ทีเด็ด พรีเมียร์ลีก : สโต๊ค ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สโต๊ค ซิตี้ (18) -vs- ลิเวอร์พูล (1) .....(00.30 น.)
สนาม : บริททานเนีย สเตเดี้ยม
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง

ผลการพบกันในฤดูกาลนี้

พรีเมียร์ลีก - ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

- ไม่ได้พบกัน

สถิติการพบกันที่ บริททานเนีย

ฤดูกาล                    ผลการแข่งขัน
1984-1985 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1983-1984 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1982-1983 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1981-1982 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 (ดิวิชั่น 1 เดิม)
1980-1981 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (ดิวิชั่น 1 เดิม)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

สโต๊ค ซิตี้
03-01-09 แพ้ ฮาร์ทลี่พูล 0-2 (เยือน) (เอฟเอ คัพ)
28-12-08 แพ้ เวสต์แฮม 1-2 (เยือน)
26-12-08 แพ้ แมนฯ ยูฯ 0-1 (เหย้า)
20-12-08 แพ้ แบล็คเบิร์น 0-3 (เยือน)
13-12-08 เสมอ ฟูแล่ม 0-0 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ สโต๊ค ซิตี้ : แข่ง 10 ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 3 ได้ 12 เสีย 11 แต้ม 17

ลิเวอร์พูล
03-01-09 ชนะ เปรสตัน 2-0 (เยือน) (เอฟเอ คัพ)
28-12-08  ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-1 (เยือน)
26-12-08  ชนะ โบลตัน  3-0 (เหย้า)
21-12-08  เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (เยือน)
13-12-08  เสมอ ฮัลล์   2-2 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 10 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 19 เสีย 7 แต้ม 23

สภาพความพร้อมล่าสุด
 
สโต๊ค ซิตี้

     โทนี่ ฟูลิส เทรนเนอร์ของทัพ "ช่างปั้นหม้อ" เตรียมส่ง แม็ทธิว เอเธอริงตัน ปีกตัวใหม่ที่เพิ่งคว้าตัวมาร่วมทีม จาก เวสต์แฮม ลงประเดิมสนามทันที ขณะที่ ริชาร์ด เครสเวลล์ กองหน้า ซึ่งถูกพักแข้งในเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม ที่ต้นสังกัด แพ้ ฮาร์ทลี่พูล 0-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะพ้นโทษแบน กลับมาเสริมทัพได้ตามปกติ

      พร้อมกันนี้ ทีมยังมีข่าวดีเมื่อ ออมดี้ เฟย์ (หลัง), ซาลีฟ ดิเยา (น่อง) และ และ เดฟ คิตสัน (หัวเข่า) สลัดอาการบาดเจ็บ ฟิตกลับมาพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง แต่ในรายของ แอนดี้ กริฟฟิน กับ มามาดี้ ซิดิเบ้ (หัวเข่า) และ ลีออน คอร์ท (ขาหนีบ) ยังชวดต่อไป เช่นเดียวกับ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ดาวยิงจาไมก้า ที่ติดโทษแบน

ลิเวอร์พูล

        ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิช ของทัพ "หงส์แดง" เตรียมมส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งชาวสเปน ลงสนามในเกมลีกเป็นครั้งแรก หลังบาดเจ็บไปตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แต่ในรายของ อัลวาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็กแดนกระทิงดุ ยังไม่น่ามีส่วนร่วมกับทีมในวันนี้ เพราะอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่ายังไม่หายดี เช่นเดียวกับ ชาบี อลอนโซ่ ห้องเครื่องตัวกลั่น กับ ฟิลลิป เดเก้น กองหลังสวิสที่เจ็บเท้าทั้งคู่

         อย่างไรก็ตาม ทีมก็จะได้ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ จอมทัพชาวฟ้า-ขาว ที่เจ็บข้อเท้า มาจากเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม ที่บุกไปเอาชนะ เปรสตัน 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิตพร้อมบัญชาเกมได้ตามปกติ ส่วน ซามี่ ฮูเปีย เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฟินแลนด์ หากเบียดแย่งตำแหน่ง กับ มาร์ติน สเคอเทล แนวรับที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา ลงสนามในวันนี้ได้ จะทำให้เขาทำสถิติลงเล่นเป็นนัดที่ 700 ให้กับทีม "หงส์แดง"

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : โทมัส โซเรนเซ่น - ไรอัน ชอว์ครอสส์, อิบราฮิมมา ซงโก้, อับดุลลาย ฟาย, แดนนี่ ฮิกกิ้นบอตธ่อม - ลอรี่ ดีแล็ป, เกล็น วีแลน, ออมดี้ ฟาย, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - ริชาร์ด ครอสส์เวลล์, เดฟ คิตสัน

ลิเวอร์พูล (4-5-1) : อัลเบิร์ต ริเอร่า - เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - เดิร์ค เค้าท์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส

จับยามสามตา

ลิเวอร์พูล กำลังของขึ้น ดูแล้ว ทีมไหนก็คงฉุดไม่อยู่ ดังนั้น เกมนี้ แม้ว่า พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายออกมาเยือน สโต๊ค ซิตี้ ทีมซึ่งเคยทำให้พวกเขาอับอายขายขี้หน้ามาแล้วในเกมที่ แอนฟิลด์ เมื่อตอนต้นฤดูกาล แต่มั่นใจว่า ขุนพล "หงส์แดง" จะสามารถชำแค้นคืนได้ทั้งต้นและดอกแน่นอน เนื่องขุมกำลังค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของเกมรุกที่ได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กลับมาแล้ว ส่วน เจ้าถิ่น สโต๊ค สภาพทีมยังมีปัญหานักเตะรุมเร้าหลายตำแหน่ง แถมฟอร์มก็ย่ำแย่ต่อเนื่อง ดูแล้ว เกมนี้ คงเป็น 3 คะแนนใสๆ สำหรับ ทีมเยือน

สกอร์ที่คาด : สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2