ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหารของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วางแผนว่าจะให้แฟนบอลได้เข้าชมเกมการแข่งขันภายในสนามในช่วง 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้
ปัจจุบันรัฐบาลของสหราชอาณาจักรวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ว่าถ้าเกิดพวกเขายังสามารถดำเนินการตามโร้ดแม็ปที่วางเอาไว้ได้ และมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในอนาคตแล้วนั้น มันก็จะมีการอนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามได้สูงสุดเกมละ 10,000 คน ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป หรือเป็นจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุถ้าหากสนามนั้นๆ รองรับแฟนบอลได้น้อย
จากเรื่องดังกล่าวทำให้ถ้าเกิดทุกอย่างยังเป็นไปในทางที่ดีแล้วนั้น แฟนบอลก็จะได้เข้าไปชมเกมนัดสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่นนี้ในสนามเป็นที่แน่นอน เพราะโปรแกรมปิดฤดูกาลมันเตะในวันที่ 23 พฤษภาคมพร้อมกันทุกคู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ พรีเมียร์ลีก ก็กำลังคิดที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมบางสัปดาห์ให้ไปเตะกันในวันที่ 18-20 พฤษภาคมเช่นกัน โดยการทำอย่างนั้นจะส่งผลให้ฤดูกาลนี้ทั้ง 20 ทีมใน พรีเมียร์ลีก ได้ลงเล่นเกมเหย้าโดยที่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามกันจนครบ ซึ่งมันมีความเป็นไปได้ที่โปรแกรมที่ถูกเลื่อนจะเป็นโปรแกรมนัดรองสุดท้ายของฤดูกาลที่เดิมทีจะเตะพร้อมกันในวันที่ 17 พฤษภาคม
"ก็หวังว่า 2 โปรแกรมสุดท้ายของฤดูกาลนี้จะมีแฟนบอลเข้าไปชมเกมในสนามสูงสุด 10,000 คนกันครบทุกสนามนะ เราต้องผ่านขั้นแรกในโร้ดแม็ปของรัฐบาลกันให้ได้ก่อนเพื่อที่แฟนบอลจะได้เข้าไปชมเกมในสนามได้ เราหวังว่ามันจะเป็นการจบฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม" มาสเตอร์ส ระบุ
มาสเตอร์ส เสริมว่ามีความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้ พรีเมียร์ลีก ขาดทุนเป็นเงินรวมถึง 2 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 80,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว "มันมีการขาดทุนที่มหาศาล มันไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่ พรีเมียร์ลีก เท่านั้น แต่รวมถึงลีกทุกระดับ ตอนที่ฤดูกาลนี้จบลงน่ะเราก็มีโอกาสที่จะสูญเงินไปถึง 2 พันล้านปอนด์ในด้านรายได้จากวันที่มีการแข่งขันกับรายได้จากการถ่ายทอดสด หากนับตั้งแต่ที่มีการเริ่มแพร่ระบาดของเชื้อร้าย"