ทีเด็ด เอฟเอ คัพ : ลิเวอร์พูล -vs- เอฟเวอร์ตัน

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4

ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก, 2) -vs- เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก, 6) .......(23.00 น.)
สนาม : แอนด์ฟิลด์, ลิเวอร์พูล, อังกฤษ 
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งควบลูกลบสิบ

สถิติการพบกันที่ผ่านมา

19-01-09 ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
27-09-08 เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
30-03-08 ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
20-10-07 เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 (พรีเมียร์ลีก)
03-02-07 ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (พรีเมียร์ลีก)

ผลงานในรอบที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล
รอบแรก - ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ
รอบสอง - ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ
รอบสาม - ชนะ เปรสตัน 2-0 (เยือน)

เอฟเวอร์ตัน 
รอบแรก - ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ
รอบสอง - ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ
รอบสอม - ชนะ แม็คเคิ่ลฟิลด์ 1-0 (เยือน)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล
19-01-09 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เหย้า)
10-01-09 เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0 (เยือน)
03-01-09 ชนะ เปรสตัน 2-0 (เยือน) (เอฟเอ คัพ)
28-12-08 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-1 (เยือน)
26-12-08 ชนะ โบลตัน  3-0 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 11 ชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 0 ได้ 17 เสีย 7 แต้ม 25

เอฟเวอร์ตัน  
19-01-09 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน)
10-01-09 ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2-0 (เหย้า)
03-01-09 ชนะ แม็คเคิ่ลฟิลด์ 1-0 (เยือน) (เอฟเอ คัพ)
28-12-08 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (เหย้า)
26-12-08 ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0 (เยือน)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุดของ เอฟเวอร์ตัน : แข่ง 11 ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 11 เสีย 11 แต้ม 23

สภาพความพร้อมล่าสุด

ลิเวอร์พูล

         ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชของพลพรรค "หงส์แดง" ทีมรองจ่าฝูงในศึกพรีเมียร์ชิพ น่าจะมีการปรับทัพหลายตำแหน่ง โดย ดีเอโก้ คาวาเลียรี่ นายทวารบราซิเลี่ยน จะได้เฝ้าเสาแทน โฆเซ่ เรน่า โกล์มือ 1 ขณะที่ ฮาเวียร์ มาสเคร่าโน่ ห้องเครื่องชาวอาร์เจนไตน์ และ อันเดรียส ดอสเซน่า ฟูลแบ็กชาวเลี่ยน ที่เป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดล่าสุดที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา น่าจะมาเป็นตัวจริง

         เช่นเดียวกับ ไรอัน บาเบิล ปีกดาวรุ่งชาวดัตช์, ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์ชาวยิว และ ลูคัส เลว่า กองกลางชาวบราซิล ก็น่าจะได้โอกาสโชว์ฝีเท้าทั้งหมด ขณะที่ ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติเดนมาร์ก ที่เจ็บน่อง กัล อัลบาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็กอีกหนึ่งนักเตะสเปน ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง

         อย่างไรก็ตาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมที่เพิ่งมาซ้อมกับทีมเมื่อวันศุกร์ หลังเดินทางไปขึ้นศาลคดีทำร้ายร่างกายดีเจในผับ ยังน่าจะได้นำทัพต่อไป เช่นเดียวกับ เฟร์นานโด้ ตอร์เรส เพชฌฆาตชาวสแปนิช อาจได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมา และไม่มีอาการข้างเคียงรบกวน

 เอฟเวอร์ตัน

        เดวิด มอยส์ กุนซือของ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" ทีมอันดับ 6 ในศึกพรีเมียร์ชิพ มีข่าวดีในเกมรับ เมื่อ โจเซฟ โยโบ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติไนจีเรีย สลัดอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่าฟิตกลับมาพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง หลังไม่มีส่วนกับทีมใน 4 นัดหลังสุด แต่ทว่าอาจเริ่มต้นที่ซุ้มม้านั่งสำรองไปก่อน

        ขณะที่ มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยม ยังติดโทษแบนต่อไป  ส่วนปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บยังบานเบอะเหมือนเดิม ไล่ตั้งแต่ ยาคูบู อเย็กเบนี่ (เอ็นร้อยหวาย), หลุยส์ ซาฮา (เอ็นหลังหัวเข่า), เจมส์ วอห์น (เข่า) และ นูโน่ วาเลนเต้ (เข่า) ต่างก็จะหมดสิทธิ์ลงเล่นทั้งหมด

        คาดว่า เกมนี้ มอยส์ ไม่น่ามีการปรับทัพจากเกมนัดล่าสุดที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดย ทิม ฮาวเวิร์ด จะยืนเฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์มี โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์ แดนกลาง มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์, สตีเว่น พีนาร์, ลีออน ออสแมน ขณะที่ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ จะยืนเป็นหน้าเป้าเช่นเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่ - เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดรีย ดอสเซน่า - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, เลห์ตัน เบนส์ - มิเกล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์, สตีเว่น พีนาร์, ลีออน ออสแมน - วิคเตอร์ อนิเชเบ้

จับยามสามตา

         เป็นการพบกันอีกครั้งในรอบ 1 สัปดาห์ โดยนัดล่าสุด ลิเวอร์พูล เสียท่าให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงท้ายเกมทำให้ถูกแชร์แต้มไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น "เอลราฟา" จึงต้องนำบทเรียนดังกล่าว มาใช้ในเกมนี้ ซึ่งหากประเมินจากสภาพความพร้อมของทีม ก็ต้องบอกว่า "หงส์แดง" ค่อนข้างสมบูรณ์กว่าเหมือนเช่นเคย

         อย่างไรก็ตาม ขุนพล "ท๊อฟฟี่" ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้แนวรุกของพวกเขาจะไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ในส่วนของเกมรับแล้ว พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้เหนียวแน่น แต่ถึงกระนั้น ด้วยความที่ ลิเวอร์พูล ยังได้เปรียบที่เล่นในถิ่น และยังเป็นฝ่ายยิงออกนำไปก่อนในนัดแรก ก่อนที่จะมาเสียสมาธิในช่วงท้ายเกม นั่นก็แสดงว่า พวกเขามีโอกาสที่จะคว้าชัยได้อยู่แล้ว แต่ก็พลาดไปเอง ซึ่งในเกมนี้ พวกเขาคงจะเน้นในจุดนี้เต็มที่ เพราะไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0