แนะนำทีมในศึกฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009
THAILAND PREMIER LEAGUE
ศึกลูกหนังไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก จะเริ่มระเบิดแข้งให้แฟนบอลชาวไทยได้ชมได้เชียร์กันอีกครั้ง ในวันที่ 7 มีนาคม นี้ ซึ่งถ้าหากใครยังไม่รู้ว่าจะปันใจจากบอลเมืองนอก มาเชียร์ทีมลูกหนังในไทยทีมไหนดี งั้นลองมาทำความรู้จักกับ 16 ทีมแกร่ง ที่เตรียมลงชิงชัยในฤดูกาลนี้ กันดีกว่า ...
เริ่มจาก ทีมแรก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เจ้าของฉายา "มนุษย์ไฟฟ้า" แชมป์เก่าจากฤดูกาลก่อน สร้างผลงานได้สุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดของไทย ได้เป็นครั้งแรก และมาปีนี้ พวกเขาก็หวังรักษาฟอร์มการเล่นให้ดีเหมือนเดิมอีกครั้ง โดยทีมได้เสริมทัพผู้เล่นเด่นๆ ดังๆ เข้ามาหลายตำแหน่ง เช่น แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ผู้รักษาประตูอนาคตไกล ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งคว้าตัวมาจาก ราชประชา หรือ จะเป็นการดึงแข้งระดับอินเตอร์ อย่าง ริชาร์ด ฟัลเกา ดาวเตะบราซิเลี่ยน มาจาก โครินเธียนส์ ทีมดังในลีกประเทศบราซิล โดยจะมาผนึกกำลังกับแกนหลักคนสำคัญๆ ระดับทีมชาติอย่าง ณรงค์ชัย วชิรบาล, ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์, รังสรรค์ วิวัฒชัยโชติ, ปฏิภาณ เพ็ชรพูล และ รณชัย รังสิโย อดีตนักเตะในโครงการ "ช้างไทยไปเอฟเวอตัน"
ถัดมาที่ รองแชมป์เก่า อย่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมที่มีกองหลัง เหนียวแน่นหนึบ ที่สุด ในไทยลีก ปรับทัพเต็มสูบ สำหรับทวงบัลลังก์แชมป์จ้าวลูกหนังลีกสูงสุดเมืองสยาม ไล่ตั้งแต่ การคว้าตัว "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตยอดศูนย์หน้าทีมชาติไทย เข้ามารับตำแหน่งกุนซือ ขณะที่ในส่วนของผู้เล่น ก็ได้ สุรีย์ สุขะ กับ เกียรติประวุฒิ สายแวว สองแข้งที่ไปตกระกำลำบากอยู่กับสโมสร แมนฯ ซิตี้ ในอังกฤษ เข้ามาเสริมทัพ ส่วนนักเตะที่เป็นเสาหลักของทีมอยู่แล้วอย่าง ณัฐพงษ์ สมณะ, ธนา ชนะบุตร, ชลทิตย์ จันทคาม, สุระ สุขะ และ โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ก็ยังอยู่ช่วยทีมพร้ือมหน้าพร้ือมตาเหมือนเดิม
ขยับมาที่ทีม "มังกรแดง" บีอีซีเทโร ศาสน ทีมอันดับ 3 ครั้งที่แล้ว มีการถ่ายเลือดใหม่พอสมควร เพื่อทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนสู่สโมสรอีกครั้ง หลังตกอยู่ในสถานะ"ยักษ์หลับ" นานไปหน่อย ขณะเดียวกัน ผู้เล่นเสาหลักคนสำคัญของทีมอย่าง ***ตะวัน ศรีปาน มิดฟิลด์มากประสบการณ์ วัย 37 ปี และ อานนท์ สังข์สระน้อย ดาวซัลโวสูงสุดของลีก จากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็ยังพร้อมอาสาลงนำทัพเช่นเดิม แต่ทีมก็ปล่อยตัว "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติไทย ไปให้กับ ลีเซ่ ทีมในลีกา สอง เบลเยี่ยมแล้ว
