เจาะลึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : ยูเวนตุส -vs- เชลซี

ปรีวิวฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง

ยูเวนตุส (อิตาลี) VS เชลซี (อังกฤษ) ... (02.45 น.)

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ดิ โตริโน่        ราคา :เสมอ ยูเวนตุส
 

การพบกันล่าสุด

25/02/09 เชลซี  ชนะ ยูเวนตุส  1-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  

ผลงานรอบในรอบที่ผ่านมา

ยูเวนตุส

13/08/08 ชนะ อาร์ตมีเดีย  4-0 เหย้า รอบคัดเลือก รอบ 3
26/08/08 เสมอ อาร์ตมีเดีย 1-1 เยือน รอบคัดเลือก รอบ 3

17/09/08 ชนะ เซนิตฯ  1-0 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม
30/09/08 เสมอ บาเต้ บาริซอฟ 2-2 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
21/10/08 ชนะ เรอัล มาดริด 2-1 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม
05/11/08 ชนะ เรอัล มาดิริด 2-0 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
25/11/08 เสมอ เซนิดฯ  1-1 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
10/12/08 เสมอ บาเต้ บาริซอฟ 0-0 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม

25/02/09 แพ้ เชลซี  0-1 เยือน รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เชลซี

16/09/08 ชนะ บอร์กโดซ์  4-0 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม
01/10/08 เสมอ บีเอฟอาร์  คลูจ์ 0-0 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
22/10/08 ชนะ โรม่า  1-0 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม
04/11/08 แพ้ โรม่า  1-3 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
26/11/08 เสมอ บอร์กโดซ์  1-1 เยือน รอบแบ่งกลุ่ม
09/12/08 ชนะ บีเอฟอาร์ คลูจ์ 2-1 เหย้า รอบแบ่งกลุ่ม

25/02/09 ชนะ ยูเวนตุส  1-0 เหย้า รอบ 16 ทีมสุดท้าย   

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ยูเวนตุส

07/03/09 ชนะ โตริโน่  1-0 เยือน เซเรีย อา
03/03/09 แพ้ ลาซิโอ  1-2 เยือน โคปปา อิตาเลีย
28/02/09 ชนะ นาโปลี  1-0 เหย้า เซเรีย อา
25/02/09 แพ้ เชลซี  0-1 เยือน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
21/02/09 ชนะ ปาแลร์โม่  2-0 เยือน เซเรีย อา
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุด แข่ง 13 นัด ชนะ 9 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 24 ประตู เสีย 10 ประตู

เชลซี

07/03/09 ชนะ โคเวนทรี  2-0 เยือน เอฟเอ คัพ
03/03/09 ชนะ ปอร์ทสมัธ  1-0 เยือน พรีเมียร์ลีก
28/02/09 ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-1 เหย้า พรีเมียร์ลีก
25/02/09 ชนะ ยูเวนตุส  1-0 เหย้า แชมเปี้ยนส์ ลีก
21/02/09 ชนะ แอสตัน วิลล่า 0-1 เยือน พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุด แข่ง 14 นัด ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 25 ประตู เสีย 8 ประตู

ความพร้อมล่าสุด

ยูเวนตุส

     ทีม "ม้าลาย" ยูเวนตุส ของกุนซือเคลาดิโอ รานิเอรี่ ต้องปวดหัวกับสภาพทีมที่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิโกล่า เลกร็อตตาเย่ ปราการหลังตัวจริงที่มีปัญหาบริเวณหัวเข่ามาตั้งแต่เกมกับนาโปลี , มาร์โก มาร์คิออนนี่ มิดฟิลด์ตัวริมเส้นฝั่งขวาที่บาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ หรือแม้กระทั่งเมาโร คาโมราเนซี่ ที่เล่นในตำแหน่งเดียวกันก็มีปัญหาบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อมาตั้งแต่เกมที่แสตมฟอร์ด บริดจ์เช่นเดียวกัน และนอกจากนั้นล่าสุดทีมยังต้องมาเสียโมโม่ ซิสโซโก้ มิดฟิดล์มาลีไปอีกคน หลังจากได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าซ้ายแตกในเกม "ตูริน ดาร์บี้" กับโตริโน่ด้วย ยังผลให้ต้องพักแข้งถึง 2 เดือนเลยทีเดียว

     เกมนี้คาดว่าทีม "เบียงโคเนรี่" จะลงสนามไปค้นหาชัยชนะในระบบ 4-4-2 ตามเดิม ผู้รักษาประตูใช้จานลุยจิ บุฟฟ่อน ตามปกติ แผงกองหลัง 4 คนให้โอลอฟ เมลล์เบิร์ก จับคู่กับจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนแบ็คขวาเป็นงานของซเดเน็ค กรีเกร่า และคริสเตียน โมลินาโร่ ทำหน้าที่เป็นแบ็คซ้าย

     ขยับมาที่ตรงกลางสนาม ในตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาของเมาโร คาโมราเนซี่ และมาร์โก้ มาร์คิออนนี่ นั้น จะถูกแทนที่โดยฮาซาน ซาลิฮามิดซิช หรือวินเชนโซ่ ยาควินต้า ที่จะถูกขยับลงมาเล่น คนใดคนหนึ่ง ส่วนทางฝั่งซ้ายจะเป็นงานของพาเวล เนดเวด ที่จะสตาร์ท 11 คนแรกอย่างไม่มีปัญหาแน่นอนแล้ว ขณะที่คู่กลางมีโอกาสที่จะได้เห็นการประสานงานร่วมกันของติอาโก้ เมนเดส ที่จะได้รับโอกาสแทนที่ของซิสโซโก้ กับเคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ดาวรุ่งอัซซูร์รินี่ ที่จะคอยตัด-เชื่อมเกมต่อไป สำหรับคู่หัวหอกในแดนหน้านั้นน่าจะเป็นทีของอเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ตัวความหวังกัปตันทีม กับดาวิด เทรเซเกต์ ที่ได้พักมาเต็ม ๆ ในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ทั้งคู่
   
