ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี้ (13) -vs- ฟูแล่ม (9) ......(22.00 น.)
สนาม : บริททานเนีย
ราคา : เสมอ สโต๊ค
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
- ไม่ได้พบกับ
สถิติการพบกันที่ บริททานเนีย
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
1998-1999 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ฟูแล่ม 0-1 (ลีก วัน)
1967-1968 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ฟูแล่ม 0-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1966-1967 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ฟูแล่ม 1-2 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1965-1966 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ฟูแล่ม 3-2 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1964-1965 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ฟูแล่ม 3-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
สโต๊ค ซิตี้
06-11-08 เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 2-2 (เหย้า)
02-11-08 แพ้ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ 0-1 (เหย้า) (คาร์ลิ่ง คัพ)
29-11-08 เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 1-1 (เหย้า)
22-11-08 ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (เหย้า)
15-11-08 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-5 (เยือน)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ สโต๊ค ซิตี้ : แข่ง 8 ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 12 เสีย 10 แต้ม 16
ฟูแล่ม
06-12-08 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (เหย้า)
29-11-08 เสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 (เยือน)
22-11-08 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เยือน)
15-11-08 ชนะ สเปอร์ส 2-1 (เหย้า)
09-11-08 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ฟูแล่ม : แข่ง 7 ชนะ 0 เสมอ 3 แพ้ 4 ได้ 2 เสีย 6 แต้ม 3
สภาพความพร้อมล่าสุด
สโต๊ค ซิตี้
โทนี่ พูลิส กุนซือของ "ช่างปั้นหม้อ" ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ลอรี่ ดีแล็ป มิดฟิลด์จอมทุ่มไกล ที่เจ็บแขนจนต้องฉีดยาระงับ โดยมี ไมเคิ่ล ทองก์ หรือ ทอม ซัวเรส รอสแตนด์บายอยู่แล้ว นอกจากนี้ ทีมก็ยังต้องลุ้นว่า ซาลิฟ ดิเยา มิดฟิลด์ เซเนกัล ที่เจ็บน่อง มาจากเกมที่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 2-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน จะฟิตทันลงสนามในเกมนี้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ทันจริงๆ ก็จะเป็นโอกาสของ เกล็นน์ วีแลน ที่ได้ทำหน้าที่แทน
ส่วน ไรอัน ชอว์ครอสส์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ตัวหลัก ยังไม่พร้อมลงเล่น แม้ว่าจะสลัดอาการบาดเจ็บที่หลัง กลับมาฝึกซ้อมได้แล้วก็ตาม เนื่องจากจะคงต้องเรียกความฟิตอีกซักระยะ ในรายของ เดฟ คิตสัน กองหน้าร่างยักษ์ ที่เจ็บเข่า, เลียม ลอว์เรนซ์ มิดฟิลด์ที่เจ็บข้อเท้า กับ แอนดรูว์ เดวิส กองหลังดาวรุ่งที่เจ็บเข่า ยังคงชวดเหมือนเดิม
ฟูแล่ม
รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือของทีม "เจ้าสัวน้อย" ยกพลมาบุกถิ่น บริททานเนีย ด้วยสภาพทีมที่พร้อมสุดขีด เนื่องจากไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติม ไปจากแข้งที่เจ็บยาวอยู่ก่อนแล้วอย่าง ดิโอม็องซี่ กามาร่า ดาวยิงเซเนกัล กับ อันดรานิค เตย์มูเรียน เซนเตอร์แบ็คชาวอิหร่าน
นอกนั้นไม่มีอะไรหนักใจ โดยคาดว่า ฮ็อดจ์สัน จะยังยึดผู้เล่นจากเกมที่เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน ลงเล่นต่อไป โดยเฉพาะแผงแบ็กโฟร์ที่กำลังลงตัว อย่าง อารอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี้, เบรเด้ ฮันเดลันด์ และ จอห์น แพนท์ซิล ส่วนคู่หัวหอกยังคงเป็น บ็อบบี้ ซาโมร่า กับ แอนดี้ จอห์นสัน เช่นเดิม แม้จะไม่ค่อยผลิตสกอร์ให้ทีมมาสองนัดติดต่อกันแล้วก็ตาม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : โทมัส โซเรนเซ่น - แอนดี้ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, ลีออน คอร์ต, แดนนี่ ฮิกกิ้นบอตธ่อม - ซาลิฟ ดิเยา, ลอรี่ ดีแล็ป, เซยี่ โอโลฟินยาน่า, ออมดี้ ฟาย - มามาดู ซิดิเบ้, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
ฟูแล่ม (4-4-2) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - จอห์น แพนท์ซิล, เบรเด้ ฮังเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี้ - คลิ้นต์ เดมพ์ซี่ย์, จิมมี่ บุลลาร์ด, แดนนี่ เมอร์ฟี่, ไซม่อน เดวิส - แอนดี้ จอห์นสัน, บ๊อบบี้ ซาโมร่า
จับยามสามตา
ต้องยอมรับเลยว่า สโต๊ค ซิตี้ เล่นได้ดีจริงๆ ยามที่ปักหลักในถิ่นของตัวเอง เพราะฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ฟูแล่ม จะบุกมาขโมยแต้มกลับออกไป เนื่องจาก ผลงานเกมเยือนฟูแล่ม เอง ก็ไม่ได้ถือว่า ดีเด่นอะไร แม้ว่า เกมนี้ ฟูแล่ม จะมีสภาพทีมจะพร้อมสมบูรณ์กว่า เจ้าถิ่น ก็ตาม แต่เมื่อดูหัวจิตหัวใจของผู้เล่น ทีม "ช่างปั้นหม้อ" ที่แสดงให้เห็นในหลายๆ เกม ก็อดไม่ได้ที่จะเชียร์พวกเขา ในวันนี้
สกอร์ที่คาด : สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ฟูแล่ม 1-0, 2-1
13 / 12 / 2008 15:24