ส่วน โอสถสภา เอ็ม-150 ทีมอันดับ 4 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป็น ทีม ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของลีกเมืองไทย มานานแสนนาน แต่ก็ ยังมีผลงาน ที่ยังไม่คงที่ คงวา เท่าไหร่นัก ปีนี้ ถือว่าไม่ค่อยมีการเสริมทัพหวือหวาเท่าไหร่ โดยยังคงไว้ซึ่งผู้เล่นชุดเดิม ๆ *****นำทีมโดย "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี อดีต ดาวซัลโว ไทยลีก หลายสมัย แต่จะถึงกระนั้น ทีมก็จัดการสอยตัว กิตติศักดิ์ ระวังป่า ผู้รักษาประตูจอมเก๋าทีมชาติ จาก ศุลกากร มาเพิ่มความแกร่งในเกมรับเช่นกัน
ขุนพล "ฮัลโล" ทีโอที ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว ทำการแข่งขันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนำทัพโดย อนุรักษ์ ศรีเกิด กัปตันทีม นอกจากนั้น ยังมีซูเปอร์สตาร์ดังอย่าง สุเชาวน์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์หน้าหยกทีมชาติไทย ร่วมด้วย สองแข้งอินเตอร์ ซึ่งเป็นถึงอดีตทีมชาติไอวอรี่โคสต์ชุดเยาวชน อย่าง โควาดิโอ โดเนียล กับ โคเน่ เซย์ดู แต่ว่าทีมก็ปล่อยตัว "กัตตูโซ่เมืองไทย" อิศวะ สิงห์ทอง มิดฟิลด์อดีตทีมชาติไทย ไปให้กับ ด่องตัม ลองอัน ทีมจากเวียดนาม แล้ว แต่เชื่อว่า ด้วย ฝีมือ การทำทีมของโค๊ชร่างเล็ก โค๊ช ก๊อก พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ซึ่งคุมบังเหียนทีม มานานกว่า 11 ปี จะพาทีมไปโล้ด ได้อีกครั้ง
ถัดมา "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม ทีมน้องใหม่จากครั้งที่แล้ว ลบคำปรามาสว่าคง "ไม่รอด" ในเวทีลีกสูงสุดได้อย่างน่าปรบมือ ดั้วยการจบที่ อันดับ7 ของ ลีกฟุตบอล ที่ดีที่สุดในประเทศ ซึ่งถือเป็นผลงานที่เกินคาดสำหรับทีมบอลจากจังหวัดเล็กๆ ที่มีหิงห้อย มากที่สุดในโลก อย่างพวกเขา นอกจากนี้ ในเรื่่องของการรวมตัวของชาว "แฟนคลับปลาทู" ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่แพ้ ต้นตำรับอย่าง ชลบุรี เอฟซี เลยทีเดียว กับตัวผู้เล่น หลักๆ ของฤดูกาลที่แล้ว อย่าง บีเรเม่ (ย้ายกลับ เมืองทอง ยูไนเต็ดแล้ว), ทรงวุฒิ บัวเพชร, คนึง บุราณสุข และอีกหลายคน ซึ่งแม้ชื่อชั้น และดีกรีนักเตะ อาจจะไม่ดังเปรี้ยงป้าง เท่าทีมยักษ์ใหญ่ แต่พวกเขาเหล่านี้ ก็ทำให้ทีม สามารถทำผลงานได้ดี เป็นฟุตบอลที่เล่นสนุก น่าติดตามอีกทีมหนึ่ง และเชื่อว่า ด้วยสปิริตของทีม จะทำให้ พวกเขายังคงเบียดสู้กับทีมยักษ์ใหญ่ ได้เหนี่อยไม่แพ้ฤดูกาลที่แล้ว อย่างแน่นอน