เชลซี

     ทีม "สิงห์บลูส์" เชลซี ของเทรนเนอร์กุส ฮิดดิ้งค์ ที่ฟอร์มดีเลิศสุด ๆ 5 นัดหลังสุดสะกดเป็นแต่คำว่า "ชนะ" นั้น  เกมนี้สภาพทีมค่อนข้างที่จะพร้อมทีเดียว เมื่อจะได้มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์จอมขยันกลับมาพร้อมลงสู่สนามอีกครั้งหลังจากเกมล่าสุดหายเจ็บกลับมาลงเล่นได้ในฐานะตัวสำรอง เช่นเดียวกับริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟโปรโตเกเซ่ ที่กลับมาหายดี พร้อมเป็นตัวเลือกในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามทีมน่าจะขาดนิโกลาส์ อเนลก้า กองหน้าเฟรนช์แมน ที่จะหมดสิทธิ์ลงสนามในเกมนี้ไม่ได้แน่นอนแล้ว หลังจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณนิ้วเท้า  เช่นเดียวกับเปาโล แฟร์เรยร่า ที่บาดเจ็บยาวปิดเทอมไปก่อนเพื่อนเรียบร้อย

     เกมนี้คาดว่ารองแชมป์เก่าจากอังกฤษจะลงสนามในระบบ 4-3-3 ไม่มีเปลี่ยนแปลง แผงแบ็คโฟว์ที่ลงยืนป้องกันประตูข้างหน้าปีเตอร์ เช็ก นั้น จะประกอบไปด้วยโชเซ่ โบซิงวา ยืนฟูลแบ็คฝั่งขวา , แอชลีย์ โคล ยืนฟูลแบ็คฝั่งซ้าย และจอห์น เทอร์รี่ กับอเล็กซ์ จับคู่กันในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟตามปกติ โดยให้ริคกี้ คาร์วัลโญ่ นั่งลุ้นเพื่อนร่วมทีมที่ม้านั่งสำรองข้างสนามไปก่อน

     ข้ามมาที่ตำแหน่งแผงมิดฟิลด์ตรงกลางสนามกันบ้าง เกมนี้น่าจะเป็นหน้าที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่จะลงนำทัพตามเดิม โดยจะประสานร่วมกับมิชาเอล บัลลัค และจอห์น โอบี มิเกล ต่อไป โดยมีมิชาเอล เอสเซียงคอยแสตนบายด์ข้างสนาม ด้าน 3 ตัวรุกสุดอันตรายนั้น คาดว่าจะเป็นซาโลมง กาลู , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และฟลอร็องต์ มาลูด้า ลงล่าตาข่ายไม่มีเปลี่ยนแปลง
  
   
รายชื่อ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ยูเวนตุส (4-4-2) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน ; ซเดเน็ค กรีเกร่า , โอลอฟ เมลล์เบิร์ก , จอร์โจ้ คิเอลลินี่ , คริสเตียน โมลินาโร่ ; ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช , เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ , ติอาโก้ เมนเดส , พาเวล เนดเวด ; อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ , ดาวิด เทรเซเกต์

เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก ; โชเซ่ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี่ , อเล็กซ์ , แอชลีย์ โคล ; จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , มิชาเอล บัลลัค ; ซาโลมง กาลู , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , ฟลอร็องต์ มาลูด้า

ทรรศนะ

     ทีมเจ้าบ้าน "เบียงโคเนรี่" ต้องการชัยชนะ (แบบไม่เสียประตู) เป็นอย่างมาก แม้จะขาดผู้เล่นตัวหลักไปพอสมควรก็ตาม ขณะที่ผู้มาเยือนจากเกาะอังกฤษซึ่งนำโดยยอดโค้ชอย่างกุส ฮิดดิ้งค์ ก็ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่ได้มาเล่นเพื่อดึงผลเสมอแต่อย่างใด เกมนี้คาดว่าน่าจะเป็นเกมที่สนุก โดยทางยูเวนตุสน่าจะเป็นฝ่ายที่เปิดเกมรุกเข้าใส่มากกว่าอย่างแน่นอน ส่วนทีมเยือนคงไม่ผลีผลามมากนัก อาศัยรอโอกาสที่เกมเปิด แล้วหาจังหวะโต้กลับเข้าโจมตีเล่นงานมากกว่า มองแล้วเชลซีที่มีความพร้อมในเรื่องของผู้เล่นมากกว่า ประกอบกับฟอร์มช่วงหลังก็กลับมาสุดยอดอีกครั้งด้วย น่าจะต้านทานทีมจากอิตาเลียนอยู่ หรือดีไม่ดีอาจจะชนะกลับไปได้ด้วย ถ้าทีมเจ้าบ้านมัวแต่บุกเพลินจนลืมดูหลังบ้านของตัวเอง

สกอร์ที่คาด ... ยูเวนตุส เสมอ เชลซี 1-1