ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกหลังประกาศโปรเจกต์ โดยกล่าวว่าที่ทำไปก็เพื่อช่วยเกมฟุตบอลให้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปให้ได้
12 ทีมยักษ์จากทั่วยุโรป เพิ่งร่วมกันแถลงจัดตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก รายการแข่งขันระดับทวีปที่จะลงเตะช่วงกลางสัปดาห์ ชนกับรายการเดิมอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก
นั่นทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย ทั้งจากแฟนบอล, สโมสรต่างๆ รวมถึงองค์กรอื่นๆที่อาจได้รับผลกระทบจากรายการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ท่านประธานได้โต้ว่าสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริงเลย พร้อมยืนยันว่าทำไปเพื่อช่วยโลกฟุตบอล
เปเรซ กล่าวผ่านรายการทีวี El Chiringuito ว่า "ตอนนี้เรามีหน้าที่บอกให้คนเหล่านั้นทราบ ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดมันไม่ใช่เรื่องจริง"
"พวกเขาบอกว่ามันจัดขึ้นเพื่อทีมที่ร่ำรวย ซึ่งมันไม่จริงเลย, มันถูกจัดขึ้นเพื่อช่วยโลกฟุตบอล และมันตั้งอยู่บนความสามัคคี"
"บางคนอยากจะอธิบายมันอย่างงี้, บอกว่าทีมที่รวยจะรวยยิ่งขึ้นและทีมที่จนก็จะจนลงไปอีก ซึ่งมันไม่จริงเลย"
"พวกเราทุกคนจะออกมาอธิบายความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเราจะช่วยโลกฟุตบอลไว้, พวกเราจะไม่ยอมให้ฟุตบอลหายไปจากโลกเด็ดขาด"
"นี่เป็นทางเดียวที่จะช่วยสโมสรขนาดเล็กและกลางเอาไว้, คนที่มีสิทธิ์ออกความเห็นคือแฟนบอล 4 พันล้านคนทั่วโลก"
"พวกเขาอยากให้มีการแข่งขันที่ดีขึ้นและสูสียิ่งขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย มันไม่จริงเลยที่เราต้องการจะทำลายเกมลีก"
"บอริส จอห์นสัน? เขาถูกพูดให้เข้าใจว่าพรีเมียร์ลีกจะหายไป แล้วเขาจะเห็นว่ามันไม่จริงและมันเป็นเรื่องไร้สาระ"
"ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ"
ทั้งนี้ เปเรซยังได้อธิบายถึงผลกระทบของโคโรน่าไวรัส ที่ส่งผลเสียต่อวงการฟุตบอล
"เหล่าทีมใหญ่ในอังกฤษ, อิตาลี และสเปน ได้พบทางออกสำหรับช่วงเวลาแสนยากลำบากที่โลกฟุตบอลกำลังประสบ" เขากล่าว
"เรอัล มาดริด เสียรายได้ไป 400 ล้านยูโรในช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา, และนั่นแค่ เรอัล มาดริด ทีมเดียวนะ"
"เมื่อคุณมีรายได้จากทางทีวีเพียงอย่างเดียว คุณต้องเข้าใจว่าทางแก้คือการสร้างเกมที่มีการแข่งขันกันดุเดือดยิ่งขึ้น, น่าสนใจกว่าเดิม และสามารถดูได้จากทั่วทุกมุมโลก"
"นั่นคือจุดเริ่มต้นของพวกเรา เราได้ข้อสรุปว่าการเล่นซูเปอร์ลีกช่วงกลางสัปดาห์, แทนที่แชมเปี้ยนส์ลีก, จะช่วยทดแทนรายรับที่หายไปได้"
นอกจากนี้ เปเรซยังได้ตอบโต้ท่าทีของ ยูฟ่า โดยกล่าวว่านี่คือพัฒนาการที่จำเป็นของโลกฟุตบอล เพราะฟุตบอลกำลังสูญเสียความน่าสนใจไป
"ผมเข้าสู่วงการฟุตบอลในปี 2000 และมันก็พัฒนาขึ้น เช่นเดียวกับผู้คน, บริษัทต่างๆ และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค" เขากล่าวต่อ
"ฟุตบอลต้องปรับตัวตามช่วงเวลา, ฟุตบอลกำลังสูญเสียความน่าสนใจไป"
"มันเกิดขึ้นกับพวกเราทุกคน แทนที่จะทำกับแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งกำลังสูญเสียความน่าสนใจ"
"มันก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ตอนปี 1950, ผู้ต่อต้านการก่อตั้งยูโรเปี้ยนคัพ แต่จากนั้นมันก็เปลี่ยนฟุตบอลไป สู่ความน่าตื่นตาที่เราได้เล่นท่ามกลางทีมชั้นยอด และมีการแข่งขันสูง"
"ผมไม่ได้เป็นเจ้าของ มาดริด, ทุกสิ่งที่ผมทำก็เพื่อฟุตบอล ฟุตบอลกำลังอยู่ในช่วงเวลาคับขัน"
"คุณเห็นได้เลยว่าจำนวนคนดูลดลง ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดก็ถูกลงด้วย ทั้งสองอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว แถมถูกซ้ำเติมด้วยโรคระบาด"
"เราทุกคนกำลังแย่ ฟุตบอลเป็นกีฬาระดับโลก เรามีแฟนบอลอยู่ทั่วทุกมุมโลก ทีวีเป็นสื่อกลางที่เปลี่ยนแปลงเพื่อปรับให้เข้ากับช่วงเวลา"
"มีการวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่คนหนุ่มสาว, ช่วงวัยระหว่าง 16-24 ปี, หมดความสนใจในฟุตบอล เพราะมันมีจำนวนเกมมากเกินไป แต่น่าสนใจน้อยลง"
"พวกเขามีแพลตฟอร์มอื่นๆ เราต้องปรับตัว เราเข้าใจว่าต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กีฬาชนิดนี้ในระดับโลก"
นอกจากนี้ เปเรซ ยังเผยว่าพร้อมจัดการแข่งขันให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังเจรจากับทุกฝ่ายแล้ว
"เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.... ยูฟ่าหรือ? เราได้บอกไปแล้วว่าเราจะคุยกับ ยูฟ่า และ ฟีฟ่า" เขากล่าว
"พวกเราเป็นผู้ริเริ่ม มารอดูกันว่าที่ว่างอีก 5 ตำแหน่งจะเข้ามาจากทางไหน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงโมโหกัน เราได้กล่าวไปในแถลงการณ์แล้วว่าจะคุยกับ ยูฟ่า"
แม้นักฟุตบอลหลายคนจะออกมาต่อต้านแนวคิดดังกล่าว แต่ เปเรซ ยืนยันว่า ยูฟ่า ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้
"เหล่านักเตะเย็นใจได้เลย มันจะไม่เกิดขึ้นแน่ๆ"
"มันเป็นความสับสนของกลุ่มคนที่มีอำนาจผูกขาด"
"แน่นอนว่า ยูฟ่า เป็นองค์กรที่ผูกขาด พวกเขาต้องโปร่งใส พวกเขาไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีเลยตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของพวกเขา ผมไม่อยากพูดถึงมันหรอก"
"พวกเขาไม่จำเป็นต้องขู่ใครๆ เพราะไม่มีใครทำอะไรผิด พวกเรามองว่าวิธีการของพวกเขามันไม่ได้ผล ผมได้คุยกับทุกๆลีกและสมาคมฟุตบอลแล้ว"
"ไม่มีใครเข้าใจเลย พวกเขายังบอกว่าจะเริ่มมันในปี 2024, เราคงตายกันหมดแล้วในปี 2024 สโมสรต่างๆขาดทุนกันเป็นร้อยล้าน"
"พวกนักเตะถูกข่มขู่จากกลุ่มคนที่สับสนระหว่างความเป็นเจ้าของกับอำนาจผูกขาด"
"พวกเราไม่ควรถูกข่มขู่ เราต้องตั้งโต๊ะเจรจากัน พวกเรานำเสนอรูปแบบที่เราเชื่อว่าจะช่วยโลกฟุตบอลได้ อย่างที่พวกเขาเชื่อตอนก่อตั้งยูโรเปี้ยนคัพ"
"การผูกขาดสิ้นสุดลงแล้ว ฟุตบอลกำลังจะล้มละลาย ไม่ใช่แค่สโมสรใหญ่เท่านั้น แต่เป็นทุกๆสโมสร ถ้าทีมใหญ่ไม่มีเงิน พวกเขาก็ไม่อาจซื้อนักเตะจากทีมอื่นได้ มันคือพีระมิด"
เปเรซ ยังได้ยืนยันว่ารายการที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่รายการปิด พร้อมชี้ว่าเม็ดเงินที่ได้ก็มาจากสมาชิกถาวรเป็นหลัก
"มันเกิดขึ้นอยู่แล้วในตอนนี้ การตัดสินจากผลงานอย่างเดียวไม่อาจอยู่ได้ถึง 50 ปีหรอก" เขากล่าว
"นาโปลี หรือ โรม่า ต่างก็มีสิทธิ์... ถ้าไม่ใช่ในปีนี้ก็อาจเป็นปีหน้า แต่สิ่งที่สร้างเม็ดเงินคือทีมถาวรทั้ง 15 ทีมที่จะลงเตะกับพวกเขาในทุกๆสัปดาห์ มันจะเป็นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
"ไม่มีกีฬาได้ที่มีผู้คน 4 พันล้านรอคอยชม, จริงๆแล้วพวกเขารอชมแค่ไม่กี่ทีมเท่านั้น"
"แชมเปี้ยนส์ลีกมาน่าสนใจเอาก็ตอนรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไหร่"
"เราเล่นกับทีมระดับกลางๆที่ไม่ได้น่าดึงดูดใจ เมื่อเรามีเงินเราก็พูดคุยและแบ่งสรรปันส่วนกัน, เราเชื่อในความสามัคคี เราชื่อในความสามามัคคีและคุณค่าที่เรายึดถือ"
เปเรซ ทิ้งท้ายด้วยการตอบโต้คำวิจารณ์ว่ารายการนี้จะทำลายระบบลีกในประเทศ โดยแย้งว่ายิ่งทีมใหญ่แข็งขึ้นเท่าใด ลีกก็ยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น
"อย่างที่ลึกต่างๆเป็นในตอนนี้ คือพวกเขาคือรายการที่หยั่งรากลึก" เขากล่าว
"โรคระบาดได้เปลี่ยนฟุตบอลและพวกเราทุกคนไป แล้วทำไมลา ลีก้าถึงจะแย่ลงล่ะ?"
"พรีเมียร์ลีกหยั่งรากลึกในประเทศอังกฤษ... ถ้ามีทีมใดแกร่งขึ้น พวกเขาที่เหลือก็จะแกร่งขึ้นด้วย"
"หากมีทีมใหญ่น้อยลงหรืออ่อนลง มันก็กระทบฟุตบอลโดยรวม ฟุตบอลจะเสียความน่าสนใจในหมู่คนอายุน้อย มันเป็นเรื่องที่แน่นอน"
"เราต้องการสร้างความน่าสนใจ ให้พวกเขาออกห่างจากแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือ ยิ่งเกมฟุตบอลดีขึ้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งสร้างความบันเทิงให้พวกเขามากขึ้นเท่านั้น"
ขอบคุณข่าวจาก : soccersuck.com