ด้าน นครปฐม ถือว่า ทำผลงานได้ดีเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถ้าเทียบกับปัญหาที่ทีมต้องประสบ แต่ก็สามารฝ่าฟันมาได้ จนถึงอันดับที่ 9 ซึ่งก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร และเป็นทีมจังหวัดอีกทีมนึง ที่ปักหลักเหนียวแน่น อยู่บนไทยลีก ในขณะที่เพื่อนคู่ทุกข์ คู่ยาก อย่างสุพรรณ ได้ตกชั้นลงไปก่อนหน้านี้ 1 ฤดูกาลแล้ว กับตัวผู้เล่นที่เราคุ้นชื่อกันอย่าง พิชิต อินทร์บาง, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น, อนุชา ช่วยศรี, ประดิษฐ์ สว่างศรี, ปณัย คงประพันธ์, ประวิทย์ วสุนทรา แต่ได้ข่าวมาว่า ปีนี้มีปัญหาเรื่องการเงิน ย้ายออกกันกระจาย อย่าง พิชิต ก็ไปอยู่กับเมืองทองแล้ว ทั้งนี้ จุดเด่นของทีม ก็คงไม่พ้น บรรดาแฟนคลับ ของชาว "หมูป่า" ที่ยังเกาะติดยึดตามกันมาอย่างเหนียวแน่น
มาดูทีมที่ชื่อใหม่ แต่หน้าเก่ากันบ้างดีกว่า เริ่มจาก สโมสร บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือ ชื่อเดิมคือ ธ.กรุงไทย ที่ยุบทีมไป เนื่องจาก ติดปัญหาเรื่องการจดทะเบียนเป็นองค์กรนิติบุคคล ตามเงื่อนไขที่ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ไม่ค่อยมีการเสริมทัพเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นการปล่อยผู้เล่นออกไปมากกว่า โดยเฉพาะสองแข้งดีกรีทีมชาติไทยอย่าง พิชิตพงส์ เฉยฉิว ที่ปล่อยไปให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ไกรเกียรติ เบียดตะคุ ที่ปล่อยไปให้ ทีทีเอ็ม-สมุทราสาคร ทว่า แกนหลักอย่าง รุ่งโรจน์ สว่างศรี, ยิ่งยง แทนโสภา, อนาวิน จูจิน นักฟุตบอลชุดเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุ 20 ปี และ โคเน่ กาซิม นักเตะต่างชาติ ที่โชว์ผลงานในไทยลีก อย่างโดดเด่น มานาน ยังอยู่ช่วยทีมเช่นเคย
การท่าเรือไทย เอฟซี หรือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นอีกทีมนึง ที่มีประวัติอย่าง ยาวนาน และเป็นทีมที่มีผลงานยอดเยี่ยม เรียกว่าเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลไทย ในอดีตเลยทีเดียว ดูจากผลงานที่ผ่านมาในอดีตนั้น ท่าเรือ แทบจะไม่เคยได้อันดับต่ำกว่า กลางตาราง เลย เรียกว่า ตั้งแต่เล่นไทยลีกมาตั้งแต่ปี 2540 นั้น ท่าเรือได้ อันดับ 2, 3, 4, 5 หมุนวนแบบนี้ไปมาโดยตลอด ก่อนที่จะต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้นกันอย่างเมามันส์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในปีนี้ ท่าเรือเสริมทัพกันอย่างรุนแรง มีผู้เล่นย้ายเข้า 10 กว่าคนเลยทีเดียว บรรดา ผู้เล่น ที่ชื่อคุ้นหู ก็มีได้แก่ พิพัฒน์ ต้นกันยา กองหน้าดีกรีทีมชาติไทย, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, บุญมี บุญรอด, โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ, ภานุวัฒน์ ตั้งอนุรัตน์, เฉลิมเกียรติ สมบัติปัน, นครินทร์ ฟูปลูก, วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ ( สังเกต ว่ามีผู้เล่นที่ย้ายมาจาก BEC ถึง 4 คนเลยทีเดียว )
