ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
นิวคาสเซิ่ล (12) -vs- ลิเวอร์พูล (1) .....(19.00 น.)
สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งลูกบวกสิบ
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก - ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค, นิวคาสเซิ่ล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
- ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0
สถิติการพบกันที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
2007-2008 นิวคาสเซิ่ล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (พรีเมียร์ลีก)
2006-2007 นิวคาสเซิ่ล ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 นิวคาสเซิ่ล แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 นิวคาสเซิ่ล ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 นิวคาสเซิ่ล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
นิวคาสเซิ่ล
26-12-08 แพ้ วีแกน 1-2 (เยือน)
21-12-08 ชนะ สเปอร์ส 2-1 (เหย้า)
14-12-08 ชนะ ปอร์ทสมัธ 3-0 (เยือน)
06-12-08 เสมอ สโต๊ค 2-2 (เหย้า)
29-11-08 เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-0 (เยือน)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ นิวคาสเซิ่ล : แข่ง 9 ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 15 เสีย 12 แต้ม 15
ลิเวอร์พูล
26-12-08 ชนะ โบลตัน 3-0 (เหย้า)
21-12-08 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (เยือน)
13-12-08 เสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 2-2 (เหย้า)
09-12-08 ชนะ พีเอสวี 3-1 (เยือน) (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
06-12-08 ชนะ แบล็คเบิร์น 3-1 (เยือน)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 9 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 14 เสีย 6 แต้ม 20
ความพร้อมล่าสุด
นิวคาสเซิ่ล
ทีม "สาลิกาดง" ภายใต้การนำทัพของผู้จัดการทีม โจ คินเนียร์ เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายคน หลังเกมลีกที่ บุกไปแพ้ วีแกน 1-2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยแนวรุก จะไม่มี มาร์ค วิดูก้า กองหน้าออสซี่ ที่บาดเจ็บขาหนีบ ทำให้ แอนดรูว์ คาร์โรลล์ กองหน้าดาวรุ่ง อาจได้โอกาสยืนล่าตาข่ายคู่กับ ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตซูเปอร์สตาร์ลูกหม้อของ ทีม "หงส์แดง" ในฐานะที่ 2 กองหน้ารุ่นพี่ อย่าง โอบาเฟมี่ มาร์ติน กับ โชล่า อเมบี้ เพิ่งหายเจ็บกลับมา
แนวรับ ก็จะไม่มี โฆเซ่ เอ็นริเก้ แบ็กซ้ายตัวหลัก ที่เจ็บน่อง ระหว่างอบอุ่นร่างกาย ก่อนเกมดังกล่าว รวมถึง ฮาบิ๊บ เบย์ กองหลังเซเนกัล ที่ถูกหาบส่งโรงพยาบาล หลังปะทะหนักกับ ลี คัตเทอร์โมล ผู้เล่นของ "เดอะลาติกส์" นอกจากนี้ เซบาสเตียง บาสซง แข้งชาวฝรั่งเศส ก็จะติดโทษแบนอีกคน ส่วนในรายของ โจอี้ บาร์ตัน มิดฟิลด์เลือดร้อน ที่เจ็บเข่า, อลัน สมิธ กองหน้า ที่เจ็บเท้า และ อิ๊กนาซิโอ กอนซาเลซ ดาวรุ่งชาวสเปน ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย ยังหมดสิทธิ์ลงสนามต่อไป
ลิเวอร์พูล
"เอล บอส" ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีม "หงส์แดง" ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก น่าจะสมบูรณ์ พร้อมคุมทัพที่ข้างสนามอีกครั้ง หลังต้องนั่งดูลูกทีมเล่นบนสแตนด์ในเกมถล่ม โบลตัน 3-0 หลังจากเข้ารับการผ่าตัดก้อนนิ่วในไต เมื่อสองสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ ยังอาจใส่ชื่อของ "เอล นินโญ่" เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม ซึ่งไม่มีชื่อในเกมกับ "เดอะทร็อตเตอร์ส" ในวันนี้ หลังนักเตะหายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาแล้ว แต่คาดว่าจะออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรองไปก่อน
ส่วน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ห้องเครื่องอาร์เจนไตน์ อาจได้ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกมอีกครั้ง ภายหลังได้พักแข้งเป็นตัวสำรองในนัดที่ ถล่ม โบลตัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ในรายของ ลูคัส เลว่า มิดฟิลด์ดาวรุ่งบราซิเลี่ยน ยังคงเป็นได้แค่ตัวสำรองต่อไป ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม อาจถูกดันจากตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ให้ขึ้นเป็นเล่นเป็นหน้าต่ำ สนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ร็อบบี้ คีน หอกไอริช ที่เหมาสองประตูในเกมล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ในรายของ อัลวาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็กสแปนิช ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ทำให้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ยังต้องถูกโยกให้ไปเล่นเป็นแบ็กขวา ส่วน ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ แนวรับเดนมาร์ก ก็จะได้โอกาสยืนเป็นคู่ปราการหลังตัวกลาง ร่วมกับ ซามี่ ฮูเปีย กองหลังตัวเก๋าชาวฟินแลนด์ ในฐานะที่ มาร์ติน สเคอร์เคล เซ็นเตอร์ฮาฟจอมแกร่ง ยังไม่หายเจ็บเข่า
รายชื่อ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น - ดาวิด เอ็ดการ์, อาบิบ เบย์, สตีเว่น เทย์เลอร์, ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย - โฆนาส กูเตียร์เรซ, แดนนี่ กัทธรี่, นิคกี้ บัตต์, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ - ไมเคิ่ล โอเว่น, แอนดรูว์ คาร์โรลล์
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : เปเป้ เรน่า - เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ชาบี อลอนโซ่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า - ร็อบบี้ คีน
จับยามสามตา :
ทีม "หงส์แดง" กำลังคึกคัก โดยเฉพาะในส่วนของเกมรุกที่ ร็อบบี้ คีน เริ่มเรียกความมั่นใจและฟอร์มการเล่นเดิมๆ กลับมาได้แล้ว หลังจากยิงต่อเนื่องมาหลายเกมติด ดังนั้น แม้เกมนี้ พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายออกมาเยือน แต่ก็ถือว่าน่าจะผ่านได้ไม่มีปัญหา เนื่องจาก เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล สภาพทีมมีปัญหาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมรับ ที่เสียแข้งตัวหลักไปหลายคน นอกจากนี้ เกมรุก ก็ฝากความหวังกับ ไมเคิ่ล โอเว่น ได้เพียงคนเดียว ซึ่งดูแล้วคงไม่เพียงพอที่จะกดดันแนวรับที่ค่อนข้างเหนียวแน่นของทีมเยือน ดังนั้น จึงเชื่อว่า วันนี้ "เครื่องจักรสีแดง" คงได้เดินเครื่องต่อไป
สกอร์ที่คาด : นิวคาสเซิ่ล แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2