ล้วงลึกศึกพรีเมียร์ : สโต๊ค ซิตี้ -vs- สเปอร์ส

สโต๊ค ซิตี้ (19) -vs- สเปอร์ส (20) ......(21.00 น.)
สนาม : บริทานเนีย
ราคา : สเปอร์ส ต่อ ปป

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

- ไม่ได้พบกัน

สถิติการพบกันที่ บริทานเนีย

ฤดูกาล                         ผลการแข่งขัน
1984-1985 สโต๊ก ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 0-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1983-1984 สโต๊ก ซิตี้ เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1982-1983 สโต๊ก ซิตี้ ชนะ สเปอร์ส 2-0 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1981-1982 สโต๊ก ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 0-2 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1980-1981 สโต๊ก ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 2-3 (ดิวิชั่น 1 เดิม)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

สโต๊ค ซิตี้
05-10-08 แพ้ พอร์ทสมัธ 1-2 (เหย้า)
27-09-08 แพ้ เชลซี 0-2 (เหย้า)
23-09-08 เสมอ เร้ดดิ้ง 2-2 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ 4-3) (คาร์ลิ่ง คัพ)
20-09-08 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เยือน)
14-09-08 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-3 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกของ สโต๊ค ซิตี้ : แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 5 เสีย 7 แต้ม 3

สเปอร์ส
05-10-08 แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 0-1 (เหย้า)
02-09-08 เสมอ วิสลา คราคอฟ 1-1 (เยือน) (ยูฟ่า คัพ)
28-09-08 แพ้ พอร์ทสมัธ 0-2 (เยือน)
24-09-08 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (เหย้า) (คาร์ลิ่ง คัพ)
21-09-08 เสมอ วีแกน 0-0 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ สเปอร์ส : แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 2 เสีย 5 แต้ม 1

สภาพความพร้อมล่าสุด

สโต๊ค ซิตี้

      โทนี่ พูลิส กุนซือทีม "ช่างปั้นหม้อ" ไม่น่าจะส่ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ กองหน้าตัวเก่งทีมชาติจาไมก้า ซึ่งกดไปแล้ว 3 ประตูในฤดูกาลนี้ ลงสนาม เพราะเจ้าตัวกรำศึกหนักจากการบินไปรับใช้ชาติมาทั้งสองนัดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ โอกาสจึงน่าจะตกเป็นของ มามาดี้ ซิดิเบ้ ศูนย์หน้าจอมโขก

       ส่วน อับดูลาย ฟาย ยังต้องรอทดสอบความฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย เพราะอาการบาดเจ็บโคนขาที่มาจากการเล่นให้ทีมชาติเซเนกัล แต่ อิบราฮิม่า ซงโก้ ก็พร้อมสแตนด์บายในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟอยู่แล้ว ในราย เลียม ลอว์เรนซ์ ยังต้องพักฟื้น หลังบาดเจ็บข้อเท้าพลิก ขณะที่ แอนดรูว์ เดวี่ส์ กองหลัง ต้องรอการยืนยันจากแพทย์เสียก่อน ว่าพร้อมจะกลับลงสนามหรือไม่ หลังหายเจ็บหัวเข่าแล้ว

สเปอร์ส

       ฆวนเด้ รามอส กุนซือชาวสแปนิชของ "ไก่เดือยทอง" ทีมบ๊วย ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันอย่างหนัก เพราะยังไม่ชนะทีมใดในลีกเลย สำหรับสภาพทีมนั้น รามอส ยังไม่ตัดชื่อของ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ หอกทีมชาติรัสเซีย ที่เจ็บเอ็นข้อเท้าฉีก จากเกมที่แพ้ ฮัลล์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ออกจากทีมชุดนี้ โดยจะรอดูการกลับมาซ้อมในช่วงวันเสาร์ แล้วค่อยประเมินอีกครั้งว่าจะพร้อมลงเล่นหรือไม่

       อย่างไรก็ตาม หาก พาฟลิวเชนโก้ ไม่พร้อมจริงๆ แนวรุก น่าจะเปิดโอกาสให้ เฟรเซอร์ แคมเบลล์ กองหน้าดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนล่าตาข่ายคู่กับ ดาร์เรน เบนท์ ส่วน ในรายของ เลดลี่ย์ คิง ปราการหลังกัปตันทีม ซึ่งผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในทีมตัวจริงตลอดฤดูกาลนี้ เพราะปัญหาเจ็บเข่าที่เรื้อรัง เกมนี้ น่าจะฟิตกลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โจนาธาน วู้ดเกต ได้อย่างไม่มีปัญหา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : โทมัส โซเรนเซ่น - แอนดี้ กริฟฟิน, อับดุลลาย ฟาย, ลีออน คอร์ต, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตท่อม - รอรี่ ดีแล็ป, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ไมเคิ่ล ทองก์, ออมดี้ ฟาย - เดฟ คิตสัน, มามาดี้ ซิดิเบ้

สเปอร์ส (4-4-2) : เอเรลโญ่ โกเมส - เวดราน ชอร์ลูก้า, โจนาธาน วู้ดเกต, เลดลี่ย์ คิง, แกเร็ธ เบล - เดวิด เบนท์ลี่ย์, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, เจอร์เมน จีนัส, ลูก้า โมดริช - เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์, ดาร์เรน เบนท์

จับยามสามตา

         สเปอร์ส เหนือกว่า สโต๊ก ทุกอย่าง แต่จุดใต้ตำตอเดียวของทีมในตอนนี้ ก็คือ เรื่องของความมั่นใจ และยิ่งดูพวกเขาเล่น ก็ยิ่งสังเกตเห็นว่า ไม่มีสัญญาณตอบรับกับเรื่องนี้มากนัก แถมความพ่ายแพ้ต่อ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมที่เป็นรองทุกด้าน เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ยิ่งน่าจะทำให้ไปกระทบกระเทือนใจ สเปอร์ส มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ขณะที่ สโต๊ก คงเล่นแบบไร้ความกดดัน เพราะไม่มีอะไรจะเสีย แต่เกมนี้ ได้เล่นในถิ่นของตัวเอง ทำให้พวกเขาน่าจะลงเล่นเต็มที่มากขึ้น แม้ว่าสภาพทีมจะไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าเล่นแบบระวังรัดกุมไม่เปิดแลกโฉ่งฉ่าง ดูแล้ว ผู้เล่นสเปอร์ส ซึ่งเล่นแบบมีชีวิตแต่ไม่มีชีวา ก็ยากที่จะทำอะไรพวกเขาได้

สกอร์ที่คาด : สโต๊ก ซิตี้ เสมอ สเปอร์ส 1-1