จุฬา ยูไนเต็ด หรือ ชื่อดั้งเดิมว่า "จุฬา - สินธนา" ต้องเสีย " ซิโก้ " เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ซึ่งทำผลงานปีแรกกับทีมได้ดี ไปให้กับ ชลบุรี เอฟซี ในปีนี้ โดย จุดเด่นของทางทีม จุฬาฯ น่าจะเป็นเกมรุกที่ดุดัน ยิงประตูมากสุดเป็นอันดับ2 รองจาก BEC ด้วยผลงาน ยิงได้ 47 เสีย 41 ลูก ขณะที่ผู้เล่นดังๆ ก็มีได้แก่ สมปอง สอเหลบ และ อดิศักดิ์ กานู แต่น่าเสียดายที่ทีมจะไม่มีแข้งสองแข้งแกนหลักอย่าง วุฒิชัย ทาทอง กับ กิตติพล ปาภูงา ที่ปล่อยตัวไปให้กับ บีอีซีเทโรฯ แล้ว
พัทยา ยูไนเต็ด หรือ ชื่อเดิมว่า "โค้ก-บางพระ" ทีมอันดับ 11 จากครั้งที่แล้ว อัดฉีดทีมขนาดใหญ่ สำหรับลุยศึกลูกหนังไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยไปกว้านซื้อนักเตะจากทีมคู่แข่งมาเสริมทัพเพียบ แต่ที่เด่นๆ ก็น่าจะเป็น นิเวส ศิริวงส์ แนวรับตัวเก๋าทีมชาติไทย จาก บีอีเซเทโร ศาสน ผสมผสานกับผู้เล่นต่างชาติอย่าง เปาโล โรแบร์โต้ มิดฟิลด์บราซิเลี่ยน, คีเนลแมน อโตนาส กองหลังแอฟริกาใต้ และ ซาซ่า ดิซิช กองกลางชาวเยอรมัน
บางกอก ยูไนเต็ด หรือ ทีม ม.กรุงเทพ เดิม ภายใต้การสนับสนุน ของท่าน อดีตผู้ว่า อภิรักษ์ โกษะโยธิน เจ้ของฉายา "สิงห์ร้ายกล้วยน้ำไทย" ทีมที่ได้ชื่อว่า เป็นทีมอุดมศึกษา ทีมแรกและทีมเดียวในโลก ที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ ภายใต้การนำของ มาราโดน่าเมืองไทย โค๊ช สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ส่วนผู้เล่นที่ชื่อคุ้นหู ก็มีไม่เบา อย่างเช่น วีระ เกิดพุทรา, กิตติศักดิ์ ศิริแว่น, ปุณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ ฯลฯ แต่ก็มีที่ย้ายออกไปปีนี้ อย่างเช่น จิระ เจริญสุข (ชลบุรี), สุริยา ดอมไธสง (เมืองทอง ยูไนเต็ด), ธนพัฒ ณ ท่าเรือ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ทีทีเอ็ม-สมุทราสาคร หรือชื่อเดิมว่า สโมสรพนักงานยาสูบ มีนักเตะที่มีชื่อคุ้นหู ได้แก่ ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี, ศุภกร รามกุหลาบสุข (เยาวชนทีมชาติ), ขวัญชัย เฟื่องประกอบ และ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ แต่น่าเสียดาย ที่ปีนี้ ได้เสียผู้เล่นดีๆ ไปหลายคน อย่างเช่น นริศ ทวีกุล สุดยอด ผู้รักษาประตูคนนึงของประเทศเรา รวมถึง กฤษณะ ภูผา (สุพรรณบุรี), เจษฏา จิตสวัสดิ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด) และ มานิต น้อยเวช (ตำรวจ)
