ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ (10) -vs- สโต๊ค ซิตี้ (18) .......(22.00 น.)
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
ราคา : แมนฯซิตี้ ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
- ไม่ได้พบกัน
สถิติการพบกันที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
1998-1999 แมนฯ ซิตี้ ชนะ สโต๊ก ซิตี้ 2-1 (ลีก วัน)
1997-1998 แมนฯ ซิตี้ แพ้ สโต๊ก ซิตี้ 0-1 (แชมเปี้ยนชิพ)
1996-1997 แมนฯ ซิตี้ ชนะ สโต๊ก ซิตี้ 2-0 (แชมเปี้ยนชิพ)
1982-1983 แมนฯ ซิตี้ ชนะ สโต๊ก ซิตี้ 1-0 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1981-1982 แมนฯ ซิตี้ เสมอ สโต๊ก ซิตี้ 1-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
แมนฯ ซิตี้
20-10-08 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 2-2 (เยือน)
05-10-08 แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 (เหย้า)
02-10-08 ชนะ โอโมเนีย นิโคเซีย 2-1 (เหย้า) (ยูฟ่า คัพ)
28-09-08 แพ้ วีแกน 2-1 (เยือน)
24-09-08 เสมอ ไบรตัน 2-2 (เยือน) (แพ้จุดโทษ 3-5) (คาร์ลิ่ง คัพ)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกของ แมนฯ ซิตี้ : แข่ง 4 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 12 เสีย 6 แต้ม 6
สโต๊ค ซิตี้
19-10-08 ชนะ สเปอร์ส 2-1 (เหย้า)
05-10-08 แพ้ พอร์ทสมัธ 1-2 (เยือน)
27-09-08 แพ้ เชลซี 0-2 (เหย้า)
23-09-08 เสมอ เร้ดดิ้ง 2-2 (เหย้า) (ชนะจุดโทษ 4-3) (คาร์ลิ่ง คัพ)
20-09-08 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เยือน)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ สโต๊ค ซิตี้ : แข่ง 4 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 3 ได้ 3 เสีย 7 แต้ม 1
สภาพความพร้อมล่าสุด
แมนฯ ซิตี้
มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" จะยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ไมกาห์ ริชาร์ด ปราการหลังตัวแกร่ง ที่มีอาการบาดเจ็บข้อเท้า มาจากเกมลีกที่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 2-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน หากไม่ผ่าน เนดุม โอนูโอฮา ดาวเตะทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 จะได้โอกาสลงสนามแทนในตำแหน่งแบ็กขวา แต่ในรายของ มาร์ติน เปตรอฟ, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, วาเลรี่ โบยินอฟ, ดาริอุส วาสเซลล์ และ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด จะพลาดลงสนามแน่นอน เช่นเดียวกับ ปาโบล ซาบาเลต้า แบ็กขวาทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่จะติดโทษแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 นัด
สโต๊ค ซิตี้
โทนี่ พูลิส กุนซือทีม "ช่างปั้นหม้อ" เตรียมส่ง ไรอัน ชอว์ครอสส์ ปราการหลังดาวรุ่ง ลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากต้องนั่งยาวที่ข้างสนาม ตั้งแต่จบเกมแพ้ โบลตัน 1-3 ในนัดเปิดซีซั่น เป็นต้นมา โดยแข้งวัย 21 ปี จะทำหน้าที่เซนเตอร์ฮาล์ฟ แทน อิบราฮิม ซงโก้ แข้งเซเนกัล ที่บาดเจ็บ ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ โทมัส โซเรนเซ่น โกล์มือ 1 ที่คิ้วแตกจากเกมลีกที่ชนะ สเปอร์ส 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน จนต้องเย็บถึง 15 เข็ม แต่โอกาสชวดค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม ในรายของ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ดาวยิงทีมชาติจาเมก้า น่าจะได้กลับมาลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริงอีกครั้ง ภายหลังได้พักแข้งในเกมกับ สเปอร์ส ทำให้ มามาดี้ ซิดิเบ้ ศูนย์หน้าชาวมาลี หรือ เดฟ คิตสัน หอกร่างยักษ์ จะต้องกระเด็นไปเป็นตัวสำรองคนหนึ่ง ส่วน เลียม ลอว์เรนซ์ กับ แอนดรูว์ เดวี่ส์ กองหลัง ยังต้องพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และ เข่า ตามลำดับ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-4-2) : โจ ฮาร์ท - เนดุม โอนูโอฮา, ทาล เบน อาฮิม, ริชาร์ด ดันน์, ฆาเบียร์ การ์รีโด้ - ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ดีทมาร์ ฮาร์มันน์ - โรบินโญ่, โช
สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : สตีฟ ซิมอนเซ่น - แอนดี้ กริฟฟิน, ออมดี้ ฟาย, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตท่อม - ทอม ซัวเรส, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ซาลิฟ ดิเยา, รอรี่ ดีแล็ป - ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, มามาดี้ ซิดิเบ้
จับยามสามตา
แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มแผ่วมาหลายนัด เกมนี้ จำเป็นต้องเน้นเต็มพิกัด เพราะได้เล่นในถิ่นตัวเอง แถมผู้มาเยือนอย่าง สโต๊ก ก็เป็นทีมที่ศักยภาพด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยแม้ว่า สภาพทีมของเจ้าถิ่น ดูจะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนมากกว่า ทีมเยือน แต่ทว่าขุมกำลังที่เหลืออยู่ รวมถึงอะไหล่ที่เข้ามาทดแทน ก็ยังดูดีกว่าพอสมควร ซึ่งหาก มาร์ค ฮิวจ์ส กำชับลูกทีมให้เกมรับเล่นรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิม ก็มีโอกาสที่พวกเขา จะใช้เกมรุกที่จัดจ้านอยู่แล้ว ระดมทุบหม้อให้แตกละเอียดได้เช่นกัน
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ สโต๊ก ซิตี้ 3-0