Man Utd -vs- Tottenham

สเปอร์ส ได้เลดลี่ย์ คิง กลับมายืนคู่ในแนวหลังกับ ไมเคิล ดอว์สัน อีกครั้ง  แต่หัวหอก บัลแกเรีย ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ สงสัย หายเจ็บไม่ทันแน่  และนัดนี้ ปาสกาล ชิมบงด้า จะได้ลงเล่นนัดแรก "debute" ให้กับ สเปอร์สด้วย

ส่วน แมนยู จะมี แกรี่ เนวิลล์ กลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง  หลังจากบาดเจ็บจนไม่ได้เล่นให้ทีมชาติ อังกฤษ ทั้งสองนัด  อลัน สมิธ กับ กาเบรียลไฮน์เซ่ คงยังไม่พร้อมลงเล่นในนัดนี้ เช่น เดียวกับ เนมันย่า วีดิช  ส่วน พอล สโคลส์ และ เวย์น รูนี่ย์ ครบกำหนดโทษแบนนัดนี้เป็นนัดสุดท้าย

Manchester United (from): Van der Sar, Kuszczak, Neville, Evra, Ferdinand, Brown, Ronaldo, Saha, Giggs, Park, Carrick, Solskjaer, O'Shea, Richardson, Fletcher, Jones, Silvestre.

Tottenham (from): Robinson, Chimbonda, Stalteri, Lee, Ekotto, Dawson, King, Davenport, Huddlestone, Lennon, Jenas, Davids, Murphy, Ziegler, Tainio, Defoe, Keane, Mido, Zokora.

สเปอร์สเสีย คาร์ริค ไปให้ แมนยู แม้จะได้ โซโกร่า มา แต่ยังคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีก  กองกลางวัดกันตัวตัว แมนยู ยังเหนือกว่า สเปอร์ส  แม้ว่าแมนยูจะขาดความคมในแนวหน้าบ้าง  แต่กองกลางแมนยู มาเติมช่วยยิงได้ทุกตัว  กิ๊กส์ยังเล่นได้ดี แม้อายุจะมากขึ้น  เขาจะเป็นคีย์แมนในนัดนี้  ห่วงอย่างเดียวตรงมีศึกสำคัญในแชมเปี้ยนลีกส์กลางสัปดาห์  อาจชนะไม่ขาดเท่านั้น  ต่อไปตรงครึ่งควบลูก เสียน้ำหน่อย ก็ได้ตังแน่

ต่อ แมนยู