ทีเด็ด พรีเมียร์ลีก : สโต๊ค ซิตี้ -vs- ฮัลล์ ซิตี้

สโต๊ค ซิตี้ (14) -vs- ฮัลล์ ซิตี้ (6) ......(22.00 น.)
สนาม : บริทานเนีย
ราคา : สโต๊ค ต่อ บวกสิบ

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แชมเปี้ยนชิพ - ที่ เคซี สเตเดี้ยม, เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 1-1
                   - ที่ บริทานเนีย, สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1

สถิติการพบกันที่ บริทานเนีย

ฤดูกาล                    ผลการแข่งขัน
2007-2008 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1 (แชมเปี้ยนชิพ)
2006-2007 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1 (แชมเปี้ยนชิพ)
2005-2006 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 0-3 (แชมเปี้ยนชิพ)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

สโต๊ค ซิตี้
22-11-08 ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (เหย้า)
15-11-08 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-5 (เยือน)
11-11-08 ชนะ ร็อตเธอร์แฮม 2-0 (เหย้า) (คาร์ลิ่ง คัพ)
08-11-08 เสมอ วีแกน  0-0 (เยือน)
01-11-08 ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ สโต๊ค ซิตี้ : แข่ง 7 ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 11 เสีย 9 แต้ม 15

ฮัลล์ ซิตี้
22-11-08 เสมอ พอร์ทสมัธ 2-2 (เยือน)
16-11-08 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2 (เหย้า)
08-11-08 แพ้ โบลตัน 0-1 (เหย้า)
01-11-08 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-4 (เยือน)
29-10-08 แพ้ เชลซี 0-3 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ฮัลล์ ซิตี้ : แข่ง 6 ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 14 เสีย 9 แต้ม 13

สภาพความพร้อมล่าสุด

สโต๊ค ซิตี้ 

          โทนี่ พูลิส กุนซือ "เดอะ พ็อตเตอร์" มีข่าวดีเมื่อจะได้ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ กองหน้าดาวซัลโว 5 ประตูของทีม พ้นโทษแบน 1 นัด กลับมาเป็นทีเด็ดในแดนหน้าได้อีกครั้ง โดยน่าจะได้จับคู่กับ มามาดู ซิเดเบ้ ดาวยิงชาวมาลี ส่วน แอนดรูว์ กริฟฟิน กองหลังกัปตันทีม ที่มีอาการเจ็บมือ ยังน่าจะพร้อมลงเล่นได้ตามปกติ

          อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอเช็กความฟิตของ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ปราการหลังดาวรุ่ง ที่เจ็บหลัง กับ เดฟ คิตสัน กองหน้าร่างยักษ์ ที่เจ็บเข่า มาจากเกมลีกที่ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 นอกนั้นในตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร โดย เลียม ลอว์เรนซ์ มิดฟิลด์ที่เจ็บข้อเท้า กับ แอนดรูว์ เดวิส กองหลังดาวรุ่งที่เจ็บเข่า ยังเป็นสองนักเตะที่ยังชวดลงสนามเหมือนเดิม

ฮัลล์ ซิตี้

       ฟิล บราวน์ กุนซือ ฮัลล์ ซิตี้ น้องใหม่พรีเมียร์ลีก ยังต้องรอเช็กความฟิตของ แอนดี้ ดอว์สัน แบ็กซ้ายตัวจริงที่เจ็บส้นเท้า จนชวดลงสนามไปแล้ว 2 นัดหลังสุด ซึ่งหากไม่ผ่านมาอีก แซม ริคเก็ตต์ ก็จะได้ทำหน้าที่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ทีมอาจได้ คาเล็บ โฟลัน กองหน้าที่เจ็บเข่า กลับมาพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง แม้นักเตะจะมีปัญหาที่เข่าจนพลาดลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมก็ตาม 

       ขณะที่ สเตลิออส ยานนาโคปูลอส, นิค บาร์มบี้ และ ดีน วินดาสส์ สามผู้เล่นตัวเก๋า น่าจะต้องรอโอกาสที่ข้างสนามเช่นเดิม ส่วน เวย์น บราวน์ กองหลังที่เพิ่งกลับมาสมทบทีม หลังถูกปล่อยตัวให้ เปรสตัน ยืมตัวไปใช้งาน ก็มีชื่อติดโผทันที แต่ในรายของ แบร์กนาร์ เมนดี้ แบ็กขวาฝรั่งเศสที่เจ็บเข่า, แอนโธนี่ การ์ดเนอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บต้นขา และ เคร็ก เฟแกน กองหน้าที่ขาหัก ยังชวดลงสนามต่อไป แต่คงไม่เป็นปัญหาเพราะไม่ใช่แกนหลักแต่อย่างใด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : โธมัส โซเรนเซ่น - แอนดรูว์ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ ฮิกกิ้นบอตท่อม - รอรี่ ดีแล็ป, ทอม ซัวเรส, ซาลิฟ ดิเยา, ออมดี้ ฟาย - มามาดี้ ซิดิเบ้, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์

ฮัลล์ ซิตี้ (4-3-1-2) : โบอาซ มายฮิลล์ - พอล แม็คเชน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, คามิล ซายัตเต้, แซม ริกเก็ตต์ - ดีน มาร์นี่ย์, เอียน แอชบี้, จอร์จ บัวเต็ง - โจวานนี่ - ดาเนี่ยล กูแซ็ง, มาร์ลอน คิง

จับยามสามตา

         เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองทีมจากแชมเปี้ยนชิพที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมา ทำให้คาดว่า คงใส่กันไฟแลบไม่แพ้เกมดาร์บี้แมตช์ไหนๆ แต่โมเมนตัมความได้เปรียบก็ต้องให้เกียรติเจ้าถิ่นอย่าง สโต๊ค เขาหน่อย เพราะพวกเขาทำผลงานเกมเหย้าได้ค่อนข้างแข็งแกร่ง ชนะไปถึง 5 จาก 7 เกม แต่ก็อย่าลืมว่าทางฝั่ง ฮัลล์ ซิตี้ ก็โชว์ฟอร์มเกมเยือนได้ไม่ขี้เหร่อะไร แถมสภาพทีมและสถิติการพบกันที่ผ่านมา ขุนพล "เดอะไทเกอร์ส" ก็มักจะบุกมาสร้างความลำบากให้กับ เจ้าถิ่นได้แทบทุกครั้ง เพราะฉะนั้น จึงเชื่อว่า ฮัลล์ ยังมีดีพอที่จะบุกมายันเสมอได้เป็นอย่างน้อย
 
สกอร์ที่คาด : สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1, แพ้ 1-2