ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด (1) -vs- ลิเวอร์พูล (2) ......(19.45 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
ราคา : แมนฯยู ต่อ ครึ่งลูกลบสิบ
ผลการพบกันในฤดูกาลนี้
พรีเมียร์ลีก - ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1
ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีก - ที่ แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1
- ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
สถิติการพบกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ฤดูกาล ผลการแข่งขัน
2007-2008 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
2006-2007 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (พรีเมียร์ลีก)
2003-2004 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (พรีเมียร์ลีก)
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
แมนฯ ยูไนเต็ด
11-03-09 ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก
08-03-09 ชนะ ฟูแล่ม 4-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ
05-03-09 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (เยือน)
01-03-09 เสมอ สเปอร์ส 0-0 (กลาง) คาร์ลิ่ง คัพ
25-02-09 เสมอ อินเตอร์ 0-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด : แข่ง 13 ชนะ 12 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 30 เสีย 5 แต้ม 37
ลิเวอร์พูล
10-03-09 ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก
03-03-09 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (เหย้า)
28-02-09 แพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-2 (เยือน)
26-02-09 ชนะ เรอัล มาดริด 1-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก
22-02-09 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (เหย้า)
ฟอร์มเกมเยือนในลีกของ ลิเวอร์พูล : แข่ง 14 ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 25 เสีย 8 แต้ม 32
สภาพความพร้อมล่าสุด
แมนฯ ยูไนเต็ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติมไปจากสามแบ็กขวาอย่าง แกรี่ เนวิลล์, *เวส บราวน์, ราฟาเอล ดา ซิลวา และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์ฮาร์ทแมน ที่เดี้ยงยาวพักทั้งฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เพื่อความสดของผู้เล่น ทำให้ทีมน่าจะมีการปรับทัพจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 เมื่อกลางสัปดาห์บางตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม *คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าอาร์เจนไตน์ ที่เป็นตัวสำรองในเกมยุโรป ยังต้องเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ *เวย์น รูนี่ย์ และ *ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เช่นเดียวกับ อันแดร์สัน มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวแซมบ้า ที่ยังต้องหาโอกาสสอดแทรกในตำแหน่งแดนกลางกับ ไรอัน กิ๊กส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, *ไมเคิ่ล คาร์ริค หรือ พาร์ค จี-ซอง
เกมรับ *ริโอ เฟอร์ดินานด์ แนวรับตัวแกร่ง ที่ลงเล่นได้ครบ 90 นาทีไม่มีปัญหา ในเกมกับ "งูใหญ่" หลังเพิ่งหายเจ็บกลับมา ก็ยังน่าจะยึดตำแหน่งได้ต่อไป โดยจะจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับ *เนมานย่า วิดิช ว่าที่นักเตะยอดเยี่ยมของลีกเมืองผู้ดีประจำปีนี้ เช่นเดิม
หมายเหตุ : *ตัวหลักของทีม
ลิเวอร์พูล
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชของ "หงส์แดง" จะได้ *อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกซ้ายสแปนิช พ้นโทษแบนจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 เมื่อกลางสัปดาห์ กลับสู่ทีม แต่ในราย *ยอสซี่ เบนายูน มิดฟิลด์เลือดยิว ยังคงเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ไม่พร้อมช่วยทีมในเกมนี้ เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟเดนมาร์ก กับ ฟิลิปป์ เดเก้น แบ็กชาวสวิส ที่ยังคงเจ็บหลังอยู่
อย่างไรก็ตาม บรรดาตัวหลักอย่าง *ชาบี อลอนโซ่, *ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, *เจมี่ คาร์ราเกอร์, *เดิร์ค เค้าท์ ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นเคย รวมถึง *เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงเบอร์ 1 ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่าฉีดยาลงเล่นในเกมยุโรป กับ *สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ที่ทั้งคู่ ถูกเปลี่ยนตัวออกมาพักในช่วงท้ายเกมกับ "ราชันชุดขาว" ก็พร้อมเป็นตัวหลักในเกมนี้เช่นเดิม
หมายเหตุ : *ตัวหลักของทีม
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - พาร์ค ชี-ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
จับยามสามตา :
แม้จะเพิ่งโชว์ฟอร์มเทพ อัด เรอัล มาดริด มายับเยิน 4-0 ในเกมยุโรป เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขุนพล "หงส์แดง" มักจะเล่นได้ดีอยู่แล้วในบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่แล้ว โดยเฉพาะยามที่เจอกับที่โคตรทีม-ของยุโรป ในทางกลับกัน มีบ่อยครั้งที่พวกเขาจะตกม้าตายในเกมลีกธรรมด๊า ธรรมดา
ดังนั้น เกมนี้ แม้ว่า ลิเวอร์พูล สภาพทีมจะมาแบบค่อนข้างสมบูรณ์ และมีเกมรับที่เหนียวแน่น แต่ทางฝั่งของเจ้าถิ่น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ปึ้กไม่แพ้กัน ทว่า สิ่งสำคัญ ที่ทีม "ปีศาจแดง" มีมากกว่าลูกทีมของ "เอล ราฟา" ก็คือ ความสม่ำเสมอ ชัยชนะแบบไม่หวือหวา แต่หากินได้นานๆ ผิดกับ ลิเวอร์พูล ที่มักจะเปร้งปร้างประเดี๋ยวประด๋าว แล้วก็ดร็อปลงไปทันที
นอกจากนี้ ทีม "เร้ดเดวิลส์" ยังมีทีเด็ดในการเข้าทำประตูที่ดูจะหลากหลายกว่า ทั้งจากลูกโหม่ง หรือ ฟรีคิก อีกทั้ง สถิติการพบกันในช่วงหลัง ยูไนเต็ด ก็มักจะกินเรียบ ยิ่งทีม "เดอะค็อบส์" จำเป็นต้องชนะหากหวังจะยืดอายุการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุของตัวเอง ทำให้พวกเขา อาจเล่นแบบกดดัน เสี่ยงเปิดเกมสู้ เพื่อหวังประตู นั่นก็ย่อมจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้แนวรุกของ ยูไนเต็ด ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่แน่นอน
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
Q
bukjed
14 / 03 / 2009 13:43