสกัด น่าจะถึงลูกถึงคน มากกว่าเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่ปล่อยให้ทีม "หงส์แดง" เป็นฝ่ายวิ่งไล่กวดอยู่เพียงข้างเดียว

       อย่างไรก็ตาม หากจะให้ลุ้นถึง ชนะ คงเป็นอะไรที่ลำบาก เพราะสถิติเดิมๆ ก็บ่งชัดอยู่ ขณะที่ สภาพทีมแม้จะได้ โรนัลโด้ นักเตะผู้ซึ่งเป็นทุกสิ่งทุกอย่างกลับมา แต่ก็อย่าลืมว่า เชลซี เคยปราบ แมนฯ ยูฯ ยามมี "หนูโด้" มาแล้ว และเมื่อดูสภาพทีมโดยรวม เชลซี ก็ปึ้กกว่าหลายขุม อีกทั้งฟอร์มของพวกเขาก็สุดสยดสยอง นอกจากเกมรุกจะจัดจ้าน ทีเด็ดจากลูกนิ่ง, ฟรีคิก, ตั้งเตะ ก็เหนือกว่า สงสัย งานนี้ คงเป็นทีของพลพรรค "สิงห์บูลส์" ที่จะถอนแค้นคืนจากนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นก่อน

สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0