มาดูทางฝั่งทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุด กันบ้าง ซึ่งมี 3 ทีม เริ่มจาก ทีม "สิงโตคู่" เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ดิวิชั่น 1 ถือว่าเปิดตัวได้อย่างฮือฮา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงแข่ง เพราะไปกวาดผู้เล่นเด่นๆ ดังๆ ดีกรีทีมชาติไทย เข้ามาเสริมทัพเพียบ ไม่ว่าจะเป็น พิชิตพงษ์ เฉียดฉิว จาก บางกอกกล๊าส, จตุพงษ์ ทองสุข จาก บีอีซีเทโรฯ, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ุ, เจษฏา จิตสวัสดิ์ จาก ทีทีเอ็ม-สมุทราสาคร และ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าอนาคตไกล ที่ไปสอยตัวมาจาก แมนฯ ซิตี้ และเชื่อ่วา พวกเขาน่าจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่เตรียมสร้างสีสันให้กับลูกหนังไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ศรีราชา สันนิบาตฯ เป็นอีกทีมที่น่าจับตามอง ทั้งที่เพิ่งจะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นปีแรก แต่ก็มีความพร้อมหลายเรื่องเลยทีเดียว โดยปีนี้ ความน่าสนใจคงจะอยู่ที่ การได้โค๊ชหนุ่มไฟแรงจากเยอรมัน Mr. Milen Krastev อดีตนักเตะทีม Fortunar Cologne จากประเทศเยอรมัน และจบการศึกษา Master Degree Sport Science จาก Germany Sport University Cologne เข้ามาคุมบังเหนียน ส่วน ผู้เล่นของศรีราชา ยังคงไว้ซึ่งตัวเก่าๆ จากปีที่แล้ว 
ทีมสุดท้ายท้ายสุด ราชนาวี-ระยอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นทีมที่เป็นขาประจำในการขึ้นๆ ลงๆ ของไทยลีก โดย ราชนาวี ขึ้นชั้นมาทั้งหมด 5 ครั้งแล้ว มาในปีนี้ ราชนาวี ได้ไปรวมกับจังหวัดระยอง กลายเป็นราชนาวีระยอง ชาวระยอง ก็จะมีทีมของตัวเองให้ได้ติดตาม อีก 1 ทีม ส่วน นักเตะ ที่คุ้นหู ของ ราชนาวีระยอง ก็อย่างเช่น สมเจตร สัตบุษ, บรรลือศักดิ์ ยอดยิ่งยงค์, และปีนี้ก็ได้เสริมทีม โดยเซ็นนักเตะใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม อย่าง รัฐพร แซ่ตั๋น ดาวเตะจาก จันทบุรี
ที่มา :
http://www.coreballthai.com
http://th.wikipedia.org
*ปล. ข้อมูลยังอยู่ในระหว่างการอัพเดท...
ข้อมูล 16 ทีมฟุตบอล ในศึกไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009
เกร็ดความรู้ ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009
- จาก 16 สโมสรในลีก มีจำนวนนักเตะทั้งสิ้น 353 คน เป็นแข้งต่างชาติ 33 คน โดยมาจากไอวอรี่โคสต์ 11 คน, บราซิล 7 คน, แคเมอรูน 5 คน ญี่ปุ่น, เยอรมัน, กานา ชาติละ 2 คนที่เหลือเป็น เซเนกัล, บูกินาฟาโซ, ยูกันดา และ ลาว ชาติละคน
ทำเนียบแชมป์ (ตั้งแต่ปี 2539)
2552 ???
2551 การไฟฟ้า
2550 ชลบุรี
2549 ม.กรุงเทพ
2547/48 พนักงานยาสูบ
2546/47 ธ.กรุงไทย
2545/46 ธ.กรุงไทย
2544/45 บีอีซี เทโรศาสน
2543 บีอีซี เทโรศาสน
2542 ทหารอากาศ
2541 สินธนา
2540 ทหารอากาศ
2539/40 ธ.กรุงเทพ
25 / 03 / 2009 11:22