ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี (1) -vs- ลิเวอร์พูล (2) .......(20.30 น.)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ราคา : เชลซี ต่อ ครึ่งลูกลบสิบ
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2
- ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1
คาร์ลิ่ง คัพ - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
พรีเมียร์ลีก - ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์, เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
- ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1
สถิติการพบกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
2007-2008 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (คาร์ลิ่ง คัพ)
เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
2006-2007 เชลซี ชนะ ลอวเอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 (เอฟเอ คัพ)
2005-2006 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
2004-2005 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
เชลซี
22-10-08 ชนะ โรม่า 1-0 (เหย้า) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
18-10-08 ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 5-0 (เยือน)
05-10-08 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 (เหย้า)
02-10-08 เสมอ ซีเอฟอาร์ คลูจ 0-0 (เยือน) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
27-09-08 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 (เยือน)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ เชลซี : แข่ง 4 ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 2 แต้ม 8
ลิเวอร์พูล
22-10-08 เสมอ แอต.มาดริด 1-1 (เยือน) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
18-10-08 ชนะ วีแกน 3-2 (เหย้า)
05-10-08 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 (เยือน)
01-10-08 ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 3-1 (เหย้า) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
27-09-08 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 4 ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 2 แต้ม 10
สภาพความพร้อมล่าสุด
เชลซี
หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือชาวบราซิเลี่ยนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" มีน่าจะมีทางเลือกในการจัดทัพมากขึ้น เมื่อบรรดาแข้งหลักอย่างสองแข้งโปรตุกีส เดโก้ กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ รวมถึง นายทวารจอมหนึบ ปีเตอร์ เช็ก ที่ต่างก็สลัดอาการบาดเจ็บ ฟิตกลับมาลงลงสนามได้แล้วทั้งหมด ส่วน แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายตัวเก่ง ที่เจ็บเอ็นร้อยหวายและชวดช่วยทีมใน 2 เกมล่าสุด กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว และมีลุ้นออกสตาร์ทที่ม้านั่งตัวสำรอง
ขณะที่ ฌูเลียง เบลเล็ตติ แนวรับบราซิเลี่ยน ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมลีกที่ถล่ม มิดเดิ้ลสโบรช์ 5-0 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ก็หวังได้รับโอกาสให้กลับลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังเป็นได้แค่ตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เบียดชนะ โรม่า 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ในรายของ โจ โคล ปีกตัวจี๊ด, มิชาเอล เอสเซียง ห้องเครื่องชาวกานา, มิชาเอล บัลลัค จอมทัพชาวเยอรมัน และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หอกชาวไอวอรี่โคสต์ ยังคงหมดสิทธิ์บู๊ต่อไป เพราะยังไม่หายเจ็บ
ลิเวอร์พูล
ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชาวสแปนิชของ "หงส์แดง" ยังต้องรอเช็กความฟิตของสามดาวดังที่ถูกเปลี่ยนตัวออก ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เสมอกับ แอต.มาดริด 1-1 เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากมีอาการเดี้ยงรบกวน ซึ่งได้แก่ สวีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมที่มีอาการล้า, ร็อบบี้ คีน หอกไอริช ที่เจ็บขาหนีบ และ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางสแปนิช ที่เจ็บเข่า
ขณะที่ เดิร์ค เค้าท์ ดาวยิงชาวดัตช์ ที่โดนดร็อปในเกมกับ แอต.มาดริด น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงไม่มี เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งทีมชาติสเปน ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า รวมถึง มาร์ติน สเคอร์เทล เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติสโลวาเกียเจ็บเข่าอย่างหนัก ต้องพักยาวถึงช่วงคริสต์มาส และ ฟิลิปป์ เดเก้น ฟูลแบ็กชาวสวิส ยังมีอาการซี่โครงร้าวเล่นงานอยู่ เช่นเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-1-3-2) : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, เวย์น บริดจ์ - จอห์น โอบี มิเกล - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดโก้, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - โซโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ่ เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, อันเดรียส ดอสเซน่า - อัลเบิร์ต ริเอร่า, ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด - เดิร์ค เค้าท์, ร็อบบี้ คีน
จับยามสามตา
คู่นี้ เจอกันค่อนข้างบ่อยในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยบทสรุปของเกม มักจะเป็นฝ่ายเชลซี ชนะ หรือ เสมอ เป็นส่วนใหญ่ หากว่าได้เล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดังนั้น แม้ว่าฟอร์มทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงเข้าฝักเหมือนกัน โดยเฉพาะเกมรุก อย่างไรก็ตาม ก็ดูจะเป็น เชลซี ที่มีภาษีที่จะเป็นผู้ชนะมากกว่า ทั้งจากการได้เล่นในถิ่น และฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา
นอกจากนี้ จุดแข็งของทีม "สิงห์บูลส์" ที่ ลิเวอร์พูล ไม่มีในชั่วโมงนี้ ก็คือ เกมรับอันเหนียวแน่น และยิ่งเจ้าถิ่นมี คาร์วัลโญ่ มาจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับ เทอร์รี่ ได้ด้วยแล้ว ย่อมทำให้เกมรับปึ้กขึ้นไปอีก ขณะที่ ทีมเยือน จะเห็นได้ว่า แนวรับค่อนข้างหละหลวม เสียประตูแทบทุกนัด ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อว่า คงเป็น เชลซี ที่อาศัยข้อได้เปรียบที่กล่าวมานี้ คว้าชัยมาครองได้ในที่สุด
สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
26 / 10 / 2008 17:34