ทีเด็ด พรีเมียร์ลีก : แบล็คเบิร์น -vs- ลิเวอร์พูล

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (19) -vs- ลิเวอร์พูล (1) .....(22.00 น.)
สนาม : อีวู้ด พาร์ค
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งควบลูกลบสิบ

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

พรีเมียร์ลีก - ที่ อีวู้ด พาร์ค, แบล็คเบิร์น เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
              - ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล ชนะ แบล็คเบิร์น 3-1

สถิติการพบกันที่ อีวู้ด พาร์ค

ฤดูกาล                    ผลการแข่งขัน
2007-2008 แบล็คเบิร์น เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (พรีเมียร์ลีก)
2006-2007 แบล็คเบิร์น ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 แบล็คเบิร์น แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 แบล็คเบิร์น เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 แบล็คเบิร์น แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (พรีเมียร์ลีก)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
03-12-08 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 5-3 (เยือน) (คาร์ลิ่ง คัพ)
30-11-08 แพ้ พอร์ทสมัธ 2-3 (เยือน)
23-11-08 แพ้ สเปอร์ส 0-1 (เยือน)
15-11-08 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (เหย้า)
12-11-08 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 (เยือน) (คาร์ลิ่ง คัพ)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ แบล็คเบิร์น : แข่ง 7 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 4 ได้ 4 เสีย 12 แต้ม 5

ลิเวอร์พูล
01-11-08 เสมอ เวสต์แฮม 0-0 (เหย้า)
26-11-08 ชนะ มาร์กเซย 1-0 (เหย้า) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
22-11-08 เสมอ ฟูแล่ม 0-0 (เหย้า)
15-11-08 ชนะ โบลตัน 2-0 (เยือน)
12-11-08 แพ้ สเปอร์ส 2-4 (เยือน) (คาร์ลิ่ง คัพ)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 7 ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 10 เสีย 4 แต้ม 16

สภาพความพร้อมล่าสุด

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 

       พอล อินซ์ กุนซือผิวสีของ "กุหลาบไฟ" ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน กองกลางออสซี่ และ โรเก้ ซานตา ครูซ กองหน้าตัวเก่ง อีกครั้ง หลังทั้งคู่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-5 แต่ ซูรับ คิซานิชวิลี่ กองหลังชาวจอร์เจีย หมดสิทธิ์แน่นอน เพราะเจ็บโคนขาหนีบ

       อย่างไรก็ตาม คริสโตเฟอร์ แซมบ้า เซ็นเตอร์แบ๊กอีกราย หายป่วยทันเวลา นอกจากนี้ คีธ แอนดรูว์ส กองกลางไอริชที่ไม่ได้ลงทะเบียนเล่น คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ ก็พร้อมเป็นตัวเลือกให้ที่ได้อีกครั้ง แต่สำหรับพวกที่ยังเดี้ยงยาวอยู่อย่าง วินซ์ เกรลล่า (น่อง), เดวิด ดันน์ (เอ็นร้อยหวาย) และ สตีเว่น รีด (หัวเข่า) ยังต้องพักแข้งต่อไป

       ขณะที่ สตีเฟ่น วอร์น็อค กองหลังดาวรุ่ง กับ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กองหน้าตัวเก๋า ซึ่งเคยเป็นอดีตดาวเตะ "หงส์แดง" มาก่อน เกมนี้ ก็มีลุ้นได้ลงหวดกับต้นสังกัดเก่าเช่นกัน

ลิเวอร์พูล

         ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชาวสแปนิชของ "หงส์แดง" ต้องชวดใช้บริการ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ที่มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าซ้ำ มาจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เอาชนะ มาร์กเซย ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ทำให้ต้องพักไปจนถึงหลังช่วงคริสมาสต์ นั่นหมายความ ร็อบบี้ คีน ดาวยิงปืนฝืดชาวไอริช น่าจะได้โอกาสแก้ตัวอีกครั้ง หลังทำได้น่าผิดหวังในเกมที่เสมอกับ เวสต์แฮม 0-0

         ขณะที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ ยังเจ็บน่องแบ๊กซ้ายบราซิล ยังเจ็บน่อง ทำให้ อันเดรีย ดอสเซน่า แข้งอิตาเลี่ยน เตรียมประจำการต่อไป แต่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่องอาร์เจนไตน์ พร้อมรีเทิร์นสู่แดนกลาง หลังได้พักในเกมกับ เวสต์แฮม เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ ปราการหลังทีมชาติเดนมาร์ก ก็น่าจะได้เป็นตัวจริง ทำให้ ซามี่ ฮูเปีย แนวรับตัวเก๋า ต้องกลับไปเป็นสำรองเช่นเดิม ส่วน มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังสโลวีเกีย กับ ฟิลิปป์ เดเก้น ฟูลแบ็กสวิส ยังไม่หายเดี้ยง 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (4-4-2) : พอล โรบินสัน - อังเดร ออยเยอร์, ไรอัน เนลเซ่น, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, มาร์ติน โอลส์สัน - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเฟ่น วอร์น็อค, มอร์เท่น กัมท์ส พีเดอร์เซ่น - เบนนี่ แม็คคาร์ธี่, โรเก้ ซานตา ครูซ
 
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, อันเดรีย ดอสเซน่า - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า - ร็อบบี้ คีน

จับยามสามตา :

         แบล็คเบิร์น สถานการณ์ไม่ดีเลย แพ้มา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ทั้งๆ ที่ สภาพทีมก็ไม่ได้มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติมร้ายแรงอะไร ดังนั้น เกมนี้ อุตส่าห์ได้กลับมาตั้งหลักเล่นในบ้าน พวกเขาก็คงต้องทำผลงานกันสุดกำลังกันหน่อย หากไม่อยากกำพร้าผู้จัดการทีม ขณะที่ พอล อินซ์ ก็ต้องวางแผนมารับมือกับจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล แบบสุดชีวิตเช่นกัน โดยมีตำแหน่งเก้าอี้นายใหญ่ถิ่น อีวู้ด พาร์ค เป็นประกัน ทำให้เชื่อว่า เกมนี้ แบล็คเบิร์น น่าจะสร้างความลำบากให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ไม่น้อยเช่นกัน จากสไตล์การเล่นที่หนักหน่วงและดุดัน (เพิ่มขึ้นกว่าเดิม) อีกทั้ง ทีมเยือน เองก็กำลังฟอร์มแผ่วๆ ลงไป โดยเฉพาะเกมรุก ที่ยังคงไว้ใจอะไรไม่ได้กับสิงห์ปืนฝืดอย่าง ร็อบบี้ คีน ดังนั้น หาก แบล็คเบิร์น เล่นแบบวิ่งสู้ฟัดเต็มที่ มีหวัง ลูกทีมของ "เอล ราฟา" คงต้องได้นั่งเป่าปากกันทีเดียว

สกอร์ที่คาด : แบล็คเบิร์น เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1, ชนะ